แฉ! ‘นายพล’ อมเงินทอนเงินกู้สวัสดิการทหารซื้อบ้าน เอกชน ร่ำไห้กราบเท้าขอทนายไพศาลช่วย

แฉ! ‘นายพล’ อมเงินทอนเงินกู้สวัสดิการทหารซื้อบ้าน เอกชน ร่ำไห้กราบเท้าขอทนายไพศาลช่วย

ผู้ประกอบการเผย “นายพล” อมเงินทอน เงินกู้สวัสดิการฯ ทหารซื้อบ้าน ร่ำไห้กราบเท้าขอให้ “ทนายไพศาล” ช่วย เผยถูกรังควาน – ข่มขู่ต่อเนื่อง

กรณีผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กำลังพลกองทัพบก หอบหลักฐานร้อง “ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอเข้าโครงการคุ้มครองพยาน หลังถูกข่มขู่ถึงชีวิต เหตุออกมาลากไส้ขบวนการอมเงินทอน เงินกู้สวัสดิการ ทบ. โดยหักเงิน 5 เปอร์เซ็นต์เข้ากระเป๋านายทหารใหญ่ยศนายพล และยังเป็นหนึ่งในชนวนเหตุคดีสะเทือนขวัญ “จ่าคลั่ง” กราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 โคราช

รายการโหนกระแสวันที่ 18 ต.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ ก้อย ผู้ประกอบการที่โอนเงินให้ เอ พ่อบ้าน , คุณเบิร์ด , คุณปุ๊ก ผู้ประกอบการ มาพร้อม ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์, ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์

Advertisement

คุณก้อย เล่าเรื่องก่อนเลย?

ก้อย : หนูได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบการ ขายบ้านให้ทหาร มีใบอนุญาตถูกต้อง กรมสวัสดิการเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้ค่ะ ทำบ้านก็ขายให้ทหาร

วันนี้ผมเป็นทหาร อยากมีบ้านสักหลัง ต้องทำยังไงก่อน?

Advertisement

ก้อย : ทำเรื่องจากต้นสังกัดมาว่า ใช้สิทธิ์ของตัวเองในการกู้กับกรมสวัสดิการทหารบกค่ะ

อยากได้บ้านในราคา 1.5 ล้าน หลังจากนั้นยังไงต่อ ทำเรื่องกู้ผ่านแล้ว เป็นหนี้ล้านห้าแล้ว ยังไงต่อ?

ก้อย : กรมสวัสดิการอนุมัติให้กำลังพล 1.5 ล้านปุ๊บ กรมสวัสดิการจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจหลักทรัพย์ดูว่ามีน้ำมีไฟมั้ย แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะนัดไปซื้อขายจำนอง ซื้อขายบ้านที่พี่สร้าง ในราคา 9 แสนบาท

อีก 6 แสนไปไหน?

ก้อย : อีก 6 แสน หลักความจริงคือให้กำลังพล และค่าธรรมเนียมกองทัพบก

ตรงนี้ที่เป็นปัญหา 1.5 ล้านที่กู้ พี่สร้างบ้าน 9 แสน อีก 6 แสนสวัสดิการไม่คืนเหรอ?

ก้อย : ก็ให้กำลังพลส่วนนึง แล้วหักให้กองทัพบกอีกส่วนนึง เขาบอกค่าธรรมเนียมกองทัพบก

เท่าไหร่?

ก้อย :  5 เปอร์เซ็นต์ของวงเงิน 1.5 ล้าน

เท่ากับ 7.5 หมื่น แล้วพี่ยืนยันเหรอว่าหักให้เขาจริงๆ?

ก้อย : หักมาก่อนโอนให้หนูเลยก็มี หักเลยก็มี มีหลักฐานหมดเลยค่ะ เป็นบัญชีธนาคาร ส่วนมากเป็นของคุณเบิร์ด ของเขาจะชัดเจน

คุณเบิร์ดรับสร้างบ้านให้กองทัพเหมือนกัน เวลากองทัพจ่ายเงินให้คุณ เขาจ่ายทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์มั้ย?

เบิร์ด : ไม่ค่ะ จะมีการหักและทอนมาให้ค่ะ ไม่เคยได้รับเช็คเต็มมาค่ะ

สมมติเขาสร้าง 1.5 ล้าน เขาให้คุณเท่าไหร่?

เบิร์ด :   อันนี้จะโดนมากกว่าคุณก้อย จะโดนหักไป 128,000 บาททุกเคสค่ะ จาก 1.5 ล้านค่ะ

มันมากกว่า 5 เปอร์เซ็นต์นะ?

เบิร์ด : ใช่ค่ะ เป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ ด้วย เราไม่ทราบว่าค่าอะไร แต่เป็นค่าธรรมเนียม

ฟังแล้วน่าตกใจ ฝั่งนี้เป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านให้กองทัพเหมือนกัน ฝั่งนี้โดนหัก 5 เปอร์เซ็นต์ เป็น 7.5 หมื่น ส่วนฝั่งโน้นโดนหัก 128,000 บาท ล้านนึงจะโดนเท่าไหร่?

เบิร์ด : ตามปกติตามชั้นยศจะเริ่มที่ 1.5 ล้านบาท ในการกู้หนึ่งหลัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชั้นยศเริ่มต้น 1.5 ล้าน ปกติเราขายแบบนี้ และถูกหัก 128,000 บาททุกหลัง เป็นเวลา 3-4 ปีที่เราทำค่ะ 211 รายที่เรารวบรวมหลักฐานไว้ ประมาณ 27 ล้านบาทค่ะที่เสียหาย

ใครเป็นคนบอกว่าคุณต้องหัก?

เบิร์ด : ทางเจ้าหน้าที่ค่ะ กรมสวัสดิการทหารบกนี่แหละค่ะเรามีเส้นทางการเงินที่ให้ไว้ค่ะ เราเพิ่งทราบไม่กี่เดือนนี่เองที่คุณก้อยแจ้งมาว่าจริงๆ ไม่มีค่าธรรมเนียมกองทัพบก

ขอถามทางพ่อบ้าน วันนี้พี่ออกมาพูดไม่กลัวเหรอ?

เอ : ก็กลัวเหมือนกันครับ คุณธนกฤตและพี่ไพศาลให้มาออก ไม่งั้นต้องโดนดำเนินคดี ว่าเอาเงินไปไหน 5 เปอร์เซ็นต์ ที่คุณก้อยโอนมาให้ผม ผมบอกว่าผมโอนให้หัวหน้าหมดแล้ว ส่วนหัวหน้าจะโอนให้ใคร ผมไม่ทราบ

หลักการจริงๆ ทหารคนนึงจะไปกู้เงินที่สวัสดิการ เขามีหัก 5 เปอร์เซ็นต์ก่อนมั้ย?

เอ : ไม่มีครับ

พี่บัว เป็นทหาร มีมั้ย?

บัว : กู้เหมือนกัน โดนหักเหมือนกัน

พี่ธนกฤตยังไง?

