ปิดฉากโฉนดร้อน 40 ล้าน แลกซื้อที่ดินไทย

ปิดฉากโฉนดร้อน 40 ล้าน แลกซื้อที่ดินไทย

เมื่อทนแรงเสียดทานวาทกรรม “ขายชาติ” ไม่ไหว ในที่สุด “รัฐบาลประยุทธ์” ยอมถอนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งตีตราประทับได้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565

ว่าด้วยเรื่องร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ซึ่งยกร่างขึ้นใหม่ให้ “ต่างชาติ” 4 กลุ่มมีศักยภาพ ซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อการอยู่อาศัย ภายใต้เงื่อนไขนำเงินไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาทมาลงทุนใน 3 ปี

แม้หน้าฉาก รัฐบาลจะบอกว่าการถอนสมอในครั้งนี้ เพื่อนำกลับไปพิจารณาให้รอบคอบ รัดกุม แต่ใน “ทางลับ” ว่ากันว่า เป็นการถอยเพื่อ “ปิดฉาก” ร่างกฎกระทรวงเวอร์ชั่นใหม่ เหมือนไม่เคยมีการพูดถึงกันมาก่อน เพราะกฎกระทรวงฉบับเดิมปี 2545 ยังใช้มาถึงปัจจุบัน

หากรัฐบาลไม่จุดพลุขึ้นมาอีกครั้ง คนก็ลืมไปแล้วว่า “ต่างชาติซื้อที่ดินไทย” ได้ 1 ไร่มาเป็นระยะเวลา 20 ปีแล้ว

Advertisement

ต้นสายปลายเหตุเกิดจาก “รัฐบาล” กำลังตีปี๊บมาตรการวีซ่าระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa (LTR Visa) ให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนต่างชาติมีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษอยู่ไทยระยะยาว 10 ปี

โดยมองว่าไหนๆ ต่างชาติได้สิทธิ LTR แล้ว อาจจะสนใจซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับมีกฎกระทรวงเดิมอยู่แล้ว จึงน่าจะผลักดัน

เรื่องนี้ได้อย่างสะดวกโยธิน จึงปรับเงื่อนไขใหม่ล้อไปกับกรอบกฎกระทรวงเดิม เพิ่มเติมคือเจาะจงต่างชาติ 4 กลุ่ม ลดเวลาลงทุนจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี ให้จูงใจมากขึ้น หวังกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

Advertisement

แต่เมื่อกระแส “ขายชาติ” จุดติด จึง “แท้ง” ก่อนกำหนดคลอด กลับไปใช้เงื่อนไขเดิม

ส่วนจะมีต่างชาติมาขอให้สิทธิเพิ่มจาก 20 ปี มี 8 ราย เป็นรายที่ 9 หรือไม่ คงต้องติดตาม เพราะไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขเก่าหรือใหม่ ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องผ่านอนุมัติเป็นรายกรณี ไม่ได้เหมายกเข่งอย่างที่กังวล

ด้านความเคลื่อนไหวของภาคอสังหาริมทรัพย์ “มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งที่ผ่านมาพยายามผลักดันแพคเกจใหม่ให้ต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรได้ 49% ของจำนวนพื้นที่โครงการ ในกรุงเทพฯ เนื้อที่ 50 ตร.ว.ถึง 1 ไร่ ราคา 5-100 ล้านบาท และต่างจังหวัด เนื้อที่ 50 ตร.ว.ถึง 1 ไร่ ราคา 3-30 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขล้อกับกฎกระทรวงใหม่ ไม่เกินรายละ 1 ไร่ ห้ามจำหน่ายหรือโอนกรรมสิทธิ์ใน 3 ปี และได้ LTR Visa โดยอัตโนมัติ

แต่พลันที่ “รัฐบาล” ไม่สามารถก้าวข้ามวาทกรรมขายชาติได้ ในส่วนของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย “มีศักดิ์” บอกว่า ในการประชุมวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ต้องนำข้อเสนอดังกล่าวมาทบทวนใหม่อีกครั้งเช่นกัน พร้อมกับดึงนักวิชาการมาร่วมกลั่นกรองรายละเอียด

“คงต้องใช้เวลา ถ้าเสนอรัฐบาลชุดนี้ไม่ทัน คงต้องเสนอรัฐบาลหน้าพิจารณาต่อไป เพราะไม่ว่ายังไงสมาคมจะยังผลักดันต่อไป เพื่อให้การซื้อบ้านในปัจจุบันที่มีการซื้อผ่านช่องทางนอมินี ทำให้มันถูกกฎหมายมากขึ้น” มีศักดิ์ย้ำ

