ป.ป.ช.ชงยึดทรัพย์ ‘ผอ.ฝ่ายซ่อมบำรุง พิงคนคร’ เป็นของแผ่นดิน ที่ดินงอก-หนี้ลดลงผิดปกติ

ป.ป.ช.ชี้มูล ‘ผอ.ฝ่ายซ่อมบำรุง พิงคนคร’ ร่ำรวยผิดปกติ ที่ดินงอก-หนี้ลดลงผิดปกติ สั่งยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงกรณีกล่าวหา นายทรงศักดิ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและซ่อมบำรุง สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ร่ำรวยผิดปกติ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า จากการไต่สวนพบว่านายทรงศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือการมีหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่า 3,297,516.50 บาท

ตามรายการดังต่อไปนี้ 1.ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ จำนวน 1 รายการ ได้แก่ ที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่ 1 งาน 61 ตารางวา ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ราคา 900,000 บาท 2.หนี้สินลดลงผิดปกติ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,397,516.50 บาท จำนวน 3 รายการ ดังนี้ 1.หนี้กู้ยืมเงินกับทางธนาคาร มีการชำระหนี้สินที่ลดลงผิดปกติ จำนวน 700,000 บาท 2.หนี้ค่าเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อรถ MERCEDES BENZ รุ่น A180 ราคา 1,747,663.55 บาท มีการชำระหนี้สินที่ลดลงผิดปกติ จำนวน 1,397,516.50 บาท 3.หนี้ค่าเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อรถ HONDA รุ่น FREED ราคา 969,000 บาท มีการชำระหนี้สินที่ลดลงผิดปกติ จำนวน 300,000 บาท

นายนิวัติไชยกล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และแจ้งคำวินิจฉัย พร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อสั่งลงโทษไล่ออกผู้ถูกกล่าวหาภายในหกสิบวัน โดยให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคสามต่อไป

นายนิวัติไชยกล่าวต่อว่า หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมด หรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามนัยมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 ด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image