ธนกฤต :   ผมพอจะมีประสบการณ์ การซื้อขายบ้าน ผู้กู้เวลาจองบ้าน จองมาที่ผู้ประกอบการ อาจจองเงินดาวน์อะไรก็แล้วแต่ ผู้ประกอบการก็ส่งเอกสารไปให้สถาบันการเงินเป็นคนพิจารณาว่าจะอนุมัติสินเชื่อให้ได้หรือไม่ เวลานั้นถ้าอนุมัติมาก็จะแจ้ง หลักฐานทั้งหลายทั้งปวง การซื้อขาย เงินต้องกลับมาที่ผู้ประกอบการทั้งหมด แล้วถึงจะมีข้อตกลงกันว่าอาจถูกแบ่งบางส่วนเป็นค่าตกแต่ง เขาก็ให้ผู้ประกอบการโอนมายังผู้กู้ มันเป็นขั้นตอนปกติแบบนี้ แต่กรณีนี้จากที่ได้เห็นเอกสาร ต้องเรียนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรมมาดูแลทางผู้ร้อง เนื่องจากเขาถูกข่มขู่ตามคลิปตามอะไร ไปแจ้งความ เราดำเนินการในส่วนนั้น แต่เผอิญว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะไปคาบเกี่ยวกับเรื่องเขาย้อนความให้ฟัง กับเหตุที่เคยเกิดขึ้นครั้งนึง ต้องบอกว่าเราต้องขออนุญาตเรียนพี่น้องประชาชนว่าเราไม่ได้อยากจะเอาประเด็นดังกล่าวขุดขึ้นมาคุยกันอีก แต่ประเด็นนี้มันมีความเกี่ยวข้อง กรณีตรงนี้ถ้าเงินจ่ายมาตรงผู้ประกอบการปกติไม่เป็นไร แต่เผอิญที่บอกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ไปเข้าบัญชีพ่อบ้าน พ่อบ้านก็เอาเงินตรงนี้จ่ายให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมันมีไทม์ไลน์ของการเช็กเส้นทางการเงิน เรื่องแบบนี้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสามารถเช็กได้ แล้วเขามีหลักฐานชัดเจนพอสมควร ที่ส่งมาให้กระทรวงยุติธรรมแล้ว พอมีขั้นตอนของส่วนนี้ มันก็มีอีกส่วนนึง คือเงินมันหายไปอีก 425,000 ซึ่งตอนนั้นมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาอ้างว่าเงินตรงนี้เขาไปขอรับคืนจากคุณป้าท่านนึงแล้วไม่ได้เงินตรงส่วนนั้น แล้วไปถามทหารอีกท่าน ก็หายไปตรงเรื่อง 5 เปอร์เซ็นต์ ผมก็คิดว่าเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ ต้องให้หน่วยงานที่เหนือขึ้นไปของหน่วยงานนี้ องค์กรนี้ต้องไปตรวจสอบ

คุณก้อย คุณเองเป็นผู้ประกอบการ พอมีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น ครั้งนึงคุณเคยไปร้องเรียนแล้ว แล้วหลังจากนั้นมันป็นยังไง?

ก้อย : ก็โดนกลั่นแกล้งมาตลอด พอหนูไปร้องกลับเป็นว่ารวบรวมกำลังพลมาร้องกลับหนู เอากำลังพลมาร้อง เขาบอกว่ากองทัพบกส่งมา หลังหนูไปร้องแล้ว มีทีมชุดที่บอกว่ามาจากกองทัพบก ให้มาตรวจสอบโครงการหนู โดยบอกว่ามีกำลังพลร้องเรียนโครงการหนู

คุณเองมีเอกสารสำคัญที่เก็บเอาไว้ แล้วเหมือนถูกฝั่งนายพลท่านนึงพยายามจะแย่ง มันคืออะไรเหตุการณ์ครั้งนั้น?

ก้อย : ต้องเรียนว่า นายพลท่านนี้ก็คือคนที่ตั้งแต่ปี 54 ตอนนั้น หนูทำตั้งแต่ปี 54 นายพลคนนี้คือคนที่บอกหนูตั้งแต่ครั้งแรกว่าเงิน 5 เปอร์เซ็นต์ต้องจ่ายกองทัพบก เป็นคนที่ออกใบอนุญาตให้หนูไปขายกำลังพลทั่วประเทศได้ คนเดียวกันค่ะ

คุณมีหลักฐานอยู่ปุ๊บ แล้วเขามาเอาที่ไหน?

ก้อย : ที่คอนโดค่ะ ตอนนั้นหนูเริ่มรู้แล้ว เพราะมีทหารเริ่มมาร้อง ทั้งเรื่อง 5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งเรื่องเงินทอน

นี่คือกำลังพลที่เขากู้เงิน เขาเริ่มมาด่าคุณว่ากู้ไปตั้งล้านห้า แล้วสร้างบ้านล้านเดียว อีก 5 แสนที่จะเอามาตกแต่งไปไหน พี่ก็เลยไปเช็กมา?

