‘ทะลุฟ้า’ ลุยยื่นฟ้องผู้นำเอเปค ‘เตือนแล้ว’ ประชุมกับ รบ.เผด็จการ มี 25 ชีวิตถูกละเมิดสิทธิ ‘ไผ่’ ซัด ไวนิลปกปิดอัปยศ

‘ทะลุฟ้า’ ลุยยื่นสถานทูต ฟ้องผู้นำเอเปค ‘ไผ่’ ลั่น เตือนแล้ว ประชุมกับรัฐเผด็จการจะเกิดการละเมิดสิทธิ มี 25 ชีวิตถูกจับ ซัดไวนิลปกปิดอัปยศ

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต เขตปทุมวัน กลุ่มทะลุฟ้านัดหมายทำกิจกรรม “ยื่นหนังสือทะลุโลก #BLOODYAPEC2022”

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 13.00 น. ตามเวลานัดหมาย ยังไม่พบกลุ่มผู้จัดกิจกรรมจากทะลุฟ้า โดยพบเห็นเพียงสื่อมวลชน ผู้เดินทางมาร่วมกิจกรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 5 นาย จาก สน.ลุมพินี

ต่อมา เวลา 13.37 น. นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า เดินทางมาถึงบริเวณบีทีเอสเพลินจิต พร้อมตัวแทนผู้หญิงอีกรายที่ถือเอกสารใส่ซองน้ำตาล โดยทั้งคู่สวมสูทสีดำ

Advertisement

จากนั้น เวลา 13.43 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และคณะ เดินทางถึงบีทีเอสเพลินจิต

เวลา 13.52 น. กลุ่มทะลุฟ้าเริ่มเดินขบวน นำโดย นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน โดยชู 3 นิ้วปิดตาด้านขวา พร้อมเปล่งเสียงว่า “APEC เลือด” และชูป้ายภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ถนนดินสอ เพื่อสื่อถึงการสูญเสียดวงตา 1 ข้างของ ‘พายุ’ สมาชิกกลุ่มดาวดิน จากการสลายการชุมนุมดังกล่าว โดยนายจตุภัทร์นำขบวนเดินเท้าไปยังถนนวิทยุ

Advertisement

จากนั้น เวลา 13.58 น. ขบวนเดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำประเทศไทย โดยมี นายต๋วน เจ้าหน้าที่สถานทูต เป็นตัวแทนรับหนังสือของกลุ่มทะลุฟ้า

ต่อมา เวลา 13.45 น. นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้จะไปยื่นหนังสือกับสถานทูตที่มาร่วมประชุมเอเปค เราจะสรุปผลการประชุมในเวทีคู่ขนานของประชาชนให้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่ท่านประชุมกัน มีประชาชนโดนจับ 25 คน มีคนถูกทำร้ายจาก คฝ. โดนยิงที่ตาคือพายุ มีอีกหลายคนที่โดนการสลายการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ดังนั้น เราจะมารายงานผลว่าเราเคยเตือนท่านแล้วว่าการมาประชุมกับประเทศที่เป็นเผด็จการ ประเทศที่ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น

“ท่านได้แต่เห็นไวนิลสวยๆ ปิดบังคอนเทนเนอร์ ความอัปยศความรุนแรง ปิดบังคราบเลือด และคราบน้ำตาของประชาชนที่อยู่ในนั้น วันนี้พวกเราทะลุฟ้า จะมายื่นหนังสือถึงทุกสถานทูต รายงานการประชุมเอเปค รายงานความเสียหายว่าเกิดความเสียหายต่อสิทธิมนุษยชนในประเทศอย่างไรบ้างในวันที่ 18 พฤศจิกายนที่มีการประชุมเอเปคกัน” นายจตุภัทร์กล่าว

บรรยากาศ เวลา 14.12 น. กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ก่อนยื่นหนังสือให้กับเจ้าหน้าที่สถานทูต และเดินทางไปยังสถานทูตต่อไป ทั้งนี้ ระหว่างเดินขบวน กลุ่มทะลุฟ้าได้ร่วมเปล่งเสียง “ประยุทธ์ get out” และ “Bloody APEC” อย่างต่อเนื่อง

