‘สูงวัย’ ลั่น กาหัวไว้ไม่ต้องเลือก – พ้อ ‘พายุ’ เสียดวงตาขาดโอกาสทั้งชีวิต ถก ‘รองปลัดนายกฯ’ เร่งตั้งคกก.รับผิด

‘สูงวัย’ ลั่น กาหัวไว้ไม่ต้องเลือก พ้อ ม็อบตั้งแต่ผมยังไม่หงอก เพิ่งเคยเห็นสลายโหด ‘พายุ’ เสียดวงตา เหมือนขาดโอกาสทั้งชีวิต ถก ‘รองปลัดสำนักนายกฯ’ เร่งตั้งคณะกรรมการรับผิด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ก.พ.ร. เขตดุสิต กรุงเทพฯ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) พร้อมด้วย ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P-move และเครือข่าย นำโดย นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธาน ขปส. เดินทางมารวมตัวที่หน้า ก.พ.ร. ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการยื่นหนังสือถึงรัฐบาล เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบกรณีสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ รวมทั้งมีการประชุมร่วมกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการสลายการชุมนุม แต่ไม่มีความคืบหน้า ยังไม่มีหน่วยงานราชการติดต่อมาเพื่อพูดคุยกับทางเครือข่ายหลังจากนั้น

อ่านข่าว : ‘ไม่ยอม!’ สนั่นหน้าทำเนียบ บุกทวง ‘ดวงตาพายุ’ จี้นายกฯ ‘ตู่ห้าว’ ลาออก รับผิดชอบสลายม็อบรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมรวมกลุ่มยืนชูป้ายหันหน้าเข้าหาทำเนียบรัฐบาล พร้อมสลับกันกล่าวปราศรัยประณามรัฐบาลเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบ รวมถึงเล่าเหตุการณ์ในวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

สตรีสูงวัยรายหนึ่งเผยว่า พี่น้องเราแค่จะหันหลังกินข้าวพักเที่ยงก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งตนก็อยู่ในเหตุการณ์

Advertisement

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามาเรียกร้อง เราเข้ามาตั้งแต่ดิฉันผมยังไม่หงอก รุ่นหนุ่มๆ สาวๆ จนวันนี้อายุ 60 กว่าแล้ว เพิ่งจะเคยเห็นที่ตำรวจทำความรุนแรงกับประชาชนที่ไม่มีอาวุธ ซึ่งตามหลักสากล การควบคุมฝูงชนต้องมีการประกาศก่อน การยิงกระสุนยางใช้วิธียิงที่ขา หรือยิงจุดที่ไม่เป็นอันตราย แต่นี่ไม่รู้เอาตำรวจที่ไหนมา คฝ.ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ลูกตาเป็นจุดสำคัญมาก ถ้าลูกหลานของคุณโดนจะรู้สึกอย่างไร ตาที่บอดไป เขาอาจจะใช้สร้างอนาคต เขาอาจจะเป็นผู้นำประเทศก็ได้ เขาอาจจะมาเป็นนายกฯแทนประยุทธ์ก็ได้ ทำให้เขาขาดโอกาส สร้างตราบาปให้เขา” สตรีสูงวัยกล่าว

สตรีสูงวัยกล่าวต่อว่า เรามาเรียกร้อง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือรัฐบาลรับผิดชอบ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ นิ่งๆ การสูญเสียดวงตาเหมือนขาดโอกาสทั้งชีวิต ในเมื่อปัญหาพี่น้องยังไม่ได้รับการแก้ไขก็ต้องมาเรียกร้องอยู่ดี ถ้าอยากให้พี่น้องไม่ต้องมาเรียกร้องรัฐบาลก็ต้องรีบแก้ไขปัญหา

Advertisement

“อีกประเด็นที่พี่น้องเรามาชุมนุม ก็เพราะรัฐบาลจะเปิดให้ต่างชาติถือครองที่ดินในประเทศไทย คนในประเทศไทย คนเล็กคนน้อยยังไม่มีที่อยู่อาศัย ยังไม่มีที่ทำกินเลย แม้แต่ 1-2 ไร่ก็ยังไม่มี ยังเช่าที่ดินนายทุนอยู่เลย การพัฒนาประเทศต้องจากฐานล่างขึ้นมา ไม่ใช่จากข้างบนสั่งลงมาข้างล่าง มันจะได้เรื่องไหม นี่คือเหตุผลที่เขามาชุมนุม แต่รัฐบาลทำเป็นหูหนวก ตาบอด เราอยากมาบอกให้รัฐบาลเปิดหูเปิดตา ฟังปัญหา ไม่ใช่มาทำความรุนแรงกับพี่น้อง” สตรีสูงวัยกล่าว