ก้อย : ใช่ค่ะ

พี่ก็เลยรู้ว่าเงิน 5 แสนอยู่กองสวัสดิการ คุณก็ให้ไปทางโน้น แต่ทางโน้นก็บอกให้มาทางนี้ คุณก็โดนเล่นงาน?

ก้อย : ใช่ค่ะ นี่คือส่วนนึงแต่ส่วนสำคัญของหนูที่เกี่ยวกับส่วนของโคราชคือ หนูไม่มีปัญหากับกำลังพล เพราะหนูต้องควักตัวเองจ่าย แต่ที่มีปัญหา คือป้า นายหน้าที่มีชีวิตอยู่ เอาโบรชัวร์หนูไปแอบอ้างขายให้กำลังพลที่กำลังเดือดร้อนอยู่ตอนนี้ และบางคนยังไม่ได้รับเงินตรงนี้

พี่ควักเนื้อตัวเองคืนให้กำลังพล แต่กองสวัสดิการไม่รับผิดชอบเลย?

ก้อย : ใช่ค่ะ นี่เฉพาะโครงการก้อย

กำลังพลมาทวงถามจากพี่ก้อย ว่าอีก 5 แสนอยู่ไหน จะเอาเรื่องพี่ พี่ก้อยเลยควักเงินคืนให้กำลังพล แต่พี่ก้อยควักคืน 425,000 บาท กำลังพลก็ถามว่าส่วนที่เหลืออยู่ไหน อีก 75,000 พี่ก้อยก็บอกว่ากองทัพหักไว้ 5 เปอร์เซ็นต์ เรื่องถึงได้แตกขึ้นมา?

ก้อย : ใช่ค่ะ นี่คือกุมความลับเขาเรื่อง 5 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ทั้งที่รับหน้าเสื่อไปให้เขาแล้วด้วย 425,000 บาท

เขาไปหาพี่ทำอะไร?

ก้อย :   หนูร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกค่ะ ทางสรก.ทบ. แจ้งว่าให้หนูไปส่งหลักฐานที่กองทัพภาคที่ 1 เพราะคนนี้อยู่กองทัพภาคที่ 1 หนูก็จะเอาเอกสารไปส่ง ทางนั้นเขาคงรู้เพราะหนูบอกว่าจะไปส่งหลักฐาน เขาเลยมาที่พักค่ะ มาแย่งเอกสารชุดนี้

ไพศาล : ที่โปรยในข่าวว่าเรื่องนั้นเกิด 2 ปีแล้ว วันที่เขามาหาผม เขาก้มกราบเท้าผมว่าพี่ พี่กล้าทำเหรอ เขาเป็นนายพลเหรอ เขาร้องไปทุกคนแล้ว จนเขามาที่โหนนี่แหละ

ก้อย : (ร้องไห้)

คุณก้อยไปกราบเท้าเลยเหรอ?

ก้อย : (ร้องไห้) ใช่ค่ะ เขามาหาที่บ้าน (ร้องไห้) เพราะหลักฐานก้อยมีทุกอย่าง ที่ก้มกราบเท้าเพราะว่าไปมาทุกที่แล้ว (ร้องไห้) กองทัพบกก็ไปหลายรอบมาก ไปเกือบทุกวัน แต่สิ่งที่หนูได้รับคือถูกรังควาน ถูกข่มขู่ ถูกทุกอย่างเลย (ร้องไห้) หนูว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับหนู (ร้องไห้)

ธนกฤต : หลังทนายไพศาลได้พาคุณก้อยและทีมทั้งหมดมาพบ ก็ได้เรียนให้ผู้ใหญ่ทราบแล้ว ผู้ใหญ่ที่อยู่ในรัฐบาล แจ้งว่ามีเรื่องนี้ให้ตรวจสอบ ผมได้กราบเรียนให้รับทราบเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา จริงๆ เรื่องนี้เราก็ตรวจสอบด้วยว่ามีข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วยหรือไม่ เรื่องผู้ประกอบการที่ถูกกรณีดังกล่าว ก็เป็นส่วนของคุณก้อย แต่มีประเด็นที่กระทรวงเป็นความห่วงใย เราต้องมาพิจารณาว่าที่ถูกกรณีดังกล่าวไป เดี๋ยวเกิดความเครียดมาก่อเหตุขึ้นอีก เราก็คิดว่าเรื่องนี้ต้องกราบเรียนให้ผู้ใหญ่ทราบ ต้องบอกคุณหนุ่มว่าเรื่องนี้ได้เรียนแล้ว ระหว่างนี้ผู้ใหญ่ก็ให้ความเป็นธรรม บอกว่าจะช่วยตรวจสอบ ว่าข้อเท็จจริงมันเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่

การกู้แบบนี้ไม่ใช่แค่โคราชอย่างเดียว มันแทบจะทั่วประเทศ 5 เปอร์เซ็นต์ 7.5 หมื่น ไม่รู้เป็นค่าอะไร แต่ที่แน่ๆ เงินเหล่านี้มันย้อนไปหาพ่อบ้านคนนี้ ที่เอาเงินถ่ายเทออกไป ให้กับเสธ. 2 เสธ. แล้วที่อื่นๆ จะอีกมากแค่ไหน รวมถึงเรื่องเหตุครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุสลดใจที่โคราช นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเหตุแบบนั้น คุณก้อยยอมควักเนื้อตัวเอง 425,000 บาทให้เขาไป ทหารถามว่าอีก 75,000 ไปไหน ทำไมจ่ายแค่นี้ ทางฝั่งผู้รับเหมาบอกว่าก็อันนั้นเป็นเงินหักให้กองทัพ ไม่มีใครรู้ วันนี้ถึงได้รู้ว่ามันไม่มีอยู่จริง 5 เปอร์เซ็นต์ อีก 5 เปอร์เซ็นต์ ถูกหักไปอยู่ไหน ชายคนนี้ คุณเอ เป็นผู้ที่รับไป คุณปุ๊กโอนเงินให้ใคร?

ปุ๊ก : อีกท่านค่ะ

พ่อบ้านมีหลายคนเหรอ?

เบิร์ด : มีผู้ดูแลแฟ้มค่ะ แต่ละพ่อบ้านจะมีผู้ดูแลแฟ้มของแต่ละผู้ประกอบการค่ะ

ถามพ่อบ้านเอ ตำแหน่งอย่างพี่ไม่ได้มีคนเดียว?

เอ : ผมไม่ทราบว่ามีใครบ้างครับ

แต่ตัวพี่เอง รับเงินตั้งแต่ปีไหน?

เอ : ปี 54 ครับ

คุณสร้างบ้านไปกี่หลัง?

ก้อย : 409 หลังค่ะ 30 กว่าล้าน ยังไม่รวมค่าอย่างอื่น

คุณโอนเงินให้ใคร?

เอ : โอนให้เสธ. ตามที่เสธ.เขาสั่งการมาครับ ผมโอนให้เสธ.เสร็จ เสธ.จะโอนให้ใครต่อ ผมไม่ทราบตรงนั้นครับ

ก้อย : ที่ก้อยโอนให้น้องเขาคือน้องเขาโอนมาให้ก้อยเต็มยอด แล้วก้อยก็โอน 5 เปอร์เซ็นต์ กลับคืนไป ก้อยก็จะได้เงินตรงนี้จ่ายให้กำลังพลส่วนนึง และจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ ที่โคราชที่เกี่ยวคือเขาเอาโบรชัวร์ไปแอบอ้างแล้วยังไม่ได้ในส่วน 409 คน ในส่วนของก้อยได้รับเงินครบถ้วนจากก้อยทุกคนค่ะ

ขาดกันไปนานแล้วเหรอ?

เอ : ตั้งแต่แกพ้นหน้าที่ไป ผมก็ไม่ได้ติดต่อเลยครับ เขาไปรับหน้าที่ใหญ่ขึ้นครับ

เลื่อนยศเป็นยศอะไร?

เอ : พันเอกครับ แล้วมีลาออกไปด้วยครับ

ก้อย : ถ้าดูแผงนี้จะทราบ ก้อยทำมาให้ประชาชนเข้าใจเลย นี่คือโครงการของก้อย 6 ท่านนี้คือคนออกใบอนุญาตให้ก้อย มีใบอนุญาตถูกต้อง รองลงมาจากเจ้ากรมก็เป็นผอ.กองการออมทรัพย์ แล้วน้องเขาเป็นคนติดต่อโอนให้ 3 คนค่ะ คือเสธ.ที่เขาพูดถึงค่ะ

ส่วนเสธ.ไปโอนให้ใครอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้?

เอ : ใช่ครับ ส่วนนี้ผมไม่ทราบ

พ่อบ้านโอนให้สองคน อีกคนล่ะ?

ก้อย : เป็นเงินสดค่ะ ตั้งแต่ปี 54 สมัยนั้นเป็นเงินสด

ไพศาล : เรื่องนี้ตอนมาบอกผม ก้มกราบเท้าแล้วผมงง เขาบอกว่าถ้าไม่ช่วยหนู หนูตาย ผมถามว่าไม่มีผัวเหรอ ทำไมถึงจะต้องตาย เขาบอกว่าเขามีผัวเป็นทหาร เป็นผู้พัน ผู้พันยังโดนข่มขู่อีกเหรอ ก็บอกให้เอาหลักฐานมาให้ดูก่อน เพราะยังไม่เชื่อ พอหลักฐานมาดูปุ๊บ เรื่องนี้เป็นปฐมบทเรื่องของจ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช เป็นการเอาโครงการคุณก้อยไปอ้าง พออ้างแล้วจ่าเขาไม่เข้าใจ แล้วยังมีกำลังพลตัวเล็กตัวน้อยอีกเป็นร้อยๆ นายที่ยังไม่เข้าใจ คิดว่าผู้ประกอบการเอาเงินเขาไป ทั้งเงินทอน เงินอะไร ทั้งที่ฝ่ายนี้เขาก็ไม่รู้ เขาประกอบอาชีพโดยสุจริต แล้วมาโป๊ะแตกตรงที่ผู้บังคับบัญชาให้กำลังพลทั้งหมดมาร้องผู้ประกอบการ สรุปมีชื่อผัวตัวเองเข้ามา ผัวตัวเองมาร้องเมียตัวเอง มันจับพิรุธได้ไงเพราะเขาไปรู้ความลับแล้วไง เหตุปฐมบทจ่าคลั่ง การที่มาทำเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุสลดใจอีก อย่าลืมนะ บุคคลที่โดนเป็นกำลังพล ได้รับการฝึกยุทธวิธีมา ถ้าหากเกิดอีกในอนาคตใครรับผิดชอบ ผมถามหน่อย นายกฯ ก็เป็นทหาร เป็นรัฐมนตรีกลาโหมด้วย เรื่องนี้คุณยิงสปอร์ตไปคุณบอกว่าผ่านไป 2 ปีแล้ว ก็ 2 ปีมันยังไม่จบไง เป็นขยะซุกพรม ถ้าหากประชาชนผู้บริสุทธิ์จะต้องมารับผิดชอบกับเรื่องที่พวกคุณทำไว้แบบนี้ มันถูกต้องมั้ย ผมตั้งคำถามนะ ไม่เคยได้คำตอบจากกองทัพไทย ผมก็สู้เหมือนกัน ผมเป็นเจ้าของภาษี ผมเป็นประชาชน ไม่ว่าวงการไหน มีพ่อบ้านแม่บ้าน นี่มันข้าราชการ คุณต้องรับใช้ประชาชน ประเทศชาติ  เรื่องนี้ถามหน่อยถ้าวันนี้ไม่ออกมาพูด แล้วมีคนเดือดดาลจากเรื่องนี้ เขาเข้าใจผิดแล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก จะเกิดอะไรขึ้น

ทั้งหมดที่ให้ดู คุณมีชื่อทุกคนใช่มั้ย?

