เบาะแสใหม่เพียบ! ทนายตั้ม ชี้ ‘อดีตรองนายกฯ’ คบชู้ เอี่ยวมหาดไทย อายุมาก-ชอบเล่นกอล์ฟ

เบาะแสใหม่เพียบ! ทนายตั้ม ชี้ ‘อดีตรองนายกฯ’ คบชู้ เอี่ยวมหาดไทย อายุมาก-ชอบเล่นกอล์ฟ พร้อมเปิดภาพลับคู่สุดแซ่บ

จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาแฉว่ามีหนุ่มมาร้องเรียนว่าภรรยาเป็นชู้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ตามด้วยโพสต์แชตลับระหว่างภรรยาของหนุ่มดังกล่าวกับอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นข่าว จากนั้นโพสต์ไอจีสตอรี่ด้วยตัวอักษร “ย” ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการบอกใบ้ถึงอดีตรองนายกฯหรือไม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มกราคม ที่สำนักงาน Sittra Law Firm นายษิทรา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดยเปิดเผยใจความว่า

“เรื่องไม่ได้เกิดเป็นปีอย่างที่ นพ.ชลน่านให้สัม เหตุเกิดเมื่อปีที่แล้ว เขามาปรึกษาผมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เอง เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาว่า ผมขอเรียกว่า คุณ ก. เขามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรส 1 คน ทำงานอยู่ที่โรงแรม เขาเห็นว่าภรรยามีท่าทีเปลี่ยนไป จึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและได้มีการไปเปิดโทรศัพท์ดู ไปเจอข้อความในไลน์และอะไรหลายอย่างที่คุยกับผู้ชายอีก 1 คน และมีภาพถ่าย ง่ายๆ ว่าภาพโป๊ของทั้งคู่ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ พอเห็นก็ช็อกแล้ว แต่พอเห็นว่าผู้ชายอีกคนคือใครก็ยิ่งเสียใจและช็อกยิ่งกว่า เพราะอีกคนทุกคนรู้จักดี เห็นภาพก็ต้องรู้เลย เขาเองเห็นก็รู้เลยว่าคนนี้เคยเป็น ‘อดีตรองนายกรัฐมนตรี’

จากการดูรูปย้อนหลังคาดว่าเหตุเกิดช่วงเดือนตุลาคม ปี’65 คุณ ก.มาหาผมช่วงเดือนธันวาคม เขาก็สอบถามผมว่าจะทำยังไงได้บ้าง เขาบอกว่าภรรยาไม่ยอมหย่ากับเขา ผมจึงตอบว่าถ้าอย่างนี้สามารถฟ้องหย่าได้ คุณ ก.ก็ถามต่อว่าแล้วกับผู้ชายที่มีอะไรกับภรรยาของเขา สามารถทำอะไรได้บ้างไหม ผมก็อธิบายข้อกฎหมายกับคุณ ก.ไปว่า เคสนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นเรื่องทางแพ่ง ที่ใครก็ตามที่มายุ่งกับภรรยาที่จดทะเบียนสมรสของเรา เราสามารถฟ้องเรื่องชู้สาว เรียกค่าทดแทนได้ แล้วเราก็สามารถฟ้องหย่าเรียกค่าทดแทนจากภรรยาและคนที่มาเป็นชู้ได้

Advertisement

พอพูดคุยกันเสร็จผมก็ตกลงว่าจ้างเป็นทนายความ ฟ้องไปให้แล้ว เมื่อปลายปี ประมาณวันที่ 29 หรือ 30 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายและฟ้องหย่าด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเป็นข่าวหรืออะไร แต่เกิดจากที่คุณ ก. นอกจากถูกข่มเหงยังถูกระราน โดยมีชายฉกรรจ์ตามมาที่คอนโดเขาบ้าง

หลังจากที่คุณ ก.ทราบเรื่อง และทะเลาะกับภรรยา ภรรยาก็ไม่รู้ไปพูดอะไรกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งพอทางนั้นทราบก็พยายามเอาตัวออกห่างจากภรรยาของคุณ ก. เพราะเขารู้แล้วว่าสามีของฝั่งผู้หญิงทราบเรื่องแล้ว เขาก็ได้มีการพยายามทวงเงินต่างๆ ที่เคยให้กับภรรยาของคุณ ก.คืน แล้วเขาก็ใช้วิธีต่างๆ ซึ่งจริงๆ เขาให้ด้วยการเสน่หานะ แต่ด้วยความที่เขารู้จักตำรวจมากมาย เขาก็ไปแจ้งความว่าเป็นการฉ้อโกงหลอกลวงเขา ไม่ใช่การให้ด้วยการเสน่หา