สตรีสูงวัยกล่าวอีกว่า คนยากจนไม่มีอาวุธในมือ มีแค่ธงเป็นสัญลักษณ์ แต่รัฐบาลมีเครื่องมือ มีปืน มีกระสุนยาง แก๊สน้ำตา

“การเลือกตั้ง พี่น้องจำไว้เลยว่า บ้านใครที่อยู่ในเขตรัฐบาลชุดนี้ อีกไม่กี่เดือนเราจะเห็นหน้าค่าตาว่าเป็นอย่างไร กาหัวไว้เลย ไม่ต้องเลือกมัน” สตรีสูงวัยกล่าว

ก่อนยก 3 นิ้วมาปิดตาด้านขวา พร้อมกล่าวว่า เป็นสัญลักษณ์ที่เจ็บปวดมาก ถึงตัวเราไม่เป็น แต่เราก็เจ็บปวดแทนน้องเขา

จากนั้นผู้ชุมนุมหญิงอีก 1 ราย กล่าวว่า รัฐบาลควรออกมาฟังประชาชนบ้างว่าประชาชนต้องการอะไร ในเมื่อตอนนี้ช่วงใกล้เลือกตั้งควรจะรีบทำคะแนน หาเสียงให้กับพรรคของคุณ

จากนั้นชายวัยกลางคนกล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ความว่า โมโหจริงๆ ท่านนั่งอยู่ในห้องแอร์ เรายืนตากแดดอยู่ ร้อน

“วันนี้จะยืนอยู่ตรงนี้ จะพูดอยู่ตรงนี้ จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องไหม เราไม่ยอมแน่ๆ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แก้ไขปัญหาไม่ได้สักอย่าง แล้วบอกว่าจะมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ปัญหาเก่ายังไม่แก้ ปัญหาใหม่ก่ออีกแล้ว จะขายที่ดินให้กับต่างชาติได้อย่างไร พวกนายทุนมีศักยภาพอยู่แล้ว มีเงินที่จะซื้อที่ดิน แต่พวกเรามีที่ดินน้อยนิด บอกให้แก้ไขปัญหาให้หน่อย แต่กลับบอกว่าอนุญาต อนุญาตอะไรของคุณ ทำไมไม่ให้รับรองสิทธิเรื่องโฉนดชุมชนไปเลย เพราะเขาอยู่มาตั้งนานแล้ว มันต้องรับรองสิทธิ

การที่บอกว่าเศรษฐกิจดี ถามว่าทุกหย่อมหญ้า ทุกวันนี้เศรษฐกิจดีไหม เอาแต่นายทุน ห้างร้านใหญ่ๆ เอาเปรียบพี่น้อง” ชายวัยกลางคนกล่าว

ระหว่างนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยกับนายจำนงค์ โดยตัวแทนรัฐบาล ขอให้ผู้ชุมนุมส่งตัวแทนเข้าไปพูดคุยด้านใน โดยทางเครือข่ายระบุว่าจะเน้นพูดคุยเรื่องการตั้งคณะกรรมการที่จะดูแลเรื่อง ‘พายุ’ และผู้บาดเจ็บจากการสลายชุมนุมให้เป็นรูปธรรมให้ได้ ผู้ชุมนุมจึงส่งตัวแทนเข้าไปนั่งฟังภายในห้องประชุมของสำนักงาน ก.พ.ร.

โดยทางเครือข่ายพีมูฟเรียกร้องให้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมชี้แจงความคืบหน้าจากการยื่นหนังสือที่ผ่านมาภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.ในวันนี้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการแล้วหรือยัง

เครือข่ายระบุว่า ที่ผ่านมาฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่ามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว แต่เป็นส่วนของการตรวจสอบตำรวจด้วยกันเอง เครือข่ายเห็นว่าต้องมีองค์ประกอบของนักสิทธิมนุษยชน หรือนักวิชาการเข้ามาด้วยเพื่อประโยชน์รอบด้าน และเพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานของสังคมต่อไป

ทั้งนี้ นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนมาร่วมรับฟังความรู้สึก ความต้องการ และหาแนวทางแก้ปัญหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image