พปชร.เข้าเกียร์เลือกตั้ง! ‘บิ๊กป้อม’ เซ็นตั้งกรรมการศึกษาร่างนโยบายหาเสียง ‘ไพบูลย์’ นั่งหัวโต๊ะ ดึง ‘สมเกียรติ’ อดีตเลขาฯสทนช.ร่วมวง ถกนัดแรก 23 พ.ย.
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงนามคำสั่งพรรคพลังประชารัฐที่ 132/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้การกำหนดนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของ พปชร.ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค สมาชิกพรรค นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของทุกภาคส่วน รองรับการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า และตอบสนองต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และประชาคมโลกในปัจจุบัน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ประชาชนคนไทย ทุกคนอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 17(1)(ซ) จึงแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โดยมีองค์ประกอบ หน้าที่ และอำนาจ ดังต่อไปนี้
คณะกรรมการ 15 คน ประกอบด้วย 1.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานกรรมการ 2.พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองประธานกรรมการ ขณะที่กรรมการ 3.นายอัครวัฒน์ อัศวเหม 4.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 5.นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ 6.นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ 7.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา
8.นายรงค์ บุญสวยขวัญ 9.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 10.น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ 11.พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ 12.นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อดีตเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) 13.นายบุรินทร์ สุขพิศาล 14.นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย และ 15.น.ส.พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ กรรมการและเลขานุการ
โดยมีหน้าที่และอำนาจ 1.ศึกษาและจัดทำร่างนโยบายเพื่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค และข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้อง เสนอหัวหน้าพรรคพิจารณา เพื่อปรับปรุงแก้ไข หรือดำเนินการอื่นใดเพิ่มเติม ให้เกิดความสมบูรณ์ครบถ้วน รวมทั้งนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป
2.จัดให้มีการรับฟัง แลกเปลี่ยน และระดมความคิดเห็นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค สมาชิกพรรค นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมในกระบวนการศึกษา และจัดทำร่างนโยบายเพื่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนต่างๆ ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชนท้องถิ่น ระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับชาติ
3.จัดทำเอกสารประกอบนโยบายเพื่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค เพื่อยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
4.แต่งตั้งที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมาย
5.รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการในทุกขั้นตอนต่อหัวหน้าพรรคโดยตรง
6.ดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ และปฏิบัติงานอื่นตามที่
ทั้งนี้ นายไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการ จะประชุมนัดแรกวันที่ 23 พ.ย. เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา
นายสมเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เพียงแต่ได้รับทาบทามให้เข้ามาช่วยจัดทำนโยบายของพรรค จากประสบการณ์ช่วงที่การบริหารจัดการน้ำสมัยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สทนช. ซึ่งไม่ทราบว่าคณะกรรมการที่เข้าไปดำรงตำแหน่งจะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ถ้าต้องสมัครก็สมัครได้ แต่ใจจริงไม่อยากสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และไม่ต้องการลงเล่นการเมืองด้วย
