‘จเด็จ’ ขวางปลดล็อกท้องถิ่น จวกแนวคิดสุดโต่ง เข้าขั้นแบ่งแยกราชอาณาจักร

‘จเด็จ’ ขวางปลดล็อกท้องถิ่น จวกแนวคิดสุดโต่ง เข้าขั้นแบ่งแยกราชอาณาจักร

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เสนอโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ

จากนั้นเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดย นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. อภิปรายว่า สิ่งที่คณะผู้เสนอขอแก้ไขยกเลิกรัฐธรรมนูญหมวด 14 ว่าด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่บอกว่าคืนอำนาจสู่ประชาชน เพื่อปลดล็อกท้องถิ่นก็ไม่ใช่ แต่ไปลอกหมวด 14 แล้วมาเขียนใหม่ เช่นมาตรา 249 ภายใต้บังคับมาตรา 1 ต้องจัดให้มีการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ความสามารถในการปกครองตนเองในด้านรายได้ ความหนาแน่นของประชากร

ส่วนมาตรา 250 วรรค 4 พูดชัดว่าถ้าการดำเนินการกิจการสาธารณะใด ร่วมกับเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐหรือมอบหมายให้เอกชนดำเนินการเองจะเป็นประโยชน์มากกว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะร่วมหรือมอบหมายเอกชนหรือรัฐดำเนินการก็ได้ เช่นที่ จ.ขอนแก่นวันนี้ก้าวหน้ามาก เขาพยายามทำบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง ว่างๆ นายธนาธรกับนายปิยบุตร ก็ไปดูงานเขาบ้าง เพราะเขาทำโดยอาศัยบทบัญญัติของการปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างไรก็ตามตนทราบว่ามาตรา 4 ไม่ผ่านการรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77

นายจเด็จกล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดปัญหาคือ มีการกำหนดเพิ่มเติมให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในมาตรา 4 ให้จัดทำแผนยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคภายใน 2 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และครม.จัดให้มีการออกเสียงประชามติในเรื่องดังกล่าวภายใน 5 ปี นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคก็คือยกเลิกผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นสิ่งที่เสนอมาก็อยู่ใน 6 มาตราของรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วเอามาเขียนให้สวยหรู

Advertisement

นัยของการเสนอแก้ไขนี้ เป็นนัยของการโหนกระแส สร้างกระแส และเป็นนัยของการสุดลิ่มทิ่มประตูของการหาเสียง ที่ส.ว.บางคนบอกว่าเป็นการเสนอความคิดแบบสุดโต่ง แต่จะสุดโต่ง สุดลิ่ม ทะลุฟ้า ทะลุดิน ทะลุแก๊ส ทะลุวัง อะไร ตนไม่ทราบ แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพียงแต่ไปลอกมา 6 มาตรา หากขยายให้รัฐบาลทำเต็มที่จริงจังสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติได้จริง รู้กาลเทศะ วุฒิภาวะและสอดคล้องกับกาลเวลา

การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการปกครองท้องถิ่นจะสนับสนุนให้คนทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่าหากเป็นรัฐบาลจะยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค จัดเลือกตั้งนายกจังหวัด และสมาชิกพรรค ก.ก. เสนอทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และวันนี้ (30 พฤศจิกายน) นายธนาธร และนายปิยบุตร เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ตนแปลกใจว่ามีความสอดคล้องแบบมีลับลมคมใน

“ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผมรับไม่ได้ เพราะมีลักษณะขัดกันแห่งผลประโยชน์ และทำผิดรัฐธรรมนูญ อย่างน้อย 5 มาตรา คือ มาตรา 1 ว่าด้วยการแบ่งแยกราชอาญาจักร หากให้ท้องถิ่นมีความอิสระในหลายรูปแบบ ลามถึงมาตรา 2 ว่าด้วยการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 5 ที่รับรองให้รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด บทบัญญัติหรือการกระทำใดที่ขัดหรือแย้ง เป็นอันใช้ไม่ได้ มาตรา 77 คือการรับฟังความเห็นประชาชนที่ผมบอกแล้วว่าประเด็นเลิกราชการส่วนภูมิภาคไม่ได้รับฟังความเห็นและมาตรา 255 ว่าด้วยข้อห้ามแก้รัฐธรรมนูญที่มีผลเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ดังนั้นสิ่งที่ทำนี้คือการสนับสนุนคนทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายจเด็จกล่าว

Advertisement

จากนั้นนายพิธาได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงที่นายจเด็จระบุว่าตนมีความคิดที่อยากจะยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ตรงนี้เป็นเฟคนิวส์ ที่ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงอย่างที่กล่าวหา เพราะเราพูดกันชัดเจนว่าต้องมีการทำประชามติถามประชาชน

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image