เหลี่ยมคูการเมือง กม.สุราก้าวหน้า-กัญชา ชิงแต้มสู้ศึกเลือกตั้ง

เหลี่ยมคูการเมือง

กม.สุราก้าวหน้า-กัญชา

ชิงแต้มสู้ศึกเลือกตั้ง

รัฐบาลเดินเกมการเมืองปาดหน้าชิงปลดล็อกการผลิตเหล้า-เบียร์ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ออกกฎกระทรวง

กฎกระทรวงการผลิตสุราฉบับใหม่ ปี 2565 ซึ่งเป็นการแก้กฎกระทรวงในปี 2560 พร้อมกับประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤศจิกายน

ADVERTISMENT

โดยมีสาระสำคัญ คือ การปลดล็อก ไม่กำหนดเรื่องทุนจดทะเบียน กำลังการผลิต สำหรับการผลิตสุรา และเบียร์ แต่ไปเพิ่มเงื่อนไขต้องมีรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับ…) พ.ศ. … หรือกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล

การแก้ไขกฎกระทรวงครั้งนี้ ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจาก นำเข้า ครม.และประกาศใช้ ในวันที่สภาผู้แทนราษฎร จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ซึ่งมีเนื้อหา หลักใหญ่ใจความเหมือนกัน คือการปลดล็อก อนุญาต ให้ผลิตเหล้าเบียร์ สุรากลั่น ที่มีสาระสำคัญ เปิดกว้างให้ภาคประชาชนสามารถผลิตเหล้าเบียร์ สุรากลั่น ได้อย่างเสรี

เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้น ชี้ทำนอง เป็นการปาดหน้า ช่วงชิงผลงาน คะแนนนิยม ว่าได้ทำเพื่อเปิดทางให้ประชาชน รวมทั้งผู้ประกอบการเหล้าเบียร์ สุรากลั่น รายย่อยให้ทำมาหากิน ประกอบอาชีพ ไม่ได้เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ผูกขาดรายใหญ่ ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ในปัจจุบัน ดังที่มีเสียงโจมตีกล่าวหา และเป็นข้ออ้าง ความชอบธรรมยิ่งขึ้นในการจะโหวตล้ม สุราก้าวหน้า ซึ่งได้รับเสียงตอบรับ สนับสนุนจากประชาชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในเวลาต่อมา ผลปรากฏว่า ที่ประชุมสภาไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ด้วยคะแนนฉิวเฉียด 196 ต่อ 194 เสียง

เนื่องจากเป็นกฎหมายของฝ่ายค้าน และประเด็นที่นำเสนอแก้ไข รัฐบาลก็ได้ดำเนินการให้แล้ว โดยพรรคก้าวไกลแก้เกมด้วยการขอเสนอนับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อว่า ส.ส.คนไหน สังกัดพรรคใด มีจุดยื่นต่อร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าอย่างไร

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากฝ่ายค้าน หรือแม้แต่เจ้าของร่างอย่างพรรคก้าวไกล ที่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในกลเกมที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบ ที่ชิงออกกฎกระทรวงปลดล็อกการผลิตเหล้า-เบียร์ ให้ดูมีเสรีมากขึ้น หวังสร้างแต้มต่อทางการเมืองให้กับฝ่ายรัฐบาล แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้านและผู้ประกอบการผลิตเหล้า-เบียร์ว่า ไม่ได้เป็นการปลดล็อกการผลิตเหล้า-เบียร์ให้มีเสรีได้จริง แต่ยังมีการไปล็อกเพิ่มในเงื่อนไขต้องทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุขกำหนด ซึ่งพรรคก้าวไกลแม้จะเสียเหลี่ยมทางการเมือง ผลักดัน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ผ่านสภาไปไม่ได้ แต่ได้ประกาศเดินหน้าต่อทันทีว่าจะบรรจุเป็นนโยบายพรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และจะผลักดันแก้ไข สุราก้าวหน้าให้สำเร็จ ลุล่วง เนื่องจากมีเนื้อหา ที่ก้าวหน้า และเป็นการเปิดเสรีอย่างแท้จริง ต่อไป

การที่รัฐบาลปลดล็อก นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ต้องการเปิดให้ประชาชน รากหญ้า รวมทั้งผู้ประกอบการเหล้า-เบียร์รายย่อย มีโอกาสประกอบธุรกิจแข่งขันกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ครอบครองตลาดเหล้า-เบียร์เพียงไม่กี่เจ้าได้ และแม้ว่าการแก้ไขกฎกระทรวง จะสามารถทำได้ และทำอย่างรวดเร็วกว่าการออกกฎหมายในสภา แต่การกระทำโดยฝ่ายเดียว หรืออาจเรียกได้ว่า ดำเนินการโดยฝ่ายข้าราชการประจำ ทำให้เกิดคำถามต่อไป และต้องศึกษาต่อไปว่า ที่ว่าปลดล็อกนั้น ยังมีเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค ในการให้ใบอนุญาตอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งที่จริงจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ หากจะผลักดันเป็นการออกกฎหมาย หรือเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องที่บรรจุอยู่ในสภา เนื่องจากจะได้รับการกลั่นกรอง จากฝ่ายค้าน ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งจะทำให้การออกกฎหมายได้รับการยอมรับมากกว่า

ประการสำคัญก็คือ เป็นการใช้ช่องทางรัฐสภา ในการแก้ปัญหา ในการผลักดันออกกฎหมาย ในวิถีทางตามครรลอง ประชาธิปไตย ที่จะลดข้อสงสัย คลางแคลงใจ และทำให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่เพียงจะเป็นผลดีต่อรัฐบาล ประชาชน แล้วยังเป็นการส่งเสริม และยอมรับแนวทางประชาธิปไตย

ขณะที่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ของสภาผู้แทนราษฎร ก็ส่งสัญญาณร้อนจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง เมื่อแกนนำและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ต่างประกาศจุดยืนว่า พรรค ปชป.ยึดหลักการเดิม คือ สนับสนุนให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ควรมีช่องว่างช่องโหว่ให้ใช้กัญชาได้อย่างเสรีและอาจจะกลายเป็นปัญหายาเสพติดของประเทศตามมาได้ เนื่องจากยังข้องใจเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ นำร่างกลับไปแก้ไขใหม่นั้น ไม่เป็นไปตามที่พรรค ปชป.ส่งข้อเสนอแนะไป ข้อกังวลที่อาจจะนำกัญชาไปใช้อย่างเสรียังไม่ได้รับการแก้ไข และไม่สามารถให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ผ่านไปได้

ส่วนพรรค ภท.ยืนยันว่า ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ อีกทั้งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาไว้ ขณะเดียวกันเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่ กมธ.พิจารณามานั้น ครอบคลุมในทุกข้อกังวลและไม่มีส่วนไหนที่เปิดช่องให้ใช้กัญชาอย่างเสรี ส่วนการพิจารณาของที่ประชุมสภา พรรค ภท.จะพิจารณาตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และยึดถือเรื่องมารยาทการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างยิ่งจะไม่ทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทของพรรคร่วม

แน่นอนช่วงนับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้ง เรื่องใดที่จะช่วยเพิ่มเรตติ้งและคะแนนนิยมทางการเมืองได้ ทุกพรรคต้องเดินหน้ากันอย่างเต็มที่ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล

กับเป้าหมาย คือ ชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า