ทีนี้มีเหตุการณ์ที่ต้องไปโรงพักกัน ปรากฏว่าทางตำรวจที่ สน.บางยี่ขัน หรือบางยี่เรือ อยู่ตรงแถวๆ อมรินทร์ทีวี ซึ่งผมให้ทนายความในสำนักงานไป ปรากฏว่าตำรวจที่นั่นมีการไปแจ้งอดีตรองนายกรัฐมนตรีคนดังกล่าว รองนายกฯคนนี้ก็ได้มาที่โรงพัก และนำชายฉกรรภ์ 6-7 คน มาล้อมคุณ ก.ที่โรงพัก และตำรวจก็ออกไป เขาก็กลัวว่าขนาดมาที่โรงพักก็ไม่ได้รับความปลอดภัยเลยหรือ ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ร้อง ผบ.ตร.ไปแล้วด้วย ว่าเหมือนกับวางงานกันมา นัดมาแล้วให้อีกฝ่ายมา ถ้าเกิดวันนั้นมีการยิงกันขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น

Advertisement

และในวันเดียวกันหลังจากกลับจากโรงพัก ตัวคุณ ก.เข้าอาศัยอยู่ที่คอนโด ก็ยังโดนตามไปราวีโดยใครก็ไม่รู้ใส่ชุดดำตามเขา เขาก็กลัวว่าวันหนึ่งตัวเขาจะมีภัยอะไรหรือเปล่า เขาเลยปรึกษาผมอีกทีในช่วงหลังปีใหม่ ผมก็เลยคุยกับเขาว่าเรื่องแบบนี้ถ้าเกิดเขาไปโดยทำอะไรไม่มีใครรู้เลยนะ คุณ ก.เลยบอกว่าเผยแพร่ข่าวนี้ให้สื่อมวลชนทราบหน่อย เผื่อเขาเป็นอะไรไปก็มีแค่คนนี้คนเดียว เพราะเขาไม่มีศัตรูอื่น นี่คือประเด็นแรก

ประเด็นที่สอง คือคนๆ นี้มีตำแหน่งเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี คุณ ก.ก็คิดว่าคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งนี้น่าจะมีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ควรที่จะมาทำตัวแบบนี้ มายุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ให้หลายๆ คนได้รับรู้รับทราบด้วย นี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ผมโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไป

“มีคนมาร้องเรียนผม ผมเลยมาทำคดีนี้ ต้องบอกกับประชาชนที่ติดตามว่าที่ผมบอกชื่อไปตรงๆ ไม่ได้ สำนักงานผมมีคนมาปรึกษา 1,500 คน เรื่องเป็นข่าว 100 กว่าคดี ทุกครั้งที่ผมแถลงข่าวผมก็ต้องถูกฟ้อง คือมันเสียเวลา ถึงแม้ผมไม่เคยแพ้คดีหมิ่นประมาท ผมบอกก่อน แต่มันเสียเวลา ผมก็ต้องเซฟตัวเองด้วย แต่ผมก็สัญญาแล้วว่าถึงเวลาแล้วที่จะได้รู้ว่ารองนายกฯคนนี้คือใคร” นายษิทรากล่าว

– อดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ อยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ใช่หรือไม่?
ทนายตั้ม : เอางี้แล้วกัน ทุกคนอยากรู้หมดแต่ผมคงเอ่ยชื่อตรงๆ ไม่ได้ คงไม่อาจจะเอ่ยถึงพรรค หรือสมัยอะไรต่อหน้าสื่อเยอะๆ แบบนี้ เพราะมันจะเหลือรองนายกฯ ไม่กี่คน มันระบุตัวตน ผมก็ถูกฟ้อง

แต่ผมจะบอกว่า รองนายกฯ ที่ผมได้มีการพูดถึง อย่างแรก เขาเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี อย่างที่สองเขาเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย แต่เกี่ยวข้องยังไงต้องไปทำการบ้านกัน เกี่ยวข้องคือเคยเดินผ่าน หรือเคยทำงาน หรือเคยบริหาร ต้องเดากัน ข้อที่สาม ชอบตีกอล์ฟแต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ ผมบอกแค่ 3 อย่างนี้ก็ต้องหาคำตอบเอาเองแล้วแหล่ะว่าคือใครยังไง

– อดีตรองนายกฯ ท่านนี้ อยู่ในกลุ่มคนที่ออกมาปฏิเสธหรือไม่
ทนายตั้ม : ถามก่อนว่ามีใครออกมาปฏิเสธบ้างหรือยัง (สื่อ:ปลอดประสพ) แล้วมีใครอีกอ่ะครับ (สื่อ:ยงยุทธ วิชัยดิษฐ) คุณยงยุทธ วิชัยดิษฐ เขาบอกว่ายังไงครับ (สื่อ:เขาบอกผ่านสมาชิกพรรคว่าไม่ใช่เขาแน่นอน) คุณยงยุทธเขาปฏิเสธหรือครับ อ่า ครับผม แล้วมีใครอีกไหมครับ (สื่อ:ยุคล ลิ้มแหลมทอง) คงไม่เกี่ยวหรอกครับ เอาละครับ 3 คำใบ้ที่ผมให้ไป

