ราษฎรเอเปคแถลง 4 ข้อเรียกร้อง ขอผู้นำเอเปครับผิดชอบร่วมรัฐไทย ปมสลายชุมนุม ทบทวนลงนามนโยบาย BCG -จี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หาตัวมือยิงกระสุนยางรับผิดวินัย-อาญา ชดใช้ค่าเสียหาย เตรียมฟ้องกลับจนท. เร่งรวบรวมพยานหลักฐานรัดกุม
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 19.00 น. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่าวประเทศ (FCCT) กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า, นายนิติกร ค้ำชู หรือ ตอง ดาวดิน และนายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารกลุ่มแนวร่วมขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ร่วมกันแถลงกรณีการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในการสลายชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนบนถนนดินสอ รวมถึงแนวทางการเคลื่อนไหวในการเรียกร้องต่อจากนี้ ดำเนินรายการโดย นายเยี่ยมยุทธ์ สุทธิฉายา สำนักข่าวประชาไท
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของคณะราษฎรหยุดเอเปค 2022 ที่ออกมาชุมนุมโดยตั้งเวทีบนลานคนเมืองตั้งแต่ 16 -17 พฤศจิกายน เพื่อให้ข้อมูลประเด็นทรัพยากรที่เกี่ยวเนื่องกับนโยบาย BCG ที่รัฐบาลไทยพยายามผลักดัน ว่าหากนโยบายดังกล่าวผ่าน ชาวบ้านและสังคมจะพบเจออะไรบ้าง แน่นอนว่าเวทีเอเปค รวบรวมผู้นำในเขตเศรษฐกิจในประเทศต่างๆมาพูดคุยหารือกัน เพื่อหาแนวทางด้านการค้า วันนี้พวกตนเดินทางไปยื่นหนังสือบางส่วนต่อสถานทูตประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับเวทีเอเปค (อ่านข่าว ราษฎรหยุดเอเปค ลุยยื่น 8 สถานทูต ฟ้องนานาชาติโดนสลายชุมนุม เรียกร้องผู้นำประเทศแสดงจุดยืน)
โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้
1.ขอเรียกร้องให้ประเทศที่ลงนามในนโยบาย BCG มีการทบทวนการเจรจาที่เกิดขึ้น หรือหากมีการลงนามไปแล้ว ก็อยากให้ทบทวนอีกครั้ง ว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นธรรมต่อชาวบ้าน เกษตรกร คนรากหญ้าในสังคมไทย เนื่องจากไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีส่วนร่วม สิ่งแรกที่อยากเรียกร้องคือให้ทางสถานทูตแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง ทบทวนอีกครั้ง โดยนึกถึงคนในชาติมากกว่าสิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์พยายามโชว์ให้เห็น
2. ขอให้ประเทศที่ลงนามในนโยบาย BCG ร่วมกันรับผิดชอบกับรัฐบาลไทยกรณีการสลายชุมนุมเมื่อ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้ความรุนแรงและโหดร้ายมาก
3. ขอเรียกร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานหลักที่ต้องออกมารับผิดชอบต่อการกระทำของตำรวจควบคุมฝูงชน
3.1 ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมารับผิด ขอโทษ ต่อกรณีดังกล่าว
3.2 ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกมาแสดงความรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนที่สูญเสียไปในวันดังกล่าว
3.3 ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและส่วนที่เกี่ยวข้อง หาตัวผู้สั่งการและผู้กระทำความผิดในการสลายชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ การหาตัวมารับโทษ จำเป็นต้องรับโทษทั้งวินัยและอาญา ต้องยืนหยัดไม่ผลิตซ้ำวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดอีกต่อไป ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังพอมีคุณธรรมอยู่บ้าง
