เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เผยแพร่จดหมาย เรื่อง การถูกคุกคาม และการปรับความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่งถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สืบเนื่องกรณีการถูกชายฉกรรจ์ 4 รายติดตามถึงที่พักส่วนตัว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพรถกระบะปิดบังป้ายทะเบียนไว้ได้นั้น (อ่านข่าว ‘ชาญวิทย์’ เผย ชายฉกรรจ์ 4 คนตามถึงคอนโด วงจรปิดจับภาพชัด ขับกระบะ แต่ปิดบังป้ายทะเบียน)
จดหมายดังกล่าว มีเนื้อหาย้อนกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงการทำหนังสือร้องเรียนต่อผบ.ตร. เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา แต่เรื่องเงียบ จึงมีการติดตามเรื่องอีกครั้ง โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ในฐานะทนายความได้ยื่นหนังสือทวงถามเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 (อ่านข่าว ‘ชาญวิทย์’ ควง พนัส-ทนายด่าง ลุยยื่น ผบ.ตร. ปมถูกชายฉกรรจ์คุกคามถึงคอนโด ยัน ‘ผิดอาญาแผ่นดิน’)
กระทั่ง 3 ตุลาคมที่ผ่านมา พันตำรวจโท วิโรตม์ ผลบุญ รองผู้กำกับฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน 1 นาย ได้ขอเข้าพบศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์เป็นครั้งแรก เพื่อแสดงความเสียใจ และชี้แจงว่าเป็นการกระทำของตำรวจสน.ตลิ่งชัน แต่ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย เพียงต้องการดูแลในฐานะบุคคลสำคัญเท่านั้น
เนื้อหาในจดหมาย กล่าวต่อไปถึงเหตุการณ์วันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งพันตำรวจเอกวราวัชร์ ธรรมสโรช ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน นำกระเช้าดอกไม้มอบแด่ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ พร้อมหนังสือแสดงความเสียใจ และกล่าวอีกครั้งว่า ไม่มีเจตนาร้าย ต่อมา ในวันที่ 21 ตุลาคม พันตำรวจโท วิโรตม์ ผลบุญ นำหนังสือราชการมาแจ้งข้อมูลว่า ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่าบุคคลตามที่ปรากฏ ได้แก่ 1. ดาบตำรวจบรรลุ สิทธิมณี 2. สิบตำรวจเอกคณพศ สมภักดี 3. สิบตำรวจเอกสันต์ ศรีสุขเจริญ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของพันตำรวจโทชาณิช เข็มเพ็ชร์ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ โดยออกตรวจเยี่ยมบุคคลและสถานที่ในเขตรับผิดชอบเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับบุคคลและสถานที่สำคัญ
ในตอนท้ายของจดหมาย ระบุว่า ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ ในฐานะผู้เสียหาย รับทราบและ ‘ไม่ติดใจเอาเรื่อวตำรวจชั้นผู้น้อย’ ซึ่งคงต้องรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา จึงใคร่ขอเรียนตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้ทราบ โดย “อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีเช่นนี้ อย่าให้บกพร่องอีกต่อไป”
ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ กล่าวด้วยว่า จดหมายและเอกสารเหล่านี้ ได้ส่ง ปณ. ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานีตำรวจเขตตลิ่งชันแล้ว หวังว่าทางเจ้าหน้าที่ฯ คงได้รับและเสนอต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจ จึงขอส่งสำเนาให้ญาติและกัลยาณมิตร ทราบทั่วกันด้วย ทั้งนี้เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งหลักการนิติธรรม และนิติรัฐของประชาชาติไทย
รายละเอียด ดังนี้