ก้อย : มีทุกคนค่ะ เพราะอย่างใหญ่สุดคือเจ้ากรมสวัสดิการ ของหนูผ่านมา 6 ท่าน ระดับนายพล 6 ท่านนี้ก็ออกใบผู้ประกอบการให้หนูทุกคน แล้วก็เรียกไปประชุมผู้ประกอบการ หนูถึงได้เจอคุณเบิร์ด ได้เจอคุณป้าอนงค์ ทุกคนก็ต้องจ่ายเหมือนหนูแน่นอน หนูก็คิดแบบนั้น ทีนี้คุณเบิร์ดอยู่ลพบุรี หนูก็ติดต่อคุณเบิร์ด เขาบอกว่าเขาก็จ่ายเหมือนกัน 5 เปอร์เซ็นต์

ไพศาล : โครงการไปแอบอ้างทั่ว แล้วมีกำลังพลตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องนี้ กำลังพล เงิน 2-3 แสน สำหรับเขาเยอะนะ เขาเอาไปเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ คุณไปเป็นใหญ่เป็นโต ขึ้นเป็นนายพล กำลังพลตัวเล็กๆ เขาต้องไปเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ แล้วต้องมาอุ้มหนี้ทั้งที่เป็นเงินของเขา คุณทำอะไรกัน ก็ถามแค่นี้แหละ

ระหว่างพักเบรก พยายามถามข้อมูล ข้อมูลบางอย่างสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านให้ทหาร มีหลายราย แต่ละรายจะโดนไม่เหมือนกัน อย่างรายนี้ ทำเรื่องมา 1.5 ล้าน บ้านสร้างล้านนึง อีก 5 แสนก็คืนให้กำลังพลที่กู้ไป แต่คืนไม่ครบจำนวน เพราะต้องหัก 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะเขาอ้างมีขนบธรรมเนียมประเพณีของกองทัพ ฝั่งโน้นเป็นอีกแบบนึง คือทำ 1.5 ล้าน เขาก็เอาเงินให้กำลังพลไปเลย 5 แสน เขาต้องได้รับเงินจากกองทัพคืนมา 1.5 ล้าน แต่ปรากฏว่าเวลารับเช็คมาหาเขาปุ๊บ มาแค่ 1.3 ล้านกว่าบาท หักไปเลย 128,000 ถามว่าเป็นค่าอะไรเขาบอกเป็นค่าดำเนินการ แต่ละคนจะแตกต่างกัน หรือบางเจ้าเงิน 4-5 แสนที่ต้องทอนคืนไป อาจไม่ได้เลยก็มี เช่นกรณีเหตุที่เกิดขึ้น ตอนโคราช ตอนนั้นที่เกิดเหตุ เพราะเขาไม่ได้ 5 แสนคืน เขาเป็นกำลังพลที่ไปกู้ 1.5 ล้าน แต่ 5 แสนเขาไม่ได้ เรื่องมันเลยเกิดขึ้น แต่ประเด็นคือหลักๆ เลยคือเงิน 5 เปอร์เซ็นต์นี่แหละไปอยู่ไหน ตอนนี้จะทำยังไง เพราะเขากลัวกันหมด?

ธนกฤต : หลักฐานที่ยื่นมาที่กระทรวงยุติธรรม เรารวบรวมไว้หมดแล้ว เราจะทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่อีกส่วนนึงอยากให้ทางฝ่ายนี้ ยื่นหนังสือถึงท่านรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมซะ ท่านจะได้รับทราบอีกมุมนึงด้วย ผมคิดว่าเรื่องนี้ผมเรียนผู้ใหญ่ทราบแล้วเหมือนกัน มันเป็นส่วนนึงของหน่วยงานนึง คงไม่ใช่เรื่ององค์กรทั้งหมด ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ผู้ใหญ่เขาให้ความเป็นธรรม เรื่องการคุ้มครองพยาน ทุกคนที่มีการร้องทุกข์ไว้แล้ว ได้รับการคุ้มครอง เราดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เรื่องความปลอดภัยก็ไม่น่าต้องกังวลมากนัก ทนายไพศาลเองก็เช่นเดียวกัน ผมคิดว่าเรื่องนี้ถ้าทำความจริงให้ปรากฏผมว่าเรื่องนี้คงไม่ได้ซับซ้อน เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบุคลไม่กี่คนเอง แต่เราไม่อยากให้เกิดโศกนาฎกรรมอะไรเกิดขึ้นอีก ต้องชมเชยทั้งสองคนว่ากล้าที่จะมาตัดวงจรที่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องให้หมดไป แล้วเรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่เองคงไม่นิ่งนอนใจแน่ๆ