3.4 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรับประกันว่าจะไม่เกิดการใช้ความรุนแรงในการสลายชุมนุมเช่นนี้อีก อย่างน้อย การหาตัวผู้กระทำผิด ต้องไม่ใช่เพื่อลงโทษกันเองทางวินัย แต่ต้องเปิดรายชื่อบุคคลที่กระทำเกินกว่าเหตุ เช่น คนใช้กระสุนยางยิงในวันนั้น
4. ปฏิรูปการควบคุมการชุมนุมให้เป็นการอำนวยสะดวกการชุมนุมให้เกิดขึ้น ไม่ใช่การขัดขวาง ต่อต้าน ปราบปราม กำจัดทิ้ง เพราะตามระบอบประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุม เพื่อแสดงออกทางจุดยืน ปัญหา ข้อเรียกร้อง โดยในการปฏิรูปต้องรับประกันว่า จะไม่มีเหตุการณ์การใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบจำเป็นต้องถูกระบุตัวตนให้ได้ เมื่อก่อนเคยมีป้ายชื่อติด ปัจจุบันนำออกไปแล้ว ต้องโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ และยึดหลักสิทธิมนุษยชนแบบสากล
“อยากขอให้ทุกประเทศที่ลงนามร่วมกันกดดันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมายอมรับผิด ขอโทษ และชดใช้ค่าเสียหายทั้งร่างกายและสิ่งของที่สูญหาย อย่างน้อยๆ เราต้องการเรียกร้องให้พวกคุณ ออกมารับรู้ รับทราบ และรับผิดชอบร่วมกันกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่รัฐบาลไทยทำในวันนั้นในการสลายชุมนุมอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับที่พวกคุณตกลงเจรจาลงนาม เราพยายามหนักมากในการนำเสนอให้เห็นว่านโยบาย BCG ส่งผลต่อพี่น้องอย่างไร แต่ไม่ได้รับการตอบรับ
ระหว่างการชุมนุมมีทั้งบุคคลที่ถูกกระทำอย่างโหดร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ มีของมีค่าหลายอย่างถูกตำรวจกระชากระหว่างทาง มีทรัพย์สินสูญเสียจากการสลายชุมุนม
สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ต้องหาตัวผู้กระทำผิด ผู้สั่งการในการสลายชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามขั้นตอน โดยต้องลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา
การทุบตีอย่างนั้นทั้งที่ไม่ได้มีเหตุให้กระทำ ไม่มีใครเตรียมตัวทัน กล้องของพี่น้องสื่อมวลชน เครื่องเสียง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหายเยอะมาก
เรามีทั้งหลักฐาน ทั้งคลิปวีดีโอ โดยกำลังจะดึงภาพเหล่านี้ออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกมาพูดอะไรบ้าง ที่เป็นการแสดงความรับผิดชอบ
ยืนยันว่าการชุมนุมของพวกเราปราศจากอาวุธ เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่ต้องได้รับการปกป้องตามรัฐธรรมนูญ เรานำเสนอเรื่องปากท้อง ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดของคนในชาติ เพราะฉะนั้นต้องพูดได้ รวมถึงการวิจารณ์การทำงานของประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องพูดได้ หากต้องการให้เลิกชุมนุม ต้องไปขอหมายศาล ไม่ใช่เอากระบองมาไล่ทุบตี” น.ส.ภัสราวลีกล่าว
น.ส.ภัสราวลีกล่าวต่อไปว่า ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ จะมีการฟ้องกลับอย่างแน่นอนต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดหลักสิทธิมนุษยชน ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในขั้นตอนการดำเนินการจะรวบรวมหลักฐาน ภาพเหตุการณ์และพยานให้ได้มากที่สุด รัดกุมที่สุด และฟ้องกลับเพื่อไม่ให้เกิดการลอยนวลอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญที่อยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันลงชื่อผ่านเวปไซต์ change.org คือ แคมเปญ #ปฏิรูปคฝ เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบต่อการสลายชุมนุมราษฎรเอเปค 2022 โดยติดตามลิงค์ได้จากเพจเฟซบุ๊ก ‘ดาวดิน สามัญชน’
