นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งข้อสงสัยว่างานโครงการขุดลอกคูคลอง ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโครงการสร้างเขื่อน ฝาย ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำไมต้องโอนไปให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก(อผศ.)ทำ เหตุใดไม่ให้ทหารช่างที่มีเครื่องมือครบทำ
โดยอผศ.ไม่มีเครื่องมือทำงานเลย แต่เป็นเพราะไม่ต้องอีอ็อกชั่น จัดซื้อจัดจ่างวิธีพิเศษได้เลยใช่หรือไม่ ซึ่งงานของรัฐส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีประมูล ประกวดราคา หากไม่ต้องอีอ็อกชั่นรัฐเสียประโยชน์มหาศาล เช่นโครงการพันล้านบาท รัฐก็เสียพันล้านบาท ถ้าอีอ็อกชั่น อาจประหยัดได้ถึง40-50เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้งานดังกล่าว 2 ปีใช้งบหมื่นกว่าล้าน ไม่ต้องอีอ็อกชั่น แล้วเงินไปเข้ากระเป๋าใคร
นายวรชัย กล่าวว่า ทราบมาว่าที่ชั้น 6 ของสำนักงานอผศ. จัดไว้เป็นที่ต้อนรับคนคอยมารับงาน มีเจ้าแม่เจ้าพ่อตัวแทนแต่ละภาคมานั่งคอยรับงาน เช่นเจ้าแม่จากจังหวัดปราจีนบุรี จากภาคตะวันออก โดยการทำสัญญาที่นี่เลย แต่หากเจ้าแม่เจ้าพ่อเอเย่นต์ใหญ่มารับงานแล้วกระจายงาน หรือไปจ่ายให้แต่ละภาคก็คงไม่ว่าอะไร แต่มีการเอาไปขาย3-4ช่วง ช่วงแรก10เปอร์เซ็นต์ ขายต่ออีก10เปอร์เซ็นต์ เป็นระบบกินหัวคิวไปเป็นทอดๆ โดยมีอผศ.เป็นตัวเชื่อม ทั้งนี้นายถาวร เสนเนียม อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้ไปแล้ว และก็ไม่ได้เกิดเฉพาะที่ภาคใต้หรือตะวันออกล่าสุดได้ข่าวว่าที่จังหวัดชัยภูมิมีโครงการลอกฝายทำเขื่อนใช้งบร่วมพันล้านบาทด้วย
นายวรชัย กล่าวด้วยว่า ทุกคนก็รู้ว่าการจัดการแบบนี้ระดับล่างทำได้หรือไม่ ก็ต้องเป็นระดับผู้มีอำนาจ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี โดยทุกอย่างต้องผ่านครม.จึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯลองใช้วิธีทางการปกครอง และมาตรา44 ในการตรวจสอบเรื่องนี้ดูบ้าง หรือคิดว่ามาตรา44 ใช้ได้กับพรรคเพื่อไทย หรือกับกรณีอุทยานราชภักดิ์เท่านั้น ขอเรียกร้องให้ใช้เป็นจุดเริ่ม ถ้าไปเจอตอ หรือถ้าเจอพี่น้องในก๊กก๊วนเดียวกัน ก็อย่าถอย ถ้าแก้ปัญหานี้ได้ จะยอมรับว่าเป็นวีรบุรุษ หรือไม่เช่นนั้นเรื่องก็จะติดตัวไปตลอดชีวิตว่าบริหารงานโกง