อ่าน : ‘ยงยุทธ’ ยัน ไม่ใช่คนที่ตกเป็นข่าวเล่นชู้กับเมียคนอื่น เพราะอายุ 80 ปีแล้ว แต่ในรูปไม่แก่เท่าไหร่

– เขามียศทางตำรวจไหม
ทนายตั้ม : ไม่มีครับ

– อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปไหม
ทนายตั้ม : อายุมากแล้วครับ

– อักษรย่อ ย. นี่เกี่ยวไหม
ทนายตั้ม : อันนั้นผมโพสต์ในไอจีส่วนตัวของผม ย. มันก็แปรความหมายได้หลายอย่าง

– หลักฐานยังไม่พอให้เปิดชื่อหรือกลัวฟ้อง
ทนายตั้ม : เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน มองได้ 2 มุม มุมแรกอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวเรื่องชู้สาวกัน แต่อีกมุมก็เป็นประโยชน์กับประเทศชาติเพราะคนที่กระทำเขาเป็นถึงอดีตรองนายกฯ และผมก็ขอเซฟตัวเองก่อน แต่เดี๋ยวอีกประมาณ 1-2 เดือน ตอนนั้นก็เปิดเผยได้แล้ว

– เขาเคยทำแบบนี้กับบุคคลอื่นอีกไหม
ทนายตั้ม : อันนี้ผมไม่ทราบว่าเคยมีพฤติกรรมแบบนี้กับใครหรือเปล่า แต่กับลูกความของผมมีหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแชต รูปภาพ คือถ้าเกิดคนที่มีหลักฐานชัดเจนแบบนี้ แล้วออกมาโกหกว่าไม่ใช่ตัวเอง ผมว่าสังคมก็คงไม่น่าไปเชื่อถืออะไรกับคนแบบนี้ได้แล้วนะครับ

– เขาคบหาดูใจกับภรรยาของคุณ ก.มานานหรือยัง
ทนายตั้ม : คุณ ก.เขาก็เล่าให้ผมฟังว่าเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าภรรยาจะบอกเขาทั้งหมดหรือไม่ เขาก็บอกว่าไม่นาน แต่เราก็ไม่รู้ว่าจริงๆ เขาจะอะไรยังไงกันแน่ ไม่ทราบว่าไปเจอกันที่ไหน แต่ภรรยาเขาทำงานที่โรงแรมห้าดาว

– แม้จะไม่ได้พูดถึงพรรคการเมือง แต่ก็ดูมุ่งเป้าไป แล้วทนายตั้มก็เป็นสมาชิกของพรรคด้วย
ทนายตั้ม : ที่ผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนกับประชาชนทั่วไปที่เราชื่นชอบพรรคการเมืองไหน เราก็ไปสมัครสมาชิก ซึ่งผมเสียตังค์ให้พรรคนะครับ รู้สึกจะ 2,000 บาท ที่ผมไปสมัครก็เพราะผมเห็นว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคประชาธิปไตย ที่ผ่านมานโยบายอะไรของเขาเขาก็ทำได้จริง

และการที่ผมออกมาพูด ผมก็ไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะออกมาแถลงมาเกี่ยวอะไรด้วย เพราะคนคนนี้ “เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย” ผมไปหาข้อมูลมา เพราะว่าเขาเนี่ยไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว ผ่านมา 5 ปีแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้อง และเรื่องก็เกิดขึ้นหลังจากที่เขาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมือง มันเกี่ยวกับเรื่องบุคคล บุคคลหนึ่ง เป็นถึงระดับรองนายกฯ แต่มาทำอะไรแบบนี้ให้มันเสียเกียรติ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายตั้ม ได้เปิดเผยภาพลับในโทรศัพท์มือถือที่นาย ก. ได้เห็น โดยเป็นภาพชายหญิงกอดกันเปลือยกาย ผู้หญิงได้ยกมือถือถ่ายภาพหน้ากระจกในห้องพักแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ผู้ชายมีผมสีขาว 

อ่านข่าว : ‘ยงยุทธ’ ยืนกราน ไม่ได้เล่นชู้ ลั่นมีรองนายกฯตั้งเยอะ บี้ พท.ขับ ‘ษิทรา’ พ้นสมาชิกพรรค
– ทนายตั้ม งง! ‘ยงยุทธ’ แนะเพื่อไทยขับพ้นพรรค ลั่นไม่ได้ระบุชื่อ ร้อนตัวอะไรหรือเปล่า?

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image