เอ็นจีโอ ประกาศลุยเอเปค เดินเท้าจากลานคนเมืองไปศูนย์สิริกิติ์ เฉียด 8 กม.
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า กลุ่มราษฎรและเครือข่ายนัดชุมนุมในกิจกรรมราษฎรหยุด APEC 2022 เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดการประชุมเอเปคที่จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ร่วมกิจกรรม อาทิ นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือ ยาใจ ทะลุฟ้า นายธัชพงษ์ แกดำ หรือ บอย ,นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ ทะลุวัง, น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ หนอนบุ้ง ทะลุวัง, นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า และ กลุ่มเสื้อแดง
โดยนายพชร คำชำนาญ แกนนำภาคีsaveบางกลอยได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า มีผู้ชุมนุมคนจำนวนมากยังเดินทางกันไม่ถึง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- พล.อ.นิพัทธ์ ที่ปรึกษาชัชชาติ ยัน ม็อบ ‘ค้างไม่ได้’ วอนเข้าใจต้องเป็นไปตามหลักการ
- ขึ้นป้ายพรึบ! ล้อมลานคนเมือง ต้านเอเปค ไล่ประยุทธ์ หยุดทุนผูกขาด
ต่อมาเมื่อเวลา 17.56 น. นายอารัติ แสงอุบล เลขาธิการ กป.อพช. กล่าวถึง การบริหารงานในอดีตถึงปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์และการประชุมเอเปคในโมเดลเศรษฐกิจ
BCG ที่มีการเอื้อนายทุน ความตอนหนึ่งว่า
“ผมพยายามท่อง BCG มาหลายครั้งแล้วแต่เป็น BTS ทุกครั้ง โมเดลเศรษฐกิจสีเขียวที่พล.อ.ประยุทธ์ชี้นำ 8 ปีที่ผ่านมาประยุกต์เคยทำอะไรที่เป็นเศรษฐกิจสีเขียวให้พวกเราเห็นได้เป็นรูปธรรมไหม นโยบายทวงคืนสวนป่าใช้เศรษฐกิจสีเขียวไหม คือการผลักดันเอาพี่น้องที่ไม่มีความมั่นคงในที่ดินออกจากพื้นที่
แต่ครั้งนี้ที่มีการเคลือบแฝงเอาไว้คือเรื่อง GMOเขาไม่สามารถที่จะผลักดันทางอื่นได้เพราะสังคมไม่ยอม สิ่งที่น่ากลัวในการประชุมเอเปคครั้งนี้คือการประชุมเอเปคคือการย้อมแมว ย้อมตัวคือความพยายามที่จะผลักดันเศรษฐกิจที่เขาเรียกว่าเศรษฐกิจสีเขียว โดยมีกลุ่มทุน น้ำตาลอ้อยอาหารเกษตรอยู่เบื้องหลัง เอเปคจะทำหน้าที่ในการแสตมป์ตราทำให้เกิดการยอมรับว่าเศรษฐกิจสีเขียว คือเศรษฐกิจก้าวหน้า
คือเศรษฐกิจของอนาคต แต่ความเป็นจริงมันคือเศรษฐกิจของกลุ่มทุนผูกขาด คือการปูทางเศรษฐกิจครอบครัว เศรษฐกิจผู้นำเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไปและผู้คนเหล่านี้จะยัดเยียดนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวยัดลงไปนโยบายของรัฐบาลข้างหน้านี้ ต้องหยุดเอเปค ต้องไล่ประยุทธ์ 2เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกัน”
นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานกป.อพช. กล่าวถึง เรื่องปลากุเลาตากใบที่ได้รับเป็นอาหารให้สำหรับผู้นำประชุมเอเปค และย้อนอดีตถึงเหตุการณ์ตากใบที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ ความตอนหนึ่งว่า
“ในวันนี้น่าจะเป็นความพยายามหนึ่งของรัฐบาลนี้ที่จะเอามาอธิบายเพื่อทำให้สังคมรู้สึกดีขึ้นว่าที่ตากใบมีของดีอยู่ เพื่อที่จะให้คนไทยลืมเหตุการณ์ตากใบไว้ด้วย วันนี้แค่ปรากฏเราตากใบ สุดท้ายเป็นตัวเราแท้หรือเทียม ตาคนเรามีหลายจังหวัดในภาคใต้แต่ที่ขึ้นชื่อขึ้นหน้าขึ้นตาปรากฏเราถือว่าเป็นปลาเค็มที่น่าจะเป็นราชาของปลาเค็มอร่อยกว่าปลาอินทรีย์ กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
เราจะเอาจริงวันพรุ่งนี้แล้วจะเอาจริงขึ้นในวัน 18 พ.ย. ช่วงเช้าพรุ่งนี้จะมีจากหลากหลายจังหวัดเข้ามายังจุดนี้ พี่น้องผมพี่กำลังเดินทางมาทางเหนือมารถไฟ รถบัสบ้าง ทุกภาคตอนนี้ถูกสกัดหมดแล้วโดยด่านสกัดหมดเลย นี่คือการปิดการใช้หรือไม่เขาพยายามทุกทางเพื่อไม่ให้พี่น้องมาที่นี่ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถ้าเกิดคุณอยากเดินหน้า 18 พ.ย.เจอกัน”
จากนั้น นายสมบูรณ์ถามผู้ชุมนุมว่า “8 กม.ไหวไหม ” ผู้ชุมนนุมตอบกลับอย่างเข้มแข็งว่า “ไหว”
จากนั้นมีการแสดงดนตรีจากสหภาพคนทำงาน เริ่มด้วยเพลง “แนวร่วมคนทำงาน”
