ยิ่งชีพ จัดเต็ม! ตอบคนนอนอยู่บ้านวิจารณ์ ‘ตะวัน-แบม’ เปิดกระบวนการ ‘ไม่ปกติ’

ยิ่งชีพ ชู 3 ข้อแจงปมตะวัน-แบมอดข้าว-น้ำ นักโทษม.112 มากเป็นประวัติการณ์ หวังเห็นทั้ง 2 ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก มีชีวิตอยู่เห็นความเปลี่ยนแปลง

สืบเนื่องกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม 2 เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ต้องหา ม.112 ถูกส่งตัวไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการอดอาหารและน้ำประท้วง 3 ข้อเรียกร้อง ต่อเนื่องตั้งแต่ 18 มกราคมที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 9 โดยวานนี้ (25 มกราคม) น.ส.ทานตะวันมีอาการหัวใจจะหยุดเต้นจากการขาดโพแทสเซียม จึงตัดสินใจรับโพแทสเซียม แต่ทั้งคู่ยังคงยืนยันอดน้ำ อดอาหาร โดยไม่ใส่สายน้ำเกลือ ไม่กินเกลือแร่ วิตามิน น้ำหวานและอื่นๆ นั้น

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ขึ้นกล่าวปราศรัยหลังกลุ่มทะลุฟ้ายืนหยุดขังครบ 112 ชั่วโมง ว่า ดีใจมากที่เห็นทุกคนมารวมตัววันนี้ด้วยกัน เป็นภาพที่ตนอยากให้ตะวันและแบมได้เห็นด้วยกันวันนี้ว่าเรามาอยู่ร่วมกัน เพื่อยืนยันทั้ง 3 ข้อเรียกร้องของเขา ในฐานะที่หลายๆคนในที่นี้รวมถึงตนเอง เราเคยผ่านช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ายึดอำนาจ เราเคยผ่านช่วงที่เขาทำประชามติแล้วได้รัฐธรรมนูญ 2560 มา เราผ่านตอนนี้มีกฎหมายต่างๆขึ้นมา ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นแล้วทำให้มีคดีการเมือง มีนักโทษการเมือง

“ผมว่ามันไม่แปลกอะไรถ้าเราจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกันคนละนิดคนละหน่อย ที่พาให้สังคมเดินมาถึงวันที่มีคนรุ่นใหม่รู้สึกสิ้นหวังมากจนเขาตัดสินใจที่จะต้องเคลื่อนไหวโดยเอาชีวิตของตัวเองเข้าแลก แต่ผมคิดว่าทุกท่านที่รู้สึกไม่ต่างกันจากผม วันนี้เราเลือกที่จะออกมารวมกันที่นี่ เรากำลังจะมาบอกว่า เรารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเรากำลังจะมาบอกว่าเราไม่อยู่เฉยๆ เราจะมาบอกว่าเราได้ยินเสียงเรียกร้องของตะวันและแบมแล้ว เรารู้ 3 ข้อเรียกร้องแล้ว และเราพร้อมที่จะสู้พร้อมไปกับน้องทั้ง 2 คน” นายยิ่งชีพกล่าว

Advertisement

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อไปว่า หลายคนที่มาที่นี่เห็นด้วยกับ 3 ข้อเรียกร้อง แต่คนที่นอนอยู่ที่บ้านอาจมีคำถามว่าทำไมต้องใช้วิธีนี้ วิธีการแบบนี้ดีที่สุดแล้วหรือ ตนไม่ได้บอกว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด และถูกต้องที่สุด แต่ทำความเข้าใจได้ไม่ยากที่สุด หลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศเราตกอยู่ในภาวะที่สถานการณ์ค่อนข้างหดหู่และก็เงียบงัน แต่ภายใต้ความเงียบทั้งหมดนี้ มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งไม่แน่ใจทุกคนรู้ทั่วกันหรือไม่ ตนจะขอเล่าสัก 3 เรื่อง เรื่องที่ 1 ทุกท่านทราบว่านาทีที่เรายืนอยู่ตรงนี้ เป็นช่วงที่กฎหมายมาตรา 112 ถูกใช้นำมาดำเนินคดีกับประชาชนมากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เคยมีมา มีคดีความม.112 มีนักโทษทางการเมือง มีคนโดนคดีม. 112 มากกว่า 200 กว่าคน มีคนอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 8 คน

“เรามีป้าอัญชัน หรือ นางอัญชัญ ปรีเลิศ อดีตข้าราชการกรมสรรพากร และเมธิน (นามสมมติ) พลทหาร ที่คดีถึงที่สุด เรามี 3 คนที่มีคำพิพากษาได้แก่ สมบัติ ทองย้อย, ก้อง อุกฤษฏ์ สันติประสิทธิ์กุล ,สิทธิโชค เศรษฐเศวต ไรเดอร์ส่งอาหาร ศาลชั้นต้นตัดสินแต่เขาขออุทธรณ์ เขาไม่ได้สิทธิประกันตัว มีเพื่อนเราชื่อเอก เก็ทและ ใบปอ ที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาล แต่ก็ต้องเข้าคุกและไม่ได้ประกันตัว เรามีเพื่อนพี่น้องที่ติดคุกด้วยคดีอื่นๆ เรามีน้องๆทะลุแก๊สที่อยู่ในเรือนจำมาหลายเดือนจนเป็นปีแล้วแต่ไม่มีใครจำได้ แทบจะลืมพวกเขาไปหมดแล้ว

Advertisement

คดี 112 ไม่ใช่ง่าย เดือนนี้มีนัดฟังคำพิพากษา 5 คดี เดือนหน้ามีอีก รวมแล้ว 12 คดี และจะมีนัดฟังคำพิพากษา 112 ทยอยเดินมา นั้นหมายความว่าจะมีคนเดินเข้าคุกด้วย 112 มากขึ้นๆ ถ้าไม่มีใครทำอะไรและถ้าไม่มีใครพูดอะไรเลย ตนเชื่อว่าหลายท่านไม่รู้ หลายท่านไม่แน่ใจว่ามีใครอยู่ในเรือนจำบ้าง และหลายท่านไม่แน่ใจว่าจะมีใครเข้าคุกอีกบ้าง จนกระทั่งตะวันและแบมออกมาเรียกร้องและทำให้เราต้องคุยกันเรื่องนี้ ” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2 เวลาที่คดีการเมืองคดี 112 ขึ้นศาล กระบวนการในห้องพิจารณาคดี ไม่ได้เดินหน้าไปตามปกติ

“คนไม่กี่คนตัดสินทุกคดี คนไม่กี่คนสั่งเรื่องไม่ให้ประกันตัวอยู่ไม่กี่คดี ไม่ว่าจะยื่นไปกี่ครั้ง …. นี่คือสถานการณ์คดี 112 ในปัจจุบัน ที่พวกท่านทราบกันหรือเปล่า ถ้าท่านทราบแล้ว ผมยินดีที่ทุกคนรู้ร่วมกัน แต่ถ้าท่านยังไม่ทราบ วันนี้เราได้มาคุยกันที่นี่เรื่องนี้ เป็นเพราะน้อง 2 คนที่เขาทราบ แล้วรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้เงียบเกินไป ก็คือแบมและตะวัน เขาจึงเลือกเรียกร้องให้พวกเรายังต้องรับรู้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ให้เงียบไป” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 3 ท่านทราบหรือไม่ว่าอีกไม่กี่เดือนจะมีเลือกตั้ง ถึงนาทีนี้ยังไม่มีแม้แต่พรรคการเมืองเดียวที่เสนอให้ยกเลิก 112 ซึ่งมีพรรคการเมืองอยู่ 2 ประเภท ประเภทที่ 1 คือ ไม่เห็นด้วย ช่างเขา ส่วนประเภทที่ 2 คือไม่กล้า มีคนพยายามพูดเรื่องนี้มากมายมาตลอด มีคนพยายามเสนอมาหลายครั้ง

