‘ณพจน์ศกร’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่หวั่นไหว ยอมรับเสียงแตก มีเห็นต่างหลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ถือเป็นสีสันทางการเมือง มั่นใจพรรคมีกระบวนการสรรหาชัดเจน สุดท้ายทุกคนต้องร่วมอุดมการณ์เดียวกัน เดินหน้าล้มล้างเผด็จการ นำสู่ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ด้าน ส.ส.ชวลิต วิชยสุทธิ์ เพื่อไทย เขต 4 แชมป์เก่า เตรียมลาออกซบไทยสร้างไทย
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ยังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 4 อ.นาแก อ.ปลาปาก และ อ.วังยาง กรณี พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 4 คือ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม อาชีพทนายความ น้องชายอดีต ส.ส.ชื่อดัง นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.หลายสมัย พรรคไทยรักไทย และเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111
ภายหลังพรรคเพื่อไทยเปิดเผยชื่อ นายณพจน์ศกร ทำให้เกิดความเห็นมากมาย กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวให้พรรคทบทวน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีชื่อ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม และ นายชาญชัย คำจำปา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระซอง อ.นาแก แต่สุดท้ายกลับเป็น นายณพจน์ศกร ลงแข่งขันเลือกตั้ง 2566 ชนกับคู่แข่งสำคัญคือ พรรคภูมิใจไทย ที่ต้นสังกัดส่ง นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยที่ผ่านมา แต่พ่ายการเลือกตั้ง ล่าสุดจึงหันมาซบพรรคภูมิใจไทย เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ในสมัยหน้า ส่วน พรรคพลังประชารัฐ ยังไม่เปิดตัวผู้สมัคร
ด้าน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 4 นครพนม แชมป์เก่า ที่เคยย้ายมาจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาลงสมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม แทน นายชูกัน ที่ย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ และมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เตรียมย้ายไปสังกัด พรรคไทยสร้างไทย ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องวางตัวผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่แทน
นายณพจน์ศกรเปิดเผยว่า ยอมรับว่ามีกระแสความเห็นต่างทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย เป็นสีสันในระบอบประชาธิปไตย และเส้นทางการเมือง ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีกระบวนการสรรหาชัดเจนก่อนจะวางตัวผู้สมัครในแต่ละเขต ขอขอบคุณที่พรรคเพื่อไทยให้ความไว้ใจ ในฐานะที่ตนทำงานการเมืองในพื้นที่มานานกว่า 20 ปี ก่อนจะเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย
นายณพจน์ศกรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานได้จริงตามนโยบาย และตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ทำงานการเมืองดูแลพี่น้องประชาชน ร่วมกับพี่ชายคือ นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.แชมป์หลายสมัย พรรคไทยรักไทย และเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 จึงถูกตัดสิทธิทางการเมือง และการเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะมาถึงตนจึงมาสานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง เพื่อเดินหน้าต่อสู้ล้มล้างเผด็จการ
นายณพจน์ศกรกล่าวต่อว่า แม้จะมีความเห็นต่างถือเป็นธรรมดาของพรรคที่มีกระแสความนิยมสูง จะต้องมีหลายคนที่หมายปองอยากเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละเขต เชื่อมั่นว่าสุดท้ายทุกฝ่ายที่เป็นประชาธิปไตยจะเข้าใจ เชื่อมั่นในการทำงานของตนที่เคยลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาตลอด ทั้งในฐานะดูแลช่วยเหลือข้อกฎหมาย เนื่องจากมีอาชีพเป็นทนายความด้วย และมีความเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 4 ถือเป็นพื้นที่สำคัญ เพราะเคยเป็นพื้นที่สีแดง อดีตถิ่นสหาย เคยมีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด
“มาถึงวันนี้เชื่อว่าทุกคนจะให้การสนับสนุน และร่วมกันสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ล้มล้างเผด็จการ ให้การสนับสนุนผมและพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ฝากพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน และไม่มีความคิดที่จะสร้างความแตกแยก หรือขัดแย้งกับใคร ต้องการร่วมสร้างประชาธิปไตยร่วมกับทุกคน” นายณพจน์ศกรกล่าว
