ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชน |
---|---|
เผยแพร่ |
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะหงุดหงิดกับคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ และประชามติ
แต่ทั้งการทำประชามติ และร่างรัฐธรรมนูญ ล้วนเป็นกลไกที่จำเป็นและสำคัญต่อประเทศไทย
ทั้งนี้เพราะโรดแมปคือความสุขของ พล.อ.ประยุทธ์ ร่างรัฐธรรมนูญเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จก่อนจะมีการเลือกตั้ง
ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญจะสำเร็จเสร็จสิ้นลงได้ ก็ต้องผ่านการประชามติ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ได้แก้ไขเพื่อเปิดทางเอาไว้
การประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จึงมีความสำคัญ
ความสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญอยู่ที่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
รวมทั้งฉบับจำนวน 270 มาตรา
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นายมีชัยและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญตั้งชื่อว่า ฉบับปราบโกง
เนื้อหาซึ่งเป็นจุดเด่น 6 ประการ คือ 1.สิทธิและเสรีภาพของสังคมไทยจะกว้างขวางขึ้น อะไรที่เป็นเรื่องสำคัญจะกำหนดเป็นหน้าที่ของรัฐ 2.การใช้สิทธิเสรีภาพต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น 3.การสร้างความเป็นธรรมทางการเมือง โดยเฉพาะการใช้สิทธิเลือกตั้ง
4.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ขจัดคนไม่ดีทุจริตให้ออกจากวงการเมืองตลอดชีวิต 5.การมีส่วนร่วมของประชาชน และ 6.การบริหารบ้านเมืองที่จะทำให้มีการเมืองโปร่งใสมากขึ้น
ขณะที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีมากมาย สรุปใจความใหญ่ๆ คือ ไม่เห็นด้วยกับการทำให้คณะรัฐมนตรีอ่อนแอ ไม่เห็นด้วยกับการทำให้พรรคการเมืองอ่อนแรง ไม่ไว้วางใจการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ
สรุปว่าไม่เห็นด้วยกับบทบัญญัติที่ลดอำนาจของตัวแทนประชาชน และเพิ่มอำนาจให้องค์กรที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน
ข้อเสนอของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กับความคิดเห็นของฝ่ายคัดค้าน กลายเป็นประเด็นโต้แย้งทางการเมืองอยู่ในขณะนี้
ประเด็นดังกล่าวอาจมีผลไปถึงการทำประชามติใน
วันที่ 31 กรกฎาคม
การจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญก่อนการประกาศใช้เป็นข้อเรียกร้องมาตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน
ครั้งนั้นไม่มีบทบัญญัติใดที่จะให้ทำประชามติก่อน แม้นายบวรศักดิ์เองจะเคยเสนอให้มี แต่ก็เจอข้อทัดทานในคราแรก
แต่ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกิดเปลี่ยนใจ และเห็นด้วยกับการทำประชามติ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพื่อเปิดทางให้ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
กระทั่งกลายเป็น หัวใจ สำคัญ แต่ทุกอย่างยังไม่เคยทดลองใช้ เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์คว่ำจากฝีมือของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติไปเสียก่อน
แต่สำหรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย กลับมีโอกาสต้องประชามติมากขึ้นเป็นลำดับ
ทั้งนี้เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกล้มไปแล้ว ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงยากที่จะปล่อยให้ล้ม
และเนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการประชามติ
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงต้องเดินหน้าเต็มตัว
แม้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีจะออกมาแย้มหนทางสู่การเลือกตั้งในปี 2560 ตามโรดแมป พล.อ.ประยุทธ์ว่ามี
และเมื่อมองตามบทบัญญัติกฎหมายแล้วก็น่าจะมี
มีเพราะผ่านประชามติ
และมีเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ หยิบยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาแก้ไขแล้วนำไปประกาศใช้
แม้แต่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยนี้ นายวิษณุยังบอกว่ามีโอกาส หากพบว่าคะแนนเสียงรับรองร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้น้อยกว่าคะแนนเสียงไม่รับรองไม่เกินล้านเสียง
พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจจะหยิบยกเอาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยมาปรับแก้แล้วประกาศใช้ก็ได้
เท่ากับว่าตามกฎหมายแล้ว โอกาสที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะรักษาโรดแมปของ พล.อ.ประยุทธ์ไว้ได้ ยังมีอยู่
เพียงแต่การรักษาโรดแมปนั้นจะสง่างามมากน้อยเพียงใด
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ
ขณะที่มีข้อสงสัยเรื่องกฎระเบียบการทำประชามติ รัฐบาลโดยนายวิษณุ ได้ประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำประชามติ
ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะผู้จัดการลงคะแนนเสียงประชามติ และคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ปรึกษากฎหมาย
เมื่อเห็นว่าข้อความในกฎหมายอาจกระทบกับการวัดผลโหวตประชามติว่า วัดจาก ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือวัดจาก ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
นายวิษณุก็ตัดสินใจแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า ให้วัดจาก ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
เมื่อประสบปัญหาการชี้แจงประชาชนไม่ทั่วถึง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ก็แก้ไขด้วยการใช้ทหารไปชี้แจง
ความพยายามผลักดันให้นักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. กระจายไปทำความเข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่แสดงถึงความพยายาม
ยังมีความพยายามของฝ่ายทหาร โดยเฉพาะความพยายามในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางอีกมากที่ต้องการทำให้ทุกอย่างราบรื่น
หวังจะให้ประชาชนโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย
ส่วนพื้นที่ภาคใต้นั้นดูเหมือนฝ่ายทหารจะผ่อนคลาย
ความมั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ที่สั่งย้ำให้เลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2560 แม้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะขอขยับโรดแมปไปอีก ตอกย้ำว่าไทยจำเป็นต้องมีการเลือกตั้งในปี 2560
วันเวลาดังกล่าวนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์จะให้สัญญากับคนไทยแล้ว ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยังเดินทางไปบอกให้โลกรู้ว่า เดือนกรกฎาคมนี้เข้าสู่การเลือกตั้ง ขอให้เตรียมพบรัฐบาลใหม่ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งได้
แต่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดให้มี
การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นด้วยความชอบธรรม รัฐธรรมนูญก็ต้องชอบธรรม
การผ่านประชามติคือความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ
คสช. อยากให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ
เพื่อตอกย้ำความชอบธรรมของร่างรัฐธรรมนูญ
และตอกย้ำความชอบธรรมของ คสช. เองด้วย