ส.ส.เจี๊ยบ ซัดอำนาจเผด็จการ หยุดแทรกแซงการเมือง ‘หลัง 14 ตุลา’ เหตุกลางเมืองเกิดซ้ำซาก ต้องเฉดกองทัพให้พ้น
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ในวาระครบรอบเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มูลนิธิ 14 ตุลา จัดกิจกรรม รำลึก 14 ตุลา ประจำปี 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 09.00 น. มีพิธีวางพวงมาลาและดอกไม้ โดยตัวแทนจากพรรคการเมือง, มูลนิธิ, ตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมือง และภาคีภาคประชาชน
หลากวงการ ส่งตัวแทนวางหรีดอนุสรณ์สถานฯ สดุดี ‘วีรชน 14 ตุลา’ นายกฯ-สภา-พรรค-นักสู้
‘ชัชชาติ’ ส่ง ผอ.เขตพระนคร ‘รำลึก 14 ตุลา’ คารวะปณิธานผู้กล้า กทม.ขอเป็นหนึ่งพลังสรรค์สร้าง ปชต.
ตักบาตรพระสงฆ์ 14 รูป อุทิศวีรชน 14 ตุลา แน่นอนุสรณ์สถานฯ แยกคอกวัว
เวลา 10.08 น. นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลกล่าวสดุดี และคาราะดวงวิญญาณของวีรชน 14 ตุลา โดยกล่าวว่า 14 ตุลาคม มีทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้ ชัยชนะคือเราสามารถไล่เผด็จการทรราชออกไปนอกประเทศได้ แต่ความพ่ายแพ้คือ 3 ปีหลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ทำให้สูญเสียพี่น้องผู้รักประชาธิปไตย ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย และหลังจากนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นใจกลางเมืองหลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ความเจ็บปวดประเมินค่ามิได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 จนถึงเหตุการณ์ยิงกระสุนจริงในปี 2553 และไม่เคยมีฆาตรกรสั่งฆ่าประชาชนถูกนำตัวมาลงโทษได้ เหตุการณ์เหล่านี้หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจะขับไล่เผด็จการทรราชได้เป็นครั้งคราว แต่หากจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เราจะต้องเปลี่ยนที่โครงสร้างของประเทศ เอากองทัพออกไปจากการเมือง ยุติการเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมืองของอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ หรือมือที่มองไม่เห็น หยุดการแทรกแทรงทางการเมืองจากองคาพยพที่ไม่เกี่ยวข้อง”
