“บิ๊กตู่” เอ่ยกราบขอโทษสั่งพักงานผู้บริหาร”สสส.” รอออกคำสั่งใหม่18ม.ค.แก้งานสะดุด

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยตอนหนึ่งในการกล่าวให้โอวาทแก่คณะผู้บริหารและผู้แทนองค์กรในสภา ธุรกิจตลาดทุนไทยกล่าวถึงกรณีให้คณะกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสริมสุขภาพ(สสส.)หรือบอร์ดสสส.ยุติการทำหน้าที่ว่า เรื่อง สสส.ที่ออกคำสั่งพักงานผู้บริหารนั้น ต้องกราบขอโทษจริงๆ ไม่ได้ต้องการจะไปทำลาย แต่วันนี้อยากสร้างการรับรู้ สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และสนับสนุนให้เดินหน้าเท่านั้นเอง วันที่ 18 มกราคมนี้จะมีการออกคำสั่งให้ทุกอย่างเดินหน้าได้ เพราะเมื่อไปทบทวนแล้ว บอร์ดไม่ครบทำให้ไม่สามารถประชุมได้ ซึ่งจะออกคำสั่งให้บอร์ดที่เหลือทำงานได้ สามารถอนุมัติได้ รวมถึงแต่งตั้งผู้บริหาร กรรมการต่างๆ ได้ ส่วนที่บอกว่า คสช.จะไปครอบครอง สสส.นั้น จะไปแบกไว้ทำไม และบอกว่าจะแต่งตั้งคนนั้นคนนี้เพื่อผลประโยชน์ เพื่อบริษัทนั้น บริษัทนี้ ใครมาขอจะเล่นงาน โดยที่ทำทั้งหมดนั้นเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ

“เรื่องนี้ไม่ใช่ผมเป็นคนเริ่ม แต่ต้องเสียเวลาหน่อยเพื่อทำให้ถูกต้อง พอผลตรวจสอบออกมาแล้วไม่มีการทุจริต ผมไม่เคยบอกว่ามีทุจริตเลย ในคำสั่งที่เขียนก็ไม่มีคำว่าทุจริต แต่สื่อไปขยายความ เพียงแต่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ให้มีความชัดเจน ฝากขอโทษด้วย ซึ่งทำให้อย่างอื่นเสียหาย แต่ที่ผมทำคือการสร้างความไว้ใจให้เกิดขึ้น และไม่ต้องการให้โครงการหยุดชะงัก ให้ทำตามวัตถุประสงค์ และตามกฎหมาย” นายกฯกล่าว

“เรื่องนี้ผมอยากจะทำความเข้าใจอีกครั้งและฝากขอโทษผู้อาวุโสทั้งหลายด้วย ขอโทษพี่หมอทุกคน ผมไม่ได้ต้องการจะทำลายท่านเลย ในเมื่ออยากให้ทุกอย่างดีขึ้น ทุกคนทำงานอย่างสบายใจจำเป็นต้องเคลียร์ ผมบอกว่าให้คัดสรรไม่ได้บอกว่าท่านทุจริต แต่บังเอิญคำสั่งนั้นไปรวมอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ นี่เป็นเพียงการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ทำตามข้อสังเกต” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีเหตุระเบิดและกราดยิงบริเวณใจกลางกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ว่าเคยพูดแล้วว่าโลกใบนี้มีปัญหาทั้งภายในและภายนอกที่พยายามให้เกิดความรุนแรงตลอดเวลา ขอพยายามอย่าไปอยู่ในความขัดแย้งเพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน ทุกประเทศต้องระมัดระวังแต่อย่าลากเราเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งได้สั่งการฝ่ายความมั่นคงไปแล้ว ให้ดูแลเพิ่มเติมรวมถึงส่งหนังสือแสดงแสดงความเสียใจ และได้สั่งติดตั้งเครื่องอ่านใบหน้า ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เราอยู่ของเรา เป็นประเทศเล็กๆ อยู่ตรงนี้ ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบ ยืนยันไม่ได้ปิดบังข้อมูล แต่ยังไม่มีผู้ก่อเหตุเข้ามาในประเทศ ขออย่าพูดบ่อยแต่หากพูดบ่อยๆ อาจจะมาก็ได้ อย่าให้ไปทะเลาะกับใครด้านใดด้านหนึ่งเลย ไม่ได้ห่วงตัวเอง ห่วงคนด้านล่าง ส่วนกรณีการทูลเกล้าฯเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือและกลั่นกรอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image