เริ่มแล้ว ศาลรธน.ถกคำร้อง 8 ปี “บิ๊กตู่” ก่อนอ่านคำวินิจฉัยบ่ายสาม วางกำลังตร. 300 นาย รักษาความปลอดภัยเข้ม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 กันยายน ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมเพื่อพิจารณาปรึกษาหารือก่อนลงมติกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ และจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ โดยจะมีการถ่ายการอ่านคำวินิจฉัยจากห้องพิจารณาลงมายังห้องสื่อมวลชนที่บริเวณลานชั้น 2 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับจะมีการถ่ายทดผ่านยูทูบ “สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ” ด้วย
โดยก่อนหน้านี้นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยประกาศระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุหรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยและความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น เพื่อให้กระบวนการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงออกประกาศกำหนดให้อาณาบริเวณหรือพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A ) ตามแนวเขตเป็นพื้นที่ชั้นนอกในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย บุคคลและยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่ ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน และห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่ควบคุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาปฏิบัติงานหรือมาติดต่อราชการ และต้องผ่านการตรวจตัวบุคคลและสิ่งของที่นำมา ตามวิธีการของหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและคงามสงบเรียบร้อย มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เวลา 19.00 น. ถึง วันที่ 3 ตุลาคม เวลา 06.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเช้าวันนี้เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีการกั้นรั้วเหล็ก พร้อมวางกำลังตำรวจกว่า 300 นาย โดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ โดยพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) พร้อมตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดหรืออีโอดี ร่วมกับตำรวจ บก.น.2 และตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยรอบบริเวณศาล ก่อนการวินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปีหรือไม่
ต่อมาเวลา 09.50 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) เปิดเผยว่า ข้อมูลการข่าวขณะนี้ ทราบว่ามีกลุ่มผู้ที่จะมารอรับฟังคำวินิจฉัยที่ศาล จึงประสานกับพนักงานศาลเพื่อวางกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณ พร้อมขยายเขตอำนาจศาลและประกาศให้พื้นที่รอบศูนย์ราชการอาคาร เอ เป็นพื้นที่ควบคุมตั้งแต่วานนี้จนถึงวันที่ 3 ตุลาคม เพื่อให้การฟังคำพิพากษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยได้ประสาน บช.น.และสน.ทุ่งสองห้อง วางกำลังตำรวจ 300 นาย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเดียวกันกับการวินิจฉัยทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้สำหรับผู้ชุมนุมนั้น ขอให้คำนึงถึงระเบียบ ข้อกฎหมายและคำสั่งศาลที่เกี่ยวข้องต่อการกระทำที่เสี่ยงจะมีความผิดต่างๆ ก็ขอให้ละเว้น เพราะจะมีโทษตามมา โดยนับตั้งแต่ปี 2563 มีการดำเนินคดีกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่แล้ว แต่ต้องอยู่ในกรอบและไม่ไปกระทบกับคนอื่น
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวถึงการชุมนุมที่สกายวอล์คปทุมวัน เป็นพื้นที่ของ สน.ปทุมวัน และแยกราชประสงค์ พื้นที่ของ สน.ลุมพินี ได้รับรายงานจาก ผกก.สน.ลุมพินี และ ผกก.สน.ปทุมวัน แล้วว่ามีการแจ้งจัดการชุมนุม ก็ขอให้ผู้จัดปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เงื่อนไขและกรอบเวลาที่ทำเรื่องไว้ เพราะยังมีข้อบังคับตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาควบคุม เบื้องต้นมีการเตรียมกำลังตำรวจไว้เพียงพอต่อการดูแลสถานการณ์ ขอให้ผู้ที่จะออกมาชุมนุม ให้ศึกษาสิทธิและหน้าที่ให้ดี เพราะหากมีการปิดถนน ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบ
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง