จ่านิว ชี้วิวาทะรำลึก 6 ตุลาลานคนเมือง ‘บกพร่องทั้ง 2 ฝ่าย’ พูดไปกลัวทัวร์ลง แนะเข้าใจคนจัด

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามวัน ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม กรุงเทพฯ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ ‘จ่านิว’ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ หลังร่วมกิจกรรม ‘รถไฟฟ้าสายสีดำ’ ซึ่งจัดโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด กรณีวิวาทะงานรำลึก 49 ปี 6 ตุลา ที่ลานคนเมือง ว่าความจริงแล้วงาน 6 ตุลา 2519 นั้นเป็นงานที่ถูกตีความและถูกนำไปพูดในหลายความหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะท้ายที่สุดประเด็นแรกที่เราพูดถึงกันคือการรำลึกถึงเหตุการณ์ที่มีการสังหารหมู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่การที่มีหลายกลุ่มนำไปขยาย เช่น การนำศิลปะหลายอย่างเข้ามาเพื่อเป็นการจูงใจให้คนได้รับรู้ และเข้าถึงประเด็นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะทำ ทำให้คนเข้าถึงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง ซึ่งส่วนตัวมองว่าต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน (อ่านข่าว บก.ลายจุด ชี้ขบวนปชต.กระทบกระทั่งเรื่องปกติ แต่อย่าขยายเป็นเรื่องใหญ่ ติงกันได้ในฐานะเพื่อนร่วมสู้)

“สังคมไทยเรานั้นหากเราพูดกันอย่างไม่หลงอยู่ในอัลกอริทึมของตัวเอง ต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนใหญ่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ได้สนใจประเด็นทางการเมืองมากนัก ดังนั้น การนำศิลปะหลายอย่างเข้ามาเพื่อเป็นการจูงใจให้คนได้รับรู้และเข้าถึงประเด็นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะทำ ทำให้คนเข้าถึงมากขึ้น แต่ก็กลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง

ความเห็นผมในเรื่องนั้น โดยเฉพาะเรื่องการถือป้ายมันไม่ใช่ประเด็นเรื่องเกี่ยวกับ 112 แล้ว เพราะในงานก็ไม่มีใครปิดปากว่าประเด็น 112 มันพูดถึงไม่ได้ ปัญหาคือ ในฐานะที่เราเป็นนักเคลื่อนไหว บางทีต้องเข้าใจว่าคนหน้างานต้องจัดการ ควบคุมสถานการณ์ในหลายๆ เรื่อง มันไม่ใช่กิจกรรมการแสดงออกแบบแฟลชม็อบ หรือเชิงสัญลักษณ์ทั่วไป

บางครั้งคนจัดงานต้องมีการเตรียมการ ประสานงานหลายทิศทาง ก็ต้องเข้าใจเขาด้วย หลายคนอาจจะมองว่าผู้จัดงาน 6 ตุลาที่หน้าศาลาว่าการ กทม.มีการแสดงออกที่รุนแรงเกินไปในบางประเด็น แต่ในแง่หนึ่งก็ต้องเข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าคุณเข้าไปขัดจังหวะบางอย่างคนต้องไม่พอใจอยู่แล้ว มันไม่เกี่ยวว่าจะเป็นประเด็นเรื่องอะไร คนเราถ้าเจออะไรที่มันเกินจากเหตุการณ์ อารมณ์มันก็ต้องมีอยู่แล้ว อย่างการดีเบตเรื่อง 112 ซึ่งมันไม่เกี่ยว มันเกี่ยวที่ว่าผู้จัดงานจะรับมืออย่างไร เขาก็ต้องมีแผนการรับมือกับฝ่ายนักกิจกรรมไม่ให้การจัดการงานระดับใหญ่อย่างนั้นมีปัญหา” นายสิรวิชญ์กล่าว

ADVERTISMENT

นายสิรวิชญ์กล่าวต่อไปว่า หากอยากให้คนอื่นเข้าใจเรา เราก็ต้องเข้าใจคนอื่นด้วย ส่วนตัวคิดว่าบกพร่องทั้ง 2 ฝ่าย

“อันนี้พูดไปก็กลัวโดนทัวร์ลง แต่ผมว่าเราต้องแยกประเด็นให้ออก ผมคิดว่ามีความบกพร่องทั้งสองฝ่าย แต่บางอย่างก็ต้องเข้าใจเขาว่าเขาไม่ได้ห้ามในการแสดงออก เพียงแต่ว่าบางอย่างต้องมีการจัดการดูแล ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความคิดความเห็นแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมไม่อยากให้กลายเป็นว่าเอาประเด็น 112 ทำให้คนรู้สึกว่าเป็นประเด็นที่หนัก มันทำได้ แต่ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน” นายสิรวิชญ์กล่าว

ADVERTISMENT

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image