‘โรม’ สอน ‘ครูแก้ว’ ผู้แทนฯ ที่ดีต้องเป็นตัวแทนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่จังหวัด “ภูมิใจไทย”

‘โรม’ สอน ‘ครูแก้ว’ ผู้แทนฯ ที่ดีต้องเป็นตัวแทนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่จังหวัด “ภูมิใจไทย”

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้พูดคำว่า “ไอ้โง่” ในการกล่าวถึง ส.ส. ที่อภิปรายถึงความเหลื่อมล้ำที่งบประมาณไปลงมากในจังหวัดที่มี ส.ส. พรรค ภท. ว่า เมื่อทราบข่าวต้องบอกว่าตนตกใจมากที่นายศุภชัย ซึ่งเป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้พูดคำดังกล่าวกับคนที่ตั้งคำถามเรื่องการบริหารงบประมาณให้เกิดความเป็นธรรมกับจังหวัดต่างๆ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่างบประมาณมันเกิดการกระจุกตัวไปอยู่ในจังหวัดที่มี ส.ส.พรรค ภท. ซึ่งเป็นวิธีบริหารงานที่ไม่ถูกต้อง

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า การบริหารงบประมาณที่ควรจะเป็นต้องมีความเป็นธรรมต้องดูเรื่องของความจำเป็น ความเร่งด่วน ความสำคัญ ไม่ใช่คิดว่ามีพรรคพวกของตัวเองอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ถ้าทำกันแบบนั้นเท่ากับว่ารัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยและการบริหารงานกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนทุกจังหวัด

“แน่นอนว่าในการเลือกตั้งมีแพ้มีชนะ แต่เมื่อทำหน้าที่แล้วเมื่อเป็น ส.ส. ก็ต้องเป็นผู้แทนของประชาชนทุกคน ถ้าเป็นรัฐบาลก็เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ผมหวังว่าคุณศุภชัย ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง และเป็นถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเรียนรู้ว่าไม่ควรมีวิธีคิดและพูดออกมาแบบนี้อีก” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของเรื่องนี้คือ การที่นายศุภชัย ออกมาสารภาพโดยตรงว่าการบริหารงานของพรรค ภท. โดยเฉพาะในกระทรวงคมนาคมไม่มีความเป็นธรรม และปล่อยให้ ส.ส. เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด โดยหลักการแล้ว ส.ส. ทุกคนไม่ว่ามาจากพรรคการเมืองไหนก็ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณไม่ได้เลย เราอาจจะบอกได้ว่าประชาชนมีปัญหาอะไร แต่การที่นายศุภชัยบอกว่าตนมีศักยภาพในการดึงงบประมาณลงไปที่จังหวัดของตนเองได้ ทำผิดสิ่งที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดเอาไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

Advertisement

“ผมอยากจะฝากไว้อย่างนี้ว่า ในการที่จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ครูแก้วต้องคิดถึงจังหวัดอื่นเหมือนกัน ครูแก้วอาจจะเป็นคนนครพนม ครูแก้วอาจจะได้รับการเลือกมาจากคนนครพนม แต่ถึงที่สุดการพัฒนาประเทศเราไม่สามารถพัฒนาให้จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง มีความเจริญอย่างเดียวเท่านั้น แต่เราต้องคิดถึงจังหวัดอื่นๆ เราต้องคิดถึงพื้นที่อื่นๆ ที่เขาไม่สามารถเข้าถึงผู้มีอำนาจในการจัดสรรงบประมาณด้วยในฐานะการเมืองด้วยกัน ผมเองก็ไม่อยากเห็นการพัฒนาที่กระจุกตัว อยากเห็นการพัฒนาที่เป็นธรรมไม่ว่าคนคนนั้นจะเลือกพรรครัฐบาลหรือไม่ก็ตาม” โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image