ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ย้ายซบ รวมไทยสร้างชาติ เสี่ยงวืดคัมแบ๊กนายกฯ
กรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รอจังหวะถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมงานกับพรรค รทสช.หรือไม่ ภายหลังจบภารกิจช่วงประชุมผู้นำเอเปค และจะหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ถึงความชัดเจนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งนายกฯได้แค่ 8 ปีคือถึงเดือนเมษายน 2568 หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯได้อีกเพียง 1 ปี 9 เดือน ดูแล้วไม่คุ้ม เพราะหลังจากนั้นต้องมาโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่อีก ดังนั้นควรมาร่วมมือทำงานจะดีกว่า
“หากแตะมือแบ่งกันทำงาน ลุงตู่ก็ยังมีบารมีเหมือนเดิม เป็นรองนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เหมือน พล.อ.ประวิตรเป็นตอนนี้ ทุกคนก็รู้จักและเกรงใจทั้งสองคนเท่าๆ กัน ถ้าอยากช่วยงานลุงป้อมขอให้เข้ามาเป็นสมาชิกพลังประชารัฐ เพราะพรรค พปชร.ยังไงก็เป็นแกนนำรัฐบาล จะไปอยู่พรรคเล็กๆ อย่างพรรค รทสช.จะเหมาะสมหรือไม่ ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ จะได้ ส.ส.ถึง 25 เสียง เพียงพอที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ ครั้งหน้าหรือไม่ก็ไม่รู้ ถ้าไม่ถึง 25 เสียง ก็จบแค่นั้น” นายวีระกรกล่าว
นายวีระกรกล่าวว่า มองว่า พล.อ.ประยุทธ์มีอยู่สองทางเลือก คือ 1.ลอยตัวเหมือนเดิม รอให้คนเสนอชื่อ แต่ไม่สังกัดพรรค 2.พล.อ.ประยุทธ์ยอมสังกัดพรรค พปชร มาช่วย พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ แต่ทางเลือกที่จะไปพรรค รทสช.ไม่มีโอกาสและไม่มีเปอร์เซ็นต์เลย