ไพศาล : ผมฝากประเด็นที่ผมออกมาเปิดหน้าสู้วันนี้เพราะห่วงประชาชน ไม่อยากให้เกิดโศกนาฎกรรมอะไรอีก สองผมฝากกองทัพไทย ผมเป็นแค่ทนาย มีแค่ใจกับความยุติธรรม ไม่มีอาวุธเหมือนท่าน วันนี้ผมมาปกป้องทหาร กำลังพลตัวเล็กตัวน้อยเขาเป็นหนี้ เงินเดือนไม่พอนะครับ คุณไปตีกอล์ฟ จะยศอะไรก็ตาม คุณลงมาดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุณด้วย เกียรติของทหารสำคัญมากนะครับ

เห็นบอกว่ามีปัญหาไปถึงระดับนายพล?

ก้อย : ใช่ค่ะ เพราะเขาโตขึ้นไปเป็นนายพล บางคนเป็นนายพัน

พอเป็นนายพล ใครจะกล้าไปแตะ?

ธนกฤต : หน่วยงานมีหน้าที่ในการตรวจสอบอยู่แล้ว เรื่องนี้เอกสาร การโอนสลิปมีอยู่แล้ว ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องซับซ้อน

เรื่องนี้ต้องฝากถึงนายกฯ และกลาโหม และผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทหารบก จำเป็นที่สุดต้องไปไล่เบี้ยให้ได้ เพราะเป็นการคอรัปชั่นอย่างนึ่ง?

ธนกฤต : ต้องตัดวงจรตรงนี้

และต้องไปไล่เบี้ยให้ได้ จากคนที่หนึ่งที่เธอโอนให้ ขึ้นไปอีก 2 คน อีก 2 คน โอนให้ใคร เจ้าเดียวโดนไป 30 ล้าน เจ้านึง 20 กว่าล้าน ไม่ใช่แค่ 2 เจ้านะ ยังมีอีก หลักร้อยล้าน เงินไปอยู่ไหน ทั่วประเทศด้วย สำคัญมากนะ?

ธนกฤต : ก็ฝากผู้ใหญ่ด้วย เนื้อร้ายเล็กๆ น้อยๆ อย่าให้อยู่ในวงการ

ยังไงก็ต้องมีการชี้แจง อย่าให้เงียบหายไป ถ้าเงียบประชาชนจะขุ่นเคืองใจกองทัพทันที ต้องโปร่งใสเหมือนกันนะ ศึกนอกสู้ได้ ศึกในจะลำบาก อยากให้เอาอยู่ทั้งศึกนอกและศึกในด้วย?

ไพศาล : ฝากถึงประชาชนที่ดูรายการ หลายคอมเมนต์ถามว่าเรื่องทหารคราวที่แล้วจบยังไง ในส่วนของทนายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จะพูดอะไรเยอะไม่ได้ เรายังทำทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรมอยู่นะครับ เรายังสู้ต่อนะ

ก้อย :  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูแลด้วย หนูยังลูกเล็กอยู่ค่ะ อยากให้ครอบครัวหนูปลอดภัย ขอให้คุ้มครองพวกเราด้วย และฝากถึงผู้บัญชาการกองทัพบก หนูเป็นแม่บ้านทหารบกมา 20 กว่าปีแล้ว ไหนท่านเคยออกข่าวตลอดบอกว่าจะช่วยเหลือเมียกำลังพล หนูก็หนึ่งในเมียกำลังพลกองทัพบกค่ะ อยากให้ออกมาดูแลและช่วยตรวจสอบด้วยค่ะ เพราะยังมีกำลังพลอีกหลายนายที่ยังไม่ได้รับเงินเลยของโครงการที่โคราชค่ะ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image