ส.ว.รุมค้านปลดล็อกท้องถิ่น หวั่นการเมืองคุมท้องถิ่นจนผู้ว่าฯเดินกุมเป้าเข้าหา

แฟ้มภาพ

ส.ว.รุมค้านปลดล็อกท้องถิ่น หวั่นการเมืองคุมท้องถิ่นจนผู้ว่าฯเดินกุมเป้าเข้าหา

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่. …) พ.ศ. … แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เสนอโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน เป็นผู้เสนอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายแสดงความเห็นต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกท้องถิ่น ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว และไม่เชื่อว่าการกระจายอำนาจตามรายละเอียดของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ และคาดว่าไม่สามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้จริง

โดย นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. อภิปรายแสดงการคัดค้านอย่างชัดเจน ประเด็นการจัดทำประชามติภายใน 5 ปี เพื่อยุบทิ้งราชการส่วนภูมิภาค โดยเห็นว่าแค่ 240 วันก็รู้เรื่องแล้ว ไม่ต้องมากำหนดถึง 5 ปี และการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ชี้ว่านี่คือการปฏิวัติ เป็นการกระทำที่ไม่มีคณะปฏิวัติชุดไหนกล้ากระทำ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยในหลักการ แต่ต้องการทราบความชัดเจนในบางมาตราเพิ่มเติม

ด้าน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. อภิปรายเสริมว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คณะก้าวหน้าเสนอ นายธนาธรระบุว่าตัวเองไม่ได้อะไรเลย แต่เห็นว่าร่างแก้รัฐธรรมนูญนี้เป็นผลไม้พิษ เพราะต่อไปเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จะเต็มไปด้วยพ่อค้ายาและนักการเมืองจะเข้าไปยึดท้องถิ่น ส่วนกลางจะทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลไหนมาก็บริหารประเทศไม่ได้ เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจ เพราะกฎหมายมีแล้ว แต่ไม่ใช่ไปแก้รัฐธรรมนูญตามใจ

Advertisement

แบบกินอิ่มนอนหลับ ตื่นมานึกอยากจะแก้อะไรก็แก้ นักการเมืองแก่ๆ รู้ทันจึงต้องเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน การจัดสรรรายได้ 50 ต่อ 50 จะเอาภาษีจากไหนมาให้ สุดท้ายนี่คือต้นไม้พิษ และผลไม้พิษ เพราะข้อสุดท้ายบอกว่า 5 ปีต้องจัดทำประชามติยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ต่อไปผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องถือกระเช้าเดินกุมเป้าไปให้นายกเทศมนตรี นอกจากนี้ ยังมีประชาชนฝากมาถามถึงกรณีที่ให้ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี และมีคดีมาตรา 112 เข้าสภามาได้อย่างหน้าตาเฉย

ส่วน นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า แม้ส่วนท้องถิ่นจะมีปัญหาเยอะ ก็ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจในการดูแลประชาชนให้ทั่วถึงทุกหย่อมหญ้าทั่วประเทศ ไม่ใช่เติบโตเฉพาะในเมืองหลวง ร่างที่ผู้เสนอแม้จะอธิบายว่า เป็นรัฐเดี่ยว ไม่ใช่สาธารณรัฐ แต่จากเนื้อหาที่ได้อ่าน ทำให้กังวลและเป็นห่วงว่านี่คือการเป็นรัฐอิสระดีๆ นี่เอง การจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ความจริงอยู่ที่นักการเมือง ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และประชาชนมากน้อยแค่ไหน ต้องทำหน้าที่รักษาประโยชน์ส่วนร่วม ไม่ยั่วยุ ปลุกปั่น หรือปลูกฝังความคิดผิดๆ ให้กับเด็ก เยาวชน ประชาชน

นายเสรีกล่าวว่า ฉะนั้น จึงยังรับหลักการเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ส่วนตัวไม่ได้รังเกียจผู้เสนอ ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร นายปิยบุตร เพียงแต่ระแวดระวังพฤติกรรม การแสดงออกช่วงที่ผ่านมา เลยผสมผสานกันว่าข้อเสนอจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพี่น้องทั้งประเทศ ให้ความสำคัญประชาชนที่ลงชื่อเสนอร่างแก้ไข แต่ในข้อเสนอที่เสนอมา ต้องเรียนเลยว่า โดยรวมๆ ไม่มีการกระจายอำนาจที่จะสำเร็จได้อย่างแท้จริง จึงไม่อาจรับหลักการในร่างฉบับนี้ได้ เชื่อว่าสิ่งที่อภิปรายนี้ ส.ว.ที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ก็คิดไปในแนวทางเดียวกัน

Advertisement

ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ และจะโหวตรับหลักการในวาระแรก ขณะที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ทางวิปรัฐบาลจะเปิดให้ฟรีโหวต ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะขอโหวตรับหลักการ เพราะพรรค ปชป.สนับสนุนกับหลักการกระจายอำนาจอยู่แล้ว แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ได้คาดการณ์ไว้ว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นนี้ ไม่น่าจะผ่านในวาระ 1 เนื่องจากต้องใช้เสียง ส.ว.สนับสนุน 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 เสียงมาประกอบด้วย ร่างฉบับนี้จึงจะผ่านไปได้ เพราะจากการแสดงความเห็นตลอดทั้งวัน ส.ว.ส่วนใหญ่อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นการกระจายอำนาจ เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้อยู่แล้ว

จากนั้นที่ประชุมรัฐสภามีมติให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็นจนจบ และสรุปในตอนท้าย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 21.00 น. แล้วไปโหวตในการประชุมรัฐสภาครั้งถัดไป

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image