‘พิธา’ ลั่นเลือกก้าวไกลไปปิดสวิตช์ 3 ป. ไม่จับมือพรรคทหาร ไม่เอาแล้ว รปห.ทุก 5 ปี

‘พิธา’ ลั่นเลือก ‘ก้าวไกล’ ไทยไม่เหมือนเดิม สัญญาจะเป็นนายกฯที่มีปัญญาแก้ปัญหา ย้ำพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ตอบโจทย์ประเทศ

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 28 มกราคม ที่อาคารอุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีการประชุมใหญ่สามัญ ว่าเป็นการประชุมเพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง อย่างแรกคือการเตรียมข้อบังคับให้เข้ากับกฎหมายใหม่ เตรียมองคาพยพ โครงสร้างของแต่ละจังหวัด และเป็นการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “ก้าวไกลทูเดย์” พร้อมเปิดตัวยุทธศาสตร์ให้ประชาชนกาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ตนคิดว่าประเทศไทยเศรษฐกิจโต แต่ต้องลดความเหลื่อมล้ำไปด้วย จะเอาปัญหาในประเทศไทยมาสร้างเป็นโอกาส สร้างเป็นอุตสาหกรรม เป็นงาน ตนจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เมื่อปัญหามาปัญญามี ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม และไม่ได้มีไว้ให้ดองเหมือนเดิม ซึ่งทั้งหมดจะเกิดได้ประชาชนต้องปิดสวิตช์ 3 ป.เพื่อเปิดความหวังให้ประเทศ

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพูดว่าพรรค ก.ก.เป็นพรรคสุดโต่ง นายพิธากล่าวยืนยันว่า สิ่งที่พรรค ก.ก.กำลังทำอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โลกตอนนี้สุดโต่งมาก เพราะฉะนั้น เราต้องการองคาพยพของรัฐที่พร้อม ที่จะสามารถคืนสามัญสำนึกให้กับการเมืองไทยให้ได้ก่อน เพื่อจะให้มีรัฐบาลที่พร้อม ที่จะต่อสู้กับความท้าทายที่สุดโต่งของโลกในปัจจุบัน

“การที่การเมืองไทย เศรษฐกิจไทย ยังย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม บริหารด้วยระบบราชการแบบรวมศูนย์ เหมือน 130 ปีที่แล้ว ตรงนี้ต่างหากที่เป็นสุดโต่ง ถือเป็นความเสี่ยงที่มากที่สุดของประชาชน ที่จะเลือกพรรค และนักการเมืองแบบเดิมๆ แล้วคาดว่าจะได้รับผลใหม่ๆ นี่ต่างหากเป็นเรื่องที่สุดโต่ง” นายพิธากล่าว

เมื่อถามว่าคำว่าประชาธิปไตยที่เหมาะสมนั้น นายพิธากล่าวว่า ประชาชนจะเป็นคนตอบได้ดี สำหรับก้าวไกล คำว่าประชาธิปไตยไม่ใช่มีแค่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่เป็นการที่ยึดโยงกับประชาชน การเมืองที่ประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ต้องมานั่งคิดว่าพลังของลากตั้ง หรือเลือกตั้งมากกว่ากัน การเลือกตั้งสู้กันด้วยนโยบาย สู้กันด้วยผู้สมัคร ไม่มีการรัฐประหารทุก 5 ปี ไม่มีการยุบพรรคเมื่อใกล้จะแพ้การเลือกตั้ง นี่คือสิ่งที่พรรค ก.ก.มองว่าเป็นประชาธิปไตย การที่ประชาชนจะมาควบคุมวาระทางสังคม มีสิทธิเสรีภาพ ชุมนุมกันอย่างสงบ ไม่มีกฎหมายกดขี่ ใครจะมองเหมาะสมไม่เหมาะสมประชาชนเป็นคนเลือก

Advertisement

นายพิธากล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ที่ประชาชนไว้วางใจตั้งแต่ปี 2562 จนถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ด้วย ซึ่งนโยบายหลักของกรุงเทพฯคือการเปลี่ยนรถเมล์ควันดำให้เป็นรถเมล์ไฟฟ้า เพื่อทำให้สุขภาพของพี่น้องกรุงเทพฯดีขึ้น ทำให้ระบบสาธารณะเหมาะสมมากขึ้น ลด PM2.5 ไปได้ 10% ทันที รวมถึงการสร้างงานสร้างอาชีพที่พี่น้องกรุงเทพฯน่าจะจับต้องได้

เมื่อถามถึงการดีลกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายพิธากล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสกับประชาชน ในส่วนของพรรค ก.ก.ยืนยันชัดเจนว่าต้องการจะปิดสวิตช์ 3 ป. เอาพรรค คสช.ออกจากการเมืองไทย เพราะฉะนั้น พรรค ก.ก.จะไม่ร่วมรัฐบาลกับทั้งพรรค พปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ ​(รทสช.) และตนยืนยันขั้วพรรคฝ่ายค้านปัจจุบันเป็นชุดคำตอบที่ดีที่สุดของความท้าทายในประเทศไทยตอนนี้

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image