น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ทำให้เกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นความเสียหายมันเป็นองค์ประกอบอยู่ในนั้น ความผิดทางอาญาผู้ที่เป็นจำเลยต้องกระทำความผิดตามองค์ประกอบทุกข้อถึงจะมีความผิด ถ้ามันขาดองค์ประกอบไปข้อใดข้อหนึ่ง ก็จะไม่มีความผิดตามมาตรา 157 กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนได้รับความเสียหาย ถ้าไม่พบว่าเกิดความเสียหาย มันก็ขาดองค์ประกอบความผิด
เมื่อถามว่าจากข้อมูลของปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่าข้าว 3.9 แสนตันไม่ได้หายนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์จะนำมาเป็นข้อต่อสู้ได้หรือไม่ น.ส.สมลักษณ์ กล่าวว่า ถ้ามีพยานหลักฐานตามข้อกฎหมาย สามารถยกขึ้นมาต่อสู้ได้อยู่แล้ว เมื่อถามว่าสะท้อนได้หรือไม่ว่า กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ น.ส.สมลักษณ์กล่าวว่า แสดงว่าความเสียหายมันยังไม่แน่นอน ยกเว้นแต่เป็นการกะประมาณเอา ขณะที่มีหลักการอย่างหนึ่งว่า ความเสียหายในคดีแพ่งหรือค่าเสียหายความผิดทางละเมิด กำหนดค่าเสียหายมามากแค่ไหนก็ตาม อาจไม่ให้ตามนั้น ศาลจะดูความเสียหายตามความเป็นจริง
น.ส.สมลักษณ์ กล่าวว่า การดำเนินทางแพ่งดำเนินการไปได้ ขณะเดียวกันโจทก์จะร้องให้ศาลรอผลคดีอาญาก่อน ถ้าผลคดีอาญาออกมาเป็นอย่างไร ก็จะมาดำเนินคดีทางแพ่งต่อไป ศาลจะดำเนินการในลักษณะแบบนี้ จะไม่พิพากษาคดีทางแพ่งไปก่อน ต้องฟังผลคดีอาญาก่อน ส่วนที่เกรงคดีจะขาดอายุความ รัฐบาลไม่ต้องกลัว เพราะเมื่อฟ้องคดีแพ่งแล้ว ศาลจะรอผลคดีศาลอาญา ตามอายุความจะต้องหยุดลง จึงไม่ขาดอายุความ
ทั้งนี้ ความเสียหายเกิดจากนโยบายหรือเกิดจากทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในชั้นปฏิบัติ ต้องแยกกัน ถ้าเป็นความผิดนโยบายเป็นเรื่องของนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี แต่ถ้าเสียหายในขั้นปฏิบัติ ก็ต้องไปว่าผู้ปฏิบัติ สิ่งที่ตนพูดเป็นหลักของกฎหมายโดยทั่วไป ส่วนอดีตนายกฯ จะผิดหรือไม่ผิด ขึ้นอยู่กับศาลวินิจฉัย