ชัยวุฒิเชื่อสี่กุมารกลับบ้าน สร้าง พปชร.แข็งแกร่ง ลดความขัดแย้ง ตามแนวทางบิ๊กป้อม มั่นใจทีมปทุมธานี ปักธง พปชร.
เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลงพื้นที่ปิ่นฟ้าฟาร์ม จ.ปทุมธานี ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ ประกอบไปด้วย นายเสวก ประเสริฐสุข ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 นายนพดล ลัดดาแย้ม ว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ว่าที่ผู้สมัคร เขต 4 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล ว่าที่ผู้สมัคร เขต 5 นายวิรัช พยุงวงษ์ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 6 และ น.ส.กฤษณา วงศ์คำ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 7
นายชัยวุฒิกล่าวว่า ปิ่นฟ้าฟาร์มเป็นโครงการสมาร์ทฟาร์มที่สนับสนุนโดยสํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นโครงการที่ให้เงินสนับสนุนส่วนหนึ่งร่วมกับวิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกร เป็นเรื่องที่การทำสมาร์ทฟาร์ม นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทําการเกษตร ซึ่งที่นี่มีความพร้อมเรื่องโดรน ถือว่าในพื้นที่เกษตรทํานาจะต้องใช้การฉีดปุ๋ย ฉีดสารเคมีต่างๆ ซึ่งจะใช้โดรนบินฉีดพ่นยา พบว่ามีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีมาก
โดยกระทรวงดีอีเอสก็ส่งเสริมโครงการโดรนที่จะให้เกษตรกรส่งเสริมให้ใช้ เรียกว่าโครงการคนละครึ่ง ก็คือเกษตรกรออกเงินมาครึ่งหนึ่ง กระทรวงดีอีเอสก็จะมีเงินจากกองทุนดีอีให้มาอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ประชากรได้ซื้อในราคาที่ลดครึ่งหนึ่ง จะได้เอาไปใช้พัฒนาการทําการเกษตรให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนปิ่นฟ้าฟาร์มนี้เป็นฟาร์มต้นแบบของ จ.ปทุมธานี ก็อยากจะเชิญชวนทุกคนมาเที่ยว มาศึกษาดูงานที่ปิ่นฟ้าฟาร์ม ต้นแบบของสมาร์ทฟาร์ม เป็นการทําการเกษตรเชิงท่องเที่ยวด้วย ที่ผมว่าทุกคนมาก็จะประทับใจ
นายชัยวุฒิกล่าวว่า และวันนี้มาลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี ก็เป็นพื้นที่ที่พรรคพลังประชารัฐมุ่งหวังที่จะได้ ส.ส.ทุกเขต แล้วก็ส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขต เชื่อว่าทีมปทุมธานีที่เราลงเลือกตั้ง ส.ส.เป็นคนที่มีความพร้อม เป็นทั้งนักการเมืองท้องถิ่น นักวิชาการ ต้องผสมผสานกัน ซึ่งเราเชื่อว่าผู้สมัครทุกคนของเราจะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้
โดยเฉพาะหัวหน้าทีม หรือพี่ใหญ่ก็เป็นอดีตรองนายก อบจ. ก็มีทีม ส.จ.มาช่วย ซึ่งคิดว่าทีมนี้ก็จะทําให้การเมืองท้องถิ่นเข้มแข็ง เข้ามาช่วยกัน แล้วก็มีกลุ่มคนต่างๆ ทุกภาคส่วนทุกกลุ่ม แล้วก็ก้าวข้ามความขัดแย้งไม่มีว่าแบ่งสี แบ่งเสื้อ แบ่งฝ่าย เราคนไทยด้วยกัน คนปทุมธานีด้วยกัน มาช่วยกันพัฒนา จ.ปทุมธานี ด้วยกัน
นายชัยวุฒิยังกล่าวถึงกรณีเรื่องการย้ายกลับมาพรรคพลังประชารัฐของนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าถ้าสองท่านนี้กลับมาที่พรรคพลังประชารัฐ พรรคมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็จะรวมกับทุกพรรคการเมืองทุกกลุ่มการเมืองที่อยากจะมาทํางานร่วม เพราะวันนี้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และวิธีการเลือกตั้งพรรคเล็ก พรรคขนาดกลาง ก็จะทํางานยาก ก็ต้องมารวมกันที่พรรคขนาดใหญ่ ซึ่งวันนี้พรรคขนาดใหญ่ที่เป็นหลักในการเมืองไทยก็มีอยู่ไม่กี่พรรค หนึ่งในนั้นก็คือพรรคพลังประชารัฐ แน่นอน ซึ่งเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชน แล้วก็เป็นแกนนํารัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน
“เพราะฉะนั้น ทุกคนก็อยากจะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะอย่างท่านอุตตม ซึ่งก็เคยทํางานร่วมกันในพรรค ซึ่งผมคิดว่า พล.อ.ประวิตรก็คงจะได้พูดคุยกัน ผมคิดว่าก็เป็นสิ่งที่ดีที่มีคนมาช่วยกันทํางาน มารวมกัน แล้วก็ที่สําคัญก็แสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นที่นิยม มีความพร้อมที่จะทํางานให้พี่น้องประชาชน“ นายชัยวุฒิกล่าว
นายเสวกกล่าวว่า ถ้าจริงๆ แล้วเราก็อยู่พรรคเพื่อไทยมานาน แต่ว่าเราก็ส่ง ส.ส.ลงมาในนามพรรคเพื่อไทย 4 คน แต่ว่าผู้จัด ส.ส.ปัจจุบันไม่เอาทีมเราเลย ผมเหมือนกับเป็นแม่บ้านคนรักปทุม ผมก็ต้องหาที่อยู่ให้กับลูกบ้านลูกน้องตัวเอง ผมก็สนิทกับท่านรัฐมนตรีชัยวุฒิมานาน ก็มีคนเดียวที่เรานับถือกันอยู่ ผมก็เลยมาหาท่านรัฐมนตรีชัยวุฒิ ท่านก็ยินดีรับผม ผมก็ต้องเลยมาทางนี้ เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐก็ดูมีสิ่งดีๆ ทั้งนั้น
นายเสวกกล่าวว่า พอเข้าไปแล้วทุกคนเป็นกันเองกับผม ผมก็เลยตั้งใจจะเล่นการเมือง ทําปทุมธานีให้หมด ทั้งหมดให้มารวมกัน เรามีแต่เพื่อนมีแต่เพื่อนฝูงทั้งนั้น ชีวิตเล่นการเมืองมา 20 ปี นายกฯทุกคนกับผมสนิทกันหมด ก็อยากให้ จ.ปทุมธานี จับมือกัน เดินมากับทีมงานพลังประชารัฐ โดยการนําของนายกฯใหญ่คนนี้จะทําให้พี่น้องประชาชน จ.ปทุมธานี รักสามัคคีกันแล้วก็เจริญได้