“ปลอดประสพ” ปลุกรัฐบาลตื่นรับมือ “พายุโนรู” เข้าไทย เหตุฝนตกหนักเพิ่มน้ำนับแสนลูกบาศก์เมตร กระทบคนไทยครึ่งประเทศ แนะ ตั้งวอร์รูมจริงจัง ประกาศหยุดราชการ เตรียมทหาร ตำรวจ ประจำการช่วย ปชช.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรค พท. กล่าวว่า รัฐบาลต้องเตรียมการรับมือกับพายุโนรูที่จะสร้างความรุนแรงและความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยข้อมูลที่รัฐบาลควรรู้ คือพายุโนรูจะเป็นพายุโซนร้อนที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่ประเทศไทยเคยประสบมา และขนาดของพายุลูกนี้ครอบคลุมเนื้อที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง รวมพื้นที่ทั้งหมดครึ่งหนึ่งของประเทศหรือมากกว่า 250,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจะกระทบกับพี่น้องประชาชน 30-35 ล้านคน
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า พายุโนรูจะอยู่ในประเทศไทย 3-5 วัน โดยจะทำให้ฝนตกหนัก 100-300 มิลลิเมตรหรือมากกว่าในบางพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณฝนที่สูงมาก ทั้งนี้ ปริมาณฝนดังกล่าวจะเพิ่มน้ำท่า 100,000 ลูกบาศก์เมตรหรือเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล 10 เขื่อน ซึ่งแม้เขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จะมีความสามารถรับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร และระบบน้ำในภาคเหนือ รับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้พื้นที่ภาคกลางอิ่มตัวแล้ว ไม่มีความสามารถซึมน้ำได้อีก ดังนั้น ปริมาณน้ำฝน 100,000 มิลลิเมตร จะมีน้ำเหลือไหลลงสู่ภาคกลาง 70,000-80,000 ลูกบาศก์เมตร และบางพื้นที่น้ำจะไหลบ่าลงมาในลักษณะหน้ากระดาน
นายปลอดประสพกล่าวด้วยว่า พายุลูกนี้เป็นพายุลูกที่ 16 แต่เป็นพายุที่ให้น้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อผสมความชื้นในทะเลจีนตอนใต้ และมีร่องมรสุมในพาดผ่านตรงกลาง มีหน้าที่เป็นกับดักความชื้นที่ถูกป้อนจากมหาสมุทร รัฐบาลจึงต้องเร่งเตรียมการ โดยปริมาณน้ำจากพายุโนรูจะไหลลงสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเวลาเดียวกันกับน้ำทะเลขึ้นสูง ซึ่งยากต่อการระบายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีพายุเข้ามาอีก 1-3 ลูก แต่ความรุนแรงน้อยกว่า
นายปลอดประสพกล่าวอีกว่า จากการคาดการณ์ดังกล่าว รัฐบาลต้องเตรียมการ 5 ข้อ ดังนี้ 1.ต้องเตรียมการเผชิญเหตุภายในอีก 24 ชั่วโมง โดยต้องทุ่มเทสรรพกำลังในการเผชิญเหตุคือ ตั้งหน่วยเผชิญเหตุประจำตำบล, เรียกทหารประจำการกระจายไปในตำบล เพื่อช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการเผชิญเหตุ, จัดเตรียมเครื่องมือในการเผชิญเหตุให้พร้อม เช่น เรือบด เชือก ฯลฯ, พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่ราบควรใช้ทหาร ส่วนพื้นที่บนเขา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานและกรมป่าไม้ ประจำการในพื้นที่ใกล้หมู่บ้าน ประชาชน, ตำรวจให้อยู่ในเมืองอย่างเดียว
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า 2.เมื่อผ่านระยะ 3 วันไปแล้วจะเป็นระยะค้นหา ช่วยเหลือและเตรียมการอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อม เช่น เรือ เฮลิคอปเตอร์ อุปกรณ์ให้กับกลุ่มงานทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น 3. ระยะการฟื้นฟู ต้องทำ 6 เรื่อง คือ นำบุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาช่วย, นำบุคลากรด้านสาธารณสุขเข้ามาช่วยเหลือ รักษาโรคที่เกิดจากน้ำนิ่ง, ส่งของใช้อุปโภคบริโภคให้ประชาชน, ใช้โรงเรียนและวัดให้เป็นประโยชน์, นำทหารจากหน่วยช่าง เพื่อซ่อมแซมสาธารณประโยชน์ และให้กรมทางหลวงชนบทและกรมชลประทานซ่อมแซมสาธารณูปโภค
อย่างไรก็ตาม บทบาทของรัฐบาลที่ควรจะเป็นคือ การตั้งวอร์รูมของรัฐบาล ต้องเพิ่มการทำงานให้มีบทบาทที่ชัดเจนและจริงจังมากกว่านี้ จัดหาบุคลากรที่มีความรู้และมีอำนาจเต็มเข้าไปสั่งการโดยตรง และต้องเป็นคนรู้จริง ทั้งนักวิชาการ ผู้มีประสบการณ์ ผู้มีความรู้ รวมถึงรัฐบาลต้องประกาศเป็นวันหยุดราชการทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเช่นเดียวกับเวียดนามที่ดำเนินการแล้ว ทั้งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ ฯลฯ
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า 4.การตั้งวอร์รูมในทำเนียบรัฐบาล ต้องเปิดระบบทีวีพูลและวิทยุพูล โดยต้องออกข่าวอย่างต่อเนื่อง สื่อสารไปยังประชาชน อย่างเช่น เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติสึนามิ เมื่อปี 2547 เจ้าหน้าที่รายงานของทีวีพูลประจำการที่ตนตลอด และ 5.รัฐบาลต้องสั่งการให้รัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ประสบเหตุโดยเด็ดขาด ไม่ต้องลงพื้นที่โดยไม่จำเป็น
“สิ่งที่พรรค พท.กังวลมากๆ คือ ขณะนี้โชคร้ายที่ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีตัวจริง สร้างความกังวลให้กับประชาชน เพราะไม่กล้าสั่งการหน่วยงาน พรรคร่วมรัฐบาลยังมีการแตกขั้ว ณ วินาทีนี้ มีพายุใหญ่ลูกใหญ่ที่สุดในโลก 3 ลูก เป็นเสียงเตือนภัยให้กับรัฐบาลในปัจจุบันและรัฐบาลในอนาคตว่าเกิดความผิดปกติ ซึ่งเชื่อได้ว่าเกิดภาวะโลกร้อน รัฐบาลต้องเตรียมตัว เตรียมแผน เตรียมสมองให้พร้อม พรรค พท.เราคิดเรื่องนี้เยอะ เตรียมพร้อมไว้เยอะ เพราะผมเคยทำจึงรู้เรื่องนี้ ท่านต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจังตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ผมหวังว่าที่พรรค พท. ให้สติในวันนี้ท่านจะฟัง เราเตือนเพราะเป็นห่วงประชาชน เรามีความรู้ มีประสบการณ์ และไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนอีก” นายปลอดประสพกล่าว