‘ดอน’ คอนเฟิร์ม ‘สี จิ้นผิง’ มาแน่ ส่วน ‘ปูติน’ ไม่ให้คำตอบ ‘ไบเดน’ ไม่มาแน่นอน

“ดอน” ยัน รัฐบาลใกล้ครบวาระ ไม่กระทบเจ้าภาพจัดเอเปค เผย เตรียมต้อนรับอย่างเหมาะสม คอนเฟิร์ม “สี จิ้นผิง” มาแน่ ส่วน “ปูติน” ยังไม่ให้คำตอบ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 ต.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคปี 2565 ว่า ในการประชุมเอเปคครั้งนี้ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ถือเป็นการประชุมที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 3 ปีที่จะมีการประชุมเต็มรูปแบบ และเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เราจะต้องทำให้ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะบุคคลที่จะเดินทางมายังประเทศไทยล้วนแต่เป็นระดับสูงสุดของรัฐบาลเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีผู้แทนมาบ้าง ยืนยันว่าทุกประเทศใน 21 เขตเศรษฐกิจมาประชุม เพียงแต่ว่าจะอยู่ในระดับไหนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการที่จะมาร่วมประชุม แต่ก็มีบางประเทศที่มีปัญหาภายในถือว่าเป็นเรื่องปกติในการประชุม ซึ่งไทยไม่ได้ติดใจเรื่องเหล่านี้ ทั้งนี้เรามีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเรื่องการต้อนรับ เรื่องการรักษาความปลอดภัย ส่วนที่ยังไม่เปิดเผยว่ามีผู้นำประเทศไหนมาบ้างนั้น เพราะมีการขอร้องเนื่องจากปัญหาเรื่องความปลอดภัยของแต่ละประเทศ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้แต่ในฐานะประเทศเศรษฐกิจต่างๆ ยืนยันว่าจะมาแน่นอน

“ที่ประชุมวันเดียวกันนี้ได้ประชุมทุกเรื่อง ทั้งการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความปลอดภัย ความมั่นคง การจราจรซึ่งจะต้องไม่กระทบต่อสภาพปกติของบ้านเมือง รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ทั้งการประชุมย่อยและการพูดคุยที่ไม่ได้อยู่ในกรอบของเอเปค ซึ่งแต่ละประเทศก็ได้มีการนัดหมายกันรวมถึงขอหารือกับเราด้วย” นายดอนกล่าว

เมื่อถามว่า แขกพิเศษ 3 ประเทศที่ตอบรับเดินทางมามีประเทศใดบ้าง นายดอนกล่าวว่า นอกจาก 21 ประเทศเขตเศรษฐกิจแล้ว ยังได้เชิญสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชานายฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียน นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นองค์รัชทายาทและเป็นเรื่องที่ค้างกันมาตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมได้ไปเยือน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้เตรียมการไว้แล้ว ทั้งนี้การคาดหวังผลที่จะตามมาจากการประชุมในระดับต่างๆ คนไทยจะได้ประโยชน์

Advertisement

เมื่อถามว่า แขกที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการที่จะมาเยือนที่ทำเนียบรัฐบาล มีประเทศใดบ้าง นายดอนกล่าวว่า ประมาณ 6-7 ประเทศ รวมถึงนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจีนถือเป็นการเยือนพิเศษ เพราะมีการพูดคุยกันมานานแล้ว ส่วนประเทศที่ไม่ส่งในระดับผู้มานั้น อาทิ ประเทศมาเลเซียเนื่องจากกำลังมีการเลือกตั้งในประเทศในวันที่ 29 พ.ย. ส่วนประเทศเม็กซิโกที่มีปัญหาในบ้านเมืองของเขาก็จะส่งผู้แทนมา และประเทศสหรัฐอเมริกาจะส่งนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ มาแทนตามที่โฆษกสหรัฐ ได้ชี้แจงไว้ นอกจากนั้นยังมีฮ่องกงและไต้หวัน แม้ไม่ได้เป็นประเทศ แต่ก็ถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจ ที่เหลือเป็นระดับผู้นำที่จะเดินทางมา ส่วนวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียคงต้องรอต่อไป ซึ่งจนถึงวันนี้ยังยืนตามนี้ไปก่อน ส่วนจะเปลี่ยนหรือไม่ต้องรออีกซักระยะ

นายดอน​กล่าวว่า อย่างไรก็ตามส่วนสำคัญที่สุดที่ไทยในฐานะเจ้าภาพจะต้องดูแล คือความปลอดภัยระดับสูงสุดของผู้นำแต่ละประเทศ และเหตุผลที่ไม่สามารถตอบได้ว่าผู้นำแต่ละประเทศมีใครเดินทางมาร่วมประชุมบ้างนั้นเป็นเรื่องของความปลอดภัย โดยขอให้อดใจรอ ไทยพยายามทำให้เกิดความชัดเจน และเตรียมการต้อนรับรวมไปถึงการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม สำหรับมาตรการที่ไทยจะต้องเตรียมการรับมือ ในช่วงของการประชุม มีทั้งมาตรการดูแลด้านความปลอดภัยการแพร่ระบาดโควิด​-19 การจราจร ที่ต้องไม่กระทบกับสภาพปกติของบ้านเมือง และขณะนี้ มีประเทศที่จะขอหารือทวิภาคีร่วมกับไทยจำนวนมากจนยังไม่สามารถจัดลำดับได้​

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลจะครบวาระจะไม่เป็นอุปสรรคในการหารือในครั้งนี้หรือไม่ นายดอน​กล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรค จะเห็นได้จากมีผู้นำประเทศมาร่วมเป็นจำนวนมาก ด้วยความตั้งอกตั้งใจ บางประเทศขอเวลาการหารือเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีหน้าที่จัดสรรเวลาให้ลงตัว

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image