รอยร้าวลงลึก ส่อแตกเพื่อไทย ชาวรังสิตให้กำลังใจ ส.จ.หนึ่ง หลังพรรคดึงอดีต ส.ส.ลงเลือกตั้งเขตรังสิต
เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่บริเวณริมเขื่อนสะพานดง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ชาวรังสิตกว่า 200 คน ร่วมกันถือป้าย พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย หรือ ส.จ.หนึ่ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่จะลงในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ มาคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลากว่า 5 ปี น.ส.ณัฐธิดาได้ทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พบปะพ่อแม่พี่น้องประชนมาโดยตลอด รวมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการของพ่อแม่พี่น้องประชนเสนอต่อพรรค แต่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ประธานภาค และประธานเขตส่งผู้สมัครได้มีมติให้ น.ส.ณัฐธิดาย้ายไปลงสมัครในเขตพื้นที่หนองเสือ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่หาเสียงและบ้านเกิด จนชาวรังสิตได้รับทราบข่าวสารต่างนัดรวมตัวเพื่อแสดงจุดยืนมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
(ชมคลิป)
ก่อนหน้านั้นพรรคเพื่อไทยได้วางตัวผู้ลงสมัคร ส.ส.ของ จ.ปทุมธานีครบทั้ง 7 คน ซึ่งก็มี น.ส.ณัฐธิดารวมอยู่ด้วย แต่ถึงเวลาจ่ายงบประมาณในการทำป้ายหาเสียง พรรคเพื่อไทยจ่ายงบให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานีเพียง 5 คนเท่านั้น ส่วนอีก 2 คน รวมถึง น.ส.ณัฐธิดาไม่ได้รับงบประมาณดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลที่ชาวรังสิตออกมาเคลื่อนไหว แสดงความไม่พอใจกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย รวมทั้งประธานภาค และประธานเขตส่งผู้สมัคร
นายสมศักดิ์ เกียรติพัฒนาชัย บิดาของ น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า เนื่องจากประธานภาคและประธานเขตพรรคเพื่อไทยไม่ส่ง น.ส.ณัฐธิดา ซึ่งเป็นลูกสาวผมลงพื้นที่นครรังสิต ทั้งๆ ที่ครอบครัวของผมเกิดที่รังสิต ต้นตระกูลเป็นคนรังสิต แต่กลับให้ลูกของผมไปลงพื้นที่เขตหนองเสือ ที่ผ่านมาลูกสาวผมทำงานหาเสียงในพื้นที่นครรังสิตตลอดมาจนได้เป็น ส.จ. และดำรงตำแหน่งประธานสภา อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเขาได้เดินลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมานานกว่า 5 ปี แต่ทางพรรคเพื่อไทยจะนำอดีต ส.ส.หลายสมัยมาลงพื้นที่แทนลูกผม แล้วเอาลูกผมไปลงเขตอื่น จนชาวบ้านทราบข่าวจึงออกมาแสดงจุดยืนว่าเขาไม่ยอม จะให้ผมทำอย่างไร
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ท่าน ส.ส.หลายสมัยก็เป็นคนจัดการนำคนอื่นมาลง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แบบนี้ถือว่าเป็นการดูถูกชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านเขาสนับสนุน ส.จ.ณัฐธิดาอยู่ ต่างบอกว่าต้องลงพื้นที่นี้ อย่าไปย้ายเขต ซึ่งผมและลูกสาวเป็นชาวรังสิต ลูกสาวผมเกิดที่รังสิต ประธานภาคและประธานเขตมีความยุติธรรมหรือเปล่า
“ถ้าพวกคุณแน่จริงให้ประธานภาคและประธานเขตมาลงพื้นที่เขตรังสิต แล้วจะได้เจอกัน เมื่อมาดูถูกชาวบ้าน คุณจะมาเลือกคนโน้นคนนี้มาลงถือว่าอยู่พรรคเพื่อไทยแล้วจะเอาใครมาลงก็ต้องได้ หากคุณคิดอย่างนี้คุณมาลงเองในเขตรังสิต แล้วชาวบ้านจะสั่งสอนคุณ กล้าหรือเปล่า” นายสมศักดิ์กล่าว
นายศรรัก กล่าวว่า น.ส.ณัฐธิดาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชนมานานกว่า 5 ปี และมาเป็น ส.จ.ลงพื้นที่มานาน 2 ปี ครั้งนี้เราต้องการให้น้องหนึ่งเข้าไปเป็น ส.ส. แต่เมื่อน้องหนึ่งเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เราต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. แต่หากประธานเขต ประธานภาค หรือผู้จัดได้เปลี่ยนตัวน้องหนึ่งไปลงเขตอื่น ซึ่งน้องหนึ่งไม่ได้หาเสียงไว้ น้องหนึ่งลงพื้นที่รังสิตมาไม่น้อยกว่า 5 ปี อยู่ๆ จะให้ไปลงที่อื่นพี่น้องประชาชนจึงไม่ยอม
“ประธานภาค ประธานเขตไม่เอาน้องหนึ่งก็ตาม แต่ประชาชนต้องการให้น้องหนึ่งลงเขตรังสิต น้องหนึ่งโดนรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ไปลงพื้นที่อื่น เป็นเช่นนี้ไม่เป็นไร เมื่อประธานภาค ประธานเขตพรรคเพื่อไทยไม่ให้น้องหนึ่งลงพื้นที่รังสิต แต่พี่น้องสนับสนุนลงพื้นที่รังสิต ไม่ว่าจะลงพรรคไหนไม่สนใจ ขอให้น้องหนึ่งลงพื้นที่รังสิต” นายศรรักกล่าว
ด้าน น.ส.ณัฐธิดากล่าวว่า ขอบคุณและรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจ หากมีโอกาสก็จะทำหน้าที่ของหนึ่งให้ดีที่สุด ยังยึดมั่นที่จะลงในพื้นที่นี้ เพื่อจะพัฒนาในพื้นที่นครรังสิตให้ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป
