‘สหายแสง’ ซัดเดือดบนเวทีปราศรัย เปิดตัวภรรยาเป็นผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่ สู้ศึกเลือกตั้ง ด่าฝ่ายค้านโง่ ฝากถึงผู้แทนฝ่ายค้าน ‘สกลนคร-อุดรธานี’ พยายามอภิปรายไม่พอใจ ‘ศักดิ์สยาม’ เทงบลง ‘บุรีรัมย์-นครพนม’ มากกว่าจังหวัดอื่น ยันไม่ใช่เรื่องแปลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ สหายแสง หรือ ครูแก้ว ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง กล่าวบนเวทีปราศรัยในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครพนม 4 เขต เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยช่วงหนึ่งระบุว่า มีความภาคภูมิใจมากในความเป็นภูมิใจไทยที่ทำงานด้วยอุดมการณ์ทางการเมือง หลังย้ายพรรคมาจากพลังประชาชนเพื่อมาทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทย โดยการนำของ นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่เป็นผู้นำพรรคภูมิใจไทย
นายศุภชัยกล่าวว่า ก่อนนี้เคยถูกโจมตีว่าทรยศ หักหลัง ขายตัว แต่อดทนทำดีมาตลอด แม้ที่ผ่านมาถูกชาวบ้านลงโทษสอบตกมาก่อน แต่ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนมาตลอด และความเป็นพรรคภูมิใจไทยที่สร้างตนมาถึงวันนี้ จนมีโอกาสพิสูจน์ให้ชาว จ.นครพนมเห็นความจริงใจในการทำงานพัฒนาบ้านเมือง อดทนต่อสู้มานานกว่า 7 ปี จนชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภูมิใจไทย เปิดตัว 4 ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ขยับ ‘ครูแก้ว’ สู้เขต 2 หวังล้มเพื่อไทยให้หมด
- ‘อนุทิน’ ไม่ปฏิเสธนั่งนายก หาก ภท.ชนะเลือกตั้งท่วมท้น และประชาชนต้องการ
“ต้องขอขอบคุณชาว จ.นครพนมที่ให้กำลังใจมาตลอด และภาคภูมิใจมากที่สุดคือผมเป็นคนเดียวที่เป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทยของ จ.นครพนม ที่ชนะพรรคเพื่อไทยเพียงเขตเดียวจากทั้งหมด 4 เขต ที่สำคัญยังได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาก่อนเป็นเวลา 2 ปี 3 เดือน
“ล่าสุด ได้โอกาสนั่งตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง โดยนายเนวินย้ำเสมอว่าถือว่าเป็นตำแหน่งของชาว จ.นครพนมทุกคน จนถึงวันนี้ 3 ปีกว่า ทำหน้าที่ ส.ส.นครพนม ได้ผลักดันให้เกิดความเจริญทุกด้าน จนทำให้ ส.ส.หลายจังหวัดอิจฉา จ.นครพนม ที่ได้รับงบประมาณในการพัฒนาจำนวนนับหมื่นล้าน โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง” นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ผลงานที่เกิดจากการผลักดันของพรรคภูมิใจไทยทำให้ จ.นครพนมได้รับงบประมาณในการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ระหว่าง อ.ท่าอุเทน เชื่อมกับ อ.บ้านแพง เป็นถนน 4 ช่องทางจราจร งบประมาณกว่า 2,800 ล้านบาท ถนนนจาก ต.ท่าจำปา เชื่อมกับ อ.ศรีสงคราม พัฒนาเป็น 4 ช่องจราจร งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ถนนเส้นทาง อ.นาหว้า ทางหลวงชนบท งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท รวมถึง อ.โพนสวรรค์ ไม่ใช่เขตเลือกตั้ง แต่ยังได้รับงบประมาณ
นายศุภชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังอนุมัติงบประมาณกว่า 77 ล้านบาท พัฒนาขยายไหล่ถนน จากโรงพยาบาล อ.ท่าอุเทน เชื่อมไปยัง อ.โพนสวรรค์ สำคัญที่สุดคือบายพาสตอนบน จากสนามบินนครพนม เชื่อมมายังสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน จะมีการขยายเป็น 4 ช่องจราจร งบประมาณกว่า 1,600 ล้านบาท รวมถึงถนนบายพาสตอนล่าง เชื่อมระหว่างสนามบินนครพนมไปยัง ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม อยู่ระหว่างการเวนคืน งบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท ส่วนถนนสายหลัก นครพนม-สกลนคร มีการพัฒนาเป็น 4 ช่องทางจราจรตลอดเส้นทาง
“ล้วนเป็นผลงานของท่านศักดิ์สยามและพรรคภูมิใจไทยมาถึง อ.นาแก ได้มีการสนับสนุนงบประมาณพัฒนาขยายช่องทางการจราจร ดำเนินการเชื่อมกับ อ.ธาตุพนม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข่าวดีล่าสุด รมว.คมนาคมได้อนุมัติงบประมาณโครงการรถไฟรางคู่จาก อ.บ้านไผ่ เชื่อมกับนครพนม งบประมาณกว่า 66,000 ล้านบาท เป็นของขวัญสำหรับชาว จ.นครพนม หากไม่มีพรรคภูมิใจไทย ไม่มีหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่มี รมว.คมนาคม และไม่มีครูแก้วคงไม่มีการพัฒนาขนาดนี้” นายศุภชัยระบุ
นายศุภชัยกล่าวด้วยว่า สงสาร ส.ส.สกลนครและ จ.อุดรธานี อภิปรายในสภาทุกครั้ง ด่าว่า รมว.คมนาคม ทำไมเทงบประมาณลงแต่พื้นที่อีสาน อาทิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ รวมถึงนครพนม ทั้งที่บางจังหวัด เช่น นครพนม มี ส.ส.เพียงคนเดียว ทำไมได้งบประมาณเยอะเหลือเกิน
“ขณะที่ผมเป็นประธานนั่งบนบัลลังก์ อยากจะบอกให้รู้ว่าที่ได้งบประมาณจำนวนมาก เพราะมี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยไงละไอ้โง่ แต่ไม่รู้ว่าโง่จริง หรือแกล้งโง่ จึงขอฝากบอกว่าถ้า จ.สกลนครอยากเจริญแบบ นครพนม ต้องเลือก ส.ส.พรรคภูมิใจไทยให้ได้ทุกเขต” นายศุภชัยกล่าว
