‘ชลน่าน’ ย้ำ 6 ธ.ค. ยังไม่มีเปิดแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ชี้ จะจับมือใครต้องดูหลังเลือกตั้ง-ปชช.เป็นหลัก

‘ชลน่าน’ ย้ำ 6 ธ.ค.นี้ ยังไม่มีเปิดแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ชี้ จะจับมือใครต้องดูหลังเลือกตั้ง-ปชช.เป็นหลัก แจง ปมส่ง ‘ศักดิ์ดา’ โจทก์เก่า ‘จิรายุ’ ลงแคนดิเดต ส.ส. ต้องหาจุดร่วม-ทำข้อขัดแย้งหายไป เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน Think big, Act smart, for all Thais” ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ว่า ไม่มีไฮไลต์พิเศษอะไรนอกจากการโชว์วิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย การปาฐกถาพิเศษของตน และการเลือกคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) แทนตำแหน่งที่ว่างลงประมาณ 9-10 ตำแหน่งโดยจะให้ที่ประชุมใหญ่เป็นผู้เสนอชื่อมา ซึ่งไฮไลต์ในวันนั้นมีเพียงแค่การคิกออฟแคมเปญเลือกตั้งพรรค ย้ำว่ายังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

เมื่อถามถึง การยุบสภาที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็มีการระบุว่าฟันธงว่าจะมีการยุบสภาวันที่ 3 มีนาคม 2566 และการย้ายพรรคของ ส.ส. นพ.ชลน่านกล่าวว่า จากที่ดูสถานการณ์การเมืองในขณะนี้การยุบสภามีโอกาสเป็นไปได้สูง ด้วยเหตุที่ผู้มีอำนาจเขาเห็นว่ายุบสภาแล้วเขาได้ประโยชน์สุด ซึ่งตามข้อสันนิษฐาน ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหากเขาจะย้ายพรรคต้องมี ส.ส.ปัจจุบันย้ายตามไป ฉะนั้น การยุบสภาจะเปิดช่องให้ ส.ส.ปัจจุบันสังกัดพรรคได้ภายใน 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งหากมีการยุบสภาจะมีเวลาเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน ก็สามารถสังกัดสมาชิกพรรคได้อยู่แล้ว จึงเป็นข้อดีที่เขาเห็นว่าได้ประโยชน์ รวมถึงเขาได้มีการเตรียมแผนการเลือกตั้งของเขาไว้หมดแล้ว ก็คงจะมีการยุบสภาแต่จะยุบสภาเมื่อไหร่นั้น เขาก็คงจะดูโอกาสที่เหมาะสมและพยายามดึงไปให้ยาวที่สุด สิ่งที่นายวีระกรพูดก็คงน่าจะใกล้เคียง

เมื่อถามถึง กรณีที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่า หลังการเลือกตั้งในปี 2566 หากนโยบายในกรอบหลักของพรรคเห็นตรงกัน ก็จับมือกับพรรค พท. หรือพรรคฝ่ายค้านได้แน่นอน ในส่วนนี้มองอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า “การที่เราจะบอกว่าจับมือกับใคร เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ซึ่งก็ต้องดูว่าประชาชนมอบอำนาจให้ใคร โดยผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้บ่งพอสมควร รวมถึงต้องมาดูทิศทางการทำงานว่าสามารถทำงานด้วยกันได้หรือไม่ อย่างไร นโยบายสอดรับกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการพูดคุยหลังเลือกตั้งแต่อย่างไรต้องดูประชาชนเป็นหลัก”

เมื่อถามถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรค พท. ระบุว่าจะขอทบทวนเส้นทางการเมืองหลังพรรคจะส่งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเคยเป็นโจทก์เก่าของนายจิรายุ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง พรรค พท. นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราคงต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคเราว่าการที่เราจะหาตัวผู้สมัครนั้นทำในนามระบบพรรค หากมีอะไรที่เป็นข้อขัดแย้งในลักษณะของบุคคลนั้น ก็ต้องพยายามที่จะต้องหาจุดร่วมกันให้ได้เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ก็น่าจะพูดคุยกันได้ และไม่เสียหายอะไรที่นายจิรายุเขาจะแสดงจุดยืนเขา ในมุมที่เขาทำหน้าที่ของเขามา ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา พรรคเองก็ต้องรับฟังและพรรคก็หวังว่าจะเป็นจุดที่จะไกล่เกลี่ยและเป็นจุดที่จะแสวงจุดร่วม ทำให้ข้อขัดแย้งของเขาหายไปให้ได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image