เวลา 14.26 น. ขบวนหยุดพักบริเวณ ถ.วิทยุ ซอยพระเจน

จากนั้น เวลา 14.34 น. กลุ่มทะลุฟ้ายื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นผู้รับ

ต่อมา เวลา 14.44 น. กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางถึงแยกถนนวิทยุ เข้าสู่ถนนสาทรใต้

เวลา 14.45 น. เดินทางถึงหน้าอาคารคิวเฮาส์ ลุมพินี สาทร ใกล้กับ สถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโก ประจำประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า “Bloody APEC ประยุทธ์ get out” หลายครั้ง จากนั้นเข้าไปยื่นหนังสือกับตัวแทนของสถานเอกอัครราชทูตเม็กซิโก

ต่อมา เวลา 14.58 น. กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย โดยมีตัวแทนหญิงจากกลุ่มทะลุฟ้าสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับตัวแทนสถานทูตที่ออกมารับหนังสือ บอกเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในการสลายการชุมนุมหยุดเอเปคเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

กระทั่งเมื่อเวลา 15.19 น. กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางมาถึงสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ โดยมีตัวแทนออกมาต้อนรับข้างหน้าและเชิญให้เข้าไปคุยข้างใน โดยขอตัวแทน 2 คน ซึ่งภายหลังการพูดคุยได้ขอเข้าไป 3 คน โดยเป็นสถานทูตแรกที่ให้เข้าไปภายหลังเดินทางไปยื่นหนังสือแล้ว 4 สถานทูต

เวลา 15.25 น. นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า กล่าวหน้าสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ว่าการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ถนนดินสอ มีการยิงกระสุนยางใส่ประชาชน และมีการจับกุมอย่างไม่ชอบธรรม โดยเหตุการณ์นี้ทำให้เพื่อนของเรา จำนวน 1 คน นั่นคือพายุ นักกิจกรรมจากกลุ่มดาวดิน ต้องเสียดวงตาข้างขวาของตัวเอง โดยโอกาสที่จะกลับมามองเห็นอีกครั้งเป็นศูนย์

“เรามาที่สถานทูตนี้เพื่อที่จะบอกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เราเคยมาเตือนผู้นำเอเปคแล้ว 1 รอบ ว่าถ้ามาจะเจออะไรบ้างกับประเทศที่คุกคามสิทธิมนุษยชนของนักกิจกรรมในประเทศไทย นี่คือสิ่งที่ต่างชาติต้องพบเจอ ตู้คอนเทนเนอร์โปรโมตการท่องเที่ยวสวยงามนั่นคือการยิงประชาชน นั่นคือประชาชนถูกจับกุมมากกว่า 25 คน ดังนั้น ข้อเรียกร้องของเรานั่นคือให้สถานทูต หรือคณะงานประจำสถานทูตแห่งประเทศไทยรายงานต่อผู้นำ หรือบุคคลสำคัญที่มาประชุมในประเทศไทยให้รับทราบโดยทั่วกันว่า เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นในประเทศไทยและสิ่งเหล่านี้ควรที่จะได้รับรายงานต่อผู้นำโลก นี่เป็นสถานทูตสุดท้ายของเรา ต่อจากนี้กิจกรรมของเราจะไปดำเนินที่องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ถนนราชดำเนิน” นายธนพัฒน์กล่าว

ต่อมา เวลา 16.20 น. กลุ่มทะลุฟ้าเดินทางมาถึงหน้า องค์การสหประชาชาติ หรือ UN พร้อมเปล่งเสียง “Bloody APEC ประยุทธ์ get out ” เพื่อสะท้อนความรุนแรงของตำรวจ คฝ. จากการสลายการชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน

เวลา 16.31 น. เจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติ ได้อนุญาตให้ตัวแทนเข้าไปได้ 2 คน โดยมี นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน และตัวแทนหญิงอีกคนเข้าไปยื่นหนังสือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image