‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ชู ‘แลนด์สไลด์’ คว้าชัยเลือกตั้ง

‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ชูแลนด์สไลด์คว้าชัยเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการเตรียมจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น ที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 15 มกราคมนี้ ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด

จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ในบรรยากาศของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทยที่จะนำเสนอนโยบายและเป้าหมายไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคต

เป็นการยืนยันว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไร้ความสามารถ หลังจากนี้ ครอบครัวเพื่อไทยจะจัดกิจกรรมไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จนกว่าจะมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศคิกออฟนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือการมุ่งเป้าชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางเอาไว้ให้ได้

นายณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า นึกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ หลังจากยึดครองอำนาจต่อเนื่องมา 8 ปี แต่พบว่าไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก คือ การรวมเอาคนที่แตกออกจากพรรคต่างๆ มาอยู่ด้วยกันและพบว่าไม่มีบุคคลที่เป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่ยอมรับในสังคม เป็นคนใหม่ทางการเมือง ปรากฏตัวร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างใด จึงมองไม่เห็นอนาคต เห็นแต่อดีต เพราะเต็มไปด้วยอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี

Advertisement

จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในไม่ช้า ดังนั้น การตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ แท้จริงไม่ใช่เป้าหมายแค่การเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหว สับไพ่รอหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยระบุว่ามีปัญหาที่น่าสนใจในบทบัญญัติในมาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดย ส.ว.กลุ่มนี้ชี้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาแก้ไข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image