เมื่อวันที่ ๒๙ พ.ย. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๙/๒๕๕๙ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการดําเนินคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการประมง ระบุว่า ตามที่ได้มีการบังคับใช้พระราชกําหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการทําการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
ในปัจจุบันได้ปรากฏว่ามีคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการประมงเป็นจํานวนสูง มากกว่า ๒,๖๐๐ คดี ซึ่งแต่ละคดีมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจํานวนมาก ประกอบกับในการดําเนินคดี ของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และการพิจารณาในชั้นศาลยังปรากฏว่าผู้ต้องหาหรือจําเลย ไม่มาตามหมายเรียกหรือตามนัดโดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและระงับผลกระทบ ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในการดําเนินคดีตามพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมหรือคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทําการประมง ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ถ้าผู้ต้องหาหรือจําเลยหลบหนีไป ในระหว่างถูกดําเนินคดีหรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ต้องหาหรือจําเลยหลบหนี รวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ในกรณีมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจําเลย ถ้าจําเลยหลบหนีไปในระหว่างต้องคําพิพากษา ถึงที่สุดให้ลงโทษ มิให้นําบทบัญญัติมาตรา ๙๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้บังคับ
ข้อ ๒ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบ แห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ ๓ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