ด้านมุมมองของ “วสันต์ เคียงศิริ” นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุว่า ครม.ยกเลิกร่างกฎกระทรวงใหม่ไม่มีผลอะไรเลย เพราะยังใช้กฎกระทรวงเดิมปี 2545 ขณะที่กฎกระทรวงใหม่ที่ ครม.ไม่ได้เป็นข้อเสนอจากเอกชน คงต้องรอดูนโยบายภาครัฐจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป จะผลักดันเช่าระยะยาวแทนไหม ซึ่งสมาคมเคยเสนอให้แก้ พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ.2542 ให้ครอบคลุมที่อยู่อาศัยให้เช่าได้ 99 ปี แต่รัฐลด 50 ปี และยังไม่มีการผลักดัน โดยมองว่าการเช่าระยะยาวจะลดแรงต้านได้

ไม่ต่างจาก “อธิป พีชานนท์” นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่รัฐบาลจะยกเลิกมติ ครม.ให้ต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ไร่ เพราะถูกวิจารณ์หนัก ถ้ามีรายละเอียดเงื่อนไขครบถ้วนมากกว่านี้ เช่น เป็นบ้านคนละราคา คนละทำเลกับคนไทย เชื่อว่านโยบายนี้น่าจะไปต่อได้

อธิปยังประเมินว่ารัฐบาลชุดนี้คงไม่หยิบเรื่องต่างชาติซื้อที่ดินมาพิจารณาแล้ว เพราะใกล้หมดเวลาและเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่และคิดว่าถึงรัฐบาลใหม่เข้ามา คงจะไม่กล้าสานต่อ

หลายปีที่ผ่านมา อสังหาฯเสนอเรื่องการเช่าระยะยาวให้รัฐบาลพิจารณาแล้ว แต่ยังค้างท่ออยู่ที่กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรม โดยให้แก้ไข พ.ร.บ.การเช่าอสังหาฯ ให้เช่าที่อยู่อาศัยได้ 50 ปี ต่อได้อีก 50 ปี เหมือนเช่าทำธุรกิจและอุตสาหกรรม จากเดิมที่อยู่อาศัยจะอยู่ภายใต้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเช่าได้ 30 ปี หากได้ 50 ปี จะจูงใจเขามาลงทุนได้ และกฎหมายมีอยู่แล้ว ทำได้ง่าย และเชื่อว่าจะลดแรงต้านขายชาติได้ เพราะกรรมสิทธิ์ยังเป็นของคนไทย อธิปเสนอแนะ

ขณะที่ อิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า ต่างชาติที่ได้ LTR ยังซื้อที่ดิน 1 ไร่ได้ตามกฎกระทรวงเดิมแต่ลงทุน 40 ล้านบาท ใน 5 ปี หรือซื้อผ่านช่องทางอื่น เช่น คอนโดมิเนียมซื้อได้ 49% ของพื้นที่โครงการ บริษัทนอมินี หรือการเช่า 30 ปี

มีมุมมองน่าสนใจจาก วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารและรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูอสังหาริมทรัพย์ ว่า มี 4 เหตุผลที่คนในสังคมยังไม่สนับสนุนให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้

1.คนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่เห็นโอกาสจะมีบ้าน จึงเกิดความกังวล หากให้ต่างชาติซื้อที่ดินและบ้านได้ ยิ่งทำให้ซื้อบ้านยากขึ้น เพราะราคาจะแพงขึ้น

2.หลักเกณฑ์ยังไม่รัดกุมเพียงพอ จะตอบคำถามสังคม ทำให้เกิดข้อกังวล เช่น ซื้อที่ดินแล้วไม่ปลูกสร้างบ้าน ไม่กำหนดราคา มีเก็บภาษีอัตราพิเศษหรือไม่ รัฐบาลต้องมีแนวทางชัดเจน อย่าใช้แนวทางโยนหินถามทาง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต่อสังคมไทย

3.ยังไม่มีประเมินความคุ้มค่า ผลได้ผลเสียทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ชัดเจน

4.นโยบายออกมาในช่วงจังหวะใกล้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงกลายเป็นประเด็นทางการเมืองประกอบกับมีข่าวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจสีเทาด้วย จึงทำให้เกิดกระแสต่อต้านมากยิ่งขึ้น

“ต้องไม่ลืมว่า แม้ร่างกฎกระทรวงใหม่ถูกถอน แต่ต่างชาติยังซื้อที่ดินได้ตามกฎกระทรวง 2545 ยังจัดตั้งนิติบุคคลสัญชาติไทย โดยคนไทยและต่างชาติถือหุ้น 51:49 เพื่อซื้อที่ดินและที่อยู่อาศัยได้ทั่วประเทศโดยไม่ถูกกฎหมายและยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่า 40 ล้านบาทด้วย” วิชัยกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image