อาฟเตอร์ช็อก ‘โน้ส เดี่ยว13’..นักการเมืองมองมุขเจ็บ-จิกแรง ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’
วันที่ 15 กันยายน หลัง “โน้ส -อุดม แต้พานิช” โชว์เดี่ยวไมโครโฟน 13 จบบนเวที แต่นอกเวทีไม่จบจากมุขจิกแรงใส่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ”บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ” เรียกเสียงฮากันสนั่น แต่แฟนคลับ”บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” กลับหัวร้อน รับไม่ได้
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ระหว่างไปเลือกซื้อหนังสือที่บูธสำนักพิมพ์มติชน ในงานงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า ตนมางานหนังสือทุกปีอยู่แล้ว คงมีหนังสือหลายๆ เล่มเอาไปใช้ประโยชน์ วันนี้หลายเรื่องในการแก้สังคมเหลื่อมล้ำต้องแก้ด้วยความรู้ ทำอย่างไรให้ทั้งโครงสร้างและพัฒนาระบบ ถ้าคนมาอ่านหนังสือเยอะก็รู้ทัน เดี๋ยวจะมีคนแบบโน้ส-อุดม แต้พานิช เยอะขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดเห็นอย่างไรเรื่อง โน้ส-อุดม ที่มีมุขวิพากษ์วิจารณ์การทำงานพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นปกติ ในสภาพูดแรงกว่าโน้ส-อุดม แต่ต้องยอมรับว่าคนในสภาสู้โน้ส-อุดมไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องแก้ไป
ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวถึงกรณีโน้ส-อุดม แต้พานิช วิพากษ์วิจารณ์ภาพการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ในโชว์เดี่ยวฯ 13 ว่า มองว่าเป็นเรื่องบวก เพราะในระบอบประชาธิปไตยต้องพูดคุยได้ วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้ ผู้นำต้องใจกว้าง เช่นเดียวกับกรณีของนักร้อง 4 คนที่ร้องเพลงเสียดสีนายกฯ ถ้าเอาคดีความมาปิดปากไม่ให้เขาพูด ปราบสิบจะกลายเป็นหมื่นเป็นแสน ดังนั้นต้องเปิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นและเปิดใจรับฟัง บางคนพูดแล้วมีเหตุผลมากกว่าผู้นำประเทศบางคน
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ “โน้ส-อุดม แต้พานิช เดี่ยวไมโครโฟน วิจารณ์รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาในระบอบประชาธิปไตย หากเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่ได้ประกอบด้วยอคติ เอาสนุก แต่ส่วนตัวมองว่ามีหลายส่วนที่ไม่เหมาะสม เกินเลยไปบ้าง การใช้คำพูดต่างๆ อาจต้องระมัดระวัง เพราะศิลปินถือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด อย่างไรก็ตามการแสดงความเห็นด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ก็เป็นเรื่องปกติของระบบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามส่วนตัวได้ดูคร่าวๆ ก็ไม่ได้อะไรมากมาย
