‘ไพจิต ศรีวรขาน’ ส.ส.นครพนม เขต 3 เพื่อไทย แชมป์ 11 สมัย ทำงานการเมืองกว่า 32 ปี เปิดใจสยบข่าวลือ เตรียมซบ ‘ภูมิใจไทย’ ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ยืนยันขอตายกับ ‘เพื่อไทย’ เลือกฝั่งประชาธิปไตย ไม่หักหลังประชาชน ถามผิดตรงไหนไปทำบุญวัดพระธาตุพนมแล้วเจอ ‘อนุทิน’ ทักทายในฐานะเจ้าบ้านที่ดี เชื่อมีคนไม่หวังดีต้องการสร้างความแตกแยกในพรรค ดิสเครดิตการเมืองในพื้นที่
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายไพจิต ศรีวรขาน อายุ 75 ปี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 จ.นครพนม แชมป์ 11 สมัย เปิดเผยว่า จากกรณีมีข่าวบิดเบือนเป็นกระแสการเมืองผ่านสื่อบางสำนักว่าผมจะการย้ายพรรคไปซบพรรคสีน้ำเงิน หรือพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ขอยืนยันจุดยืนว่าตลอดการทำงานการเมืองมากว่า 32 ปี มาถึงวันนี้ไม่เคยมีความเปลี่ยนแปลงในอุดมการณ์ทางการเมือง เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน เข้าใจความทุกข์ยาก ความเป็นอยู่ของประชาชน
นายไพจิตกล่าวว่า ตัวผมเองได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวนครพนมชนะการเลือกตั้งถึง 11 สมัย ถือเป็นสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นว่าผมเป็นผู้แทนที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ทั้งในสภาและนอกสภา แม้แต่ในช่วงมีการยึดอำนาจไปก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ เพราะเชื่อว่าประชาธิปไตยคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน
“ฉะนั้น การที่ผมจะเปลี่ยนแปลงย้ายพรรคไปสังกัดพรรคอื่นนั้นไม่เป็นความจริง มีสื่อบางสำนักนำไปเสนอบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิด ผมขอร้องว่าอย่านำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปสร้างกระแส เพราะผมไม่เคยมีความคิดดังกล่าว ยังต้องการจะขับเคลื่อนสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พัฒนาร่วมกับชาว จ.นครพนม ที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา” นายไพจิตกล่าว
นายไพจิตกล่าวว่า แม้จะเป็นฝ่ายค้านแต่ยังทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ ไม่เคยคิดจะหนีจากเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่เป็นความหวังของประชาชนในเส้นทางการเมืองยุคต่อไป
นายไพจิตกล่าวด้วยว่า การเสนอข่าวลือว่าจะย้ายไปซบพรรคภูมิใจไทย เพราะเมื่อเช้าวันนี้มีโอกาสไปร่วมทำบุญที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเลือกตั้งของผม แต่บังเอิญไปพบปะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางมาทำบุญขอพรที่วัด พร้อมกับ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กับทีมงาน จึงได้ทักทายและเชิญถ่ายรูปร่วมกันในฐานะคนรู้จักและเป็นผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง
นายไพจิตกล่าวว่า สุดท้ายกลับถูกนำเสนอข่าวในเชิงบิดเบือน เชื่อว่าเป็นการหวังดิสเครดิตและสร้างความแตกแยกให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าพรรครู้ดีว่าผมซื่อสัตย์กับพรรคขนาดไหน ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยืนยันว่าจะทำงานกับเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมา ต้องแยกให้ออก เชื่อว่าการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนและชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ขอให้มั่นใจว่าผมไม่ใช่คนหักหลังประชาชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