“เราเคยเข้าชื่อยกเลิกม. 112 กัน ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์โดนบล็อค ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าเขาหาว่ากิจกรรมวันนี้ทำไม่ได้ มีพรรคการเมืองเคยเสนอแก้ไขม. 112 เข้าสภา มีประชาชนเข้าชื่อเสนอแก้ไขม. 112 ยื่นเข้าสภา ประธานสภาไม่รับบอกว่าแบบนี้เสนอไม่ได้ ถ้าหากว่ากระบวนการรัฐสภายังพอสามารถเดินไปได้ มันก็มีช่องทางให้สู้ในระบบได้ ถ้าหากประชาชนสามารถมายืนเรียกร้องบนถนนได้ว่ายกเลิก ม. 112 มันก็มีเรื่องให้พูดกันทุกวัน ยังมีโอกาสให้พูดอยู่ทุกวัน แต่วันนี้มีคนพยายามบอกว่าทำไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ เสนอก็ไม่ได้” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจในบรรยากาศของความเลวร้ายและหดหู่ พวกเราหลายท่านก็เหนื่อยล้า พวกเราในที่นี้โดนคดีมามากมาย ผ่านกระสุนยางผ่านแก๊ซน้ำตา การบาดเจ็บมามากมาย บางคนบางครั้งเราก็ต้องเลือกพักบ้าง เรามีอย่างอื่นต้องไปทำบ้าง ตรงนี้เข้าใจได้ ไม่ใช่เรื่องผิดไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปรากฎว่ามีน้อง 2 คน ที่เขาบอกว่าไม่ได้ เรายังหยุดไม่ได้ แต่พอ 2 คน เขาอยากจะพูด เขาอยากจะสู้ต่อ เขาอยากจะทำต่อ

“วันที่เขาลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเขามองซ้ายมองขวา เขาไม่เห็นมีใคร เขาโดนคดีก็แล้ว โดนกำไลอีเอ็ม ถูกสั่งห้ามออกจากบ้านก็แล้ว แต่เขายังอยากสู้ต่อแล้วเขาไม่เห็นใครยืนกับเขา มีทางเลือกเขาไม่มากเขาจึงต้อง เลือกเอาชีวิตเข้าไปเดิมพัน เพื่ออยากจะเห็นว่าตกลงยังมีใครยืนอยู่กับเขาบ้างหรือเปล่า แล้วเขาก็เลือก แล้วเขาเลือกโดยไม่ถาม วันนี้มันไม่ใช่เมื่อวาน วันนี้ไม่ใช่เดือนที่แล้ว วันนี้ไม่ใช่วันที่เราเงียบ วันนี้เรามาที่นี่เพื่อที่จะบอกแบม-ตะวันว่าเรายังอยู่ตรงนี้ เราอยากให้ตะวันได้ยินว่ายังมีคนสู้อยู่ยังไม่มีคนยอมแพ้ เราอยากให้แบมรู้ว่าถ้าเขาได้ออกมาเมื่อไหร่ เขามาอยู่ตรงนี้ เราจะมายืนอยู่ตรงนี้” นายยิ่งชีพ กล่าว

จากนั้นนายยิ่งชีพได้ชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าวนำมวลชนว่า ‘ยกเลิก 112’ จำนวน 3 ครั้ง

นายยิ่งชีพ ยังกล่าวอีกว่า ภายใต้ความเงียบงันและความหดหู่ ไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเรามีโอกาส วันที่เราได้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ถ้าเรามีรัฐสภาใหม่ มีส.ส.ใหม่ มีนักการเมืองที่มีคุณภาพรับฟังเสียงประชาชน โอกาสที่เราจะยุติคดีทางการเมืองเหล่านี้เป็นไปได้ ถ้าเรามีรัฐบาลใหม่ ไม่หลงเหลืออำนาจ แบบคสช. ไม่หลงเหลือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โอกาสที่จะปฏิรูป ออกกฎหมายใหม่สร้างโครงสร้างใหม่เป็นไปได้ใช่หรือไม่ ทุกอย่างยังมีโอกาสเป็นไปได้

จากนั้นนายยิ่งชีพได้ให้มวลชนร่วมชูนิ้วหนึ่งนิ้วหรือปากกาขึ้นมาพร้อมกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า

“ไม่รู้ว่าจะยุติธรรมโปร่งใสหรือไม่ แต่ถ้าทุกคนช่วยกันจับตา ช่วยกันตรวจสอบทุกอย่างเป็นไปได้ ส.ว.ยังมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเราไม่หยุดด่า ให้มียางอาย ทุกอย่างเป็นไปได้ ผมอยากเห็นตะวันและแบมไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างน้อยเป็นครั้งแรกของเขาในชีวิต อยากให้เขาอยู่ด้วยกันและเห็นความเปลี่ยนแปลง เราสู้ไปด้วยกัน และเราเห็นวันที่ดีกว่าด้วยกัน เพราะฉะนั้น 3 ข้อเรียกร้องของน้องไม่ได้เป็นสิ่งที่ยาก ไม่ได้เข้าใจยาก และไม่ได้เรียกร้องยากเกินไป” นายยิ่งชีพกล่าว

ต่อมานายยิ่งชีพได้นำมวลชนชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าวว่า “ปล่อยเพื่อนเรา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image