พิธา โชว์วิสัยทัศน์ ลั่นขอเป็นนายกฯคนที่ 30-แกนนำจัดตั้ง รบ. พร้อมปิดสวิตช์ 3 ป.

พิธา โชว์วิสัยทัศน์ ลั่นขอเป็นนายกฯคนที่ 30-แกนนำจัดตั้ง รบ. พร้อมปิดสวิตช์ 3 ป.

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ว่า อนาคตของประเทศไทยจะไปต่อได้ จะก้าวหน้าได้จะต้องมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจว่าสร้าง งานซ่อมประเทศเพื่อคนไทยทุกคน หรือกว่า 99% ไม่ใช่อนาคตของคนเพียงแค่ 1% พูดให้ชัดคือ เศรษฐกิจเติบโต ความเหลื่อมล้ำต้องลดลงด้วย ซึ่งคนอื่นเวลามองเห็นปัญหาเป็นปัญหา

ส่วนตนเห็นปัญหาเป็นงาน เป็นเงิน เป็นโอกาส เป็นทองคำ จึงมีแนวคิดในการใช้รถเมลไฟฟ้าเข้ามาแทน อย่างใน กทม.กว่า 3,000 คัน ภายใน 7 ปี เฉลี่ยประมาณปีละ 300 คัน หากทำได้จะเกิดการสร้างงาน และเศรษฐกิจในระบบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกมาก ตลอดจนการพัฒนาระบบประปาโดยนำเอาสมาร์ทมิเตอร์เข้ามาใช้ แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก ปฏิวัติระบบการศึกษาจากการท่องจำ ลดภาระครู มาเติมเต็มความฝันของเด็กและความฝันของประเทศไปด้วยกัน และอื่นๆ

นายพิธากล่าวต่อว่า ทั้งหมดที่พูดมานี้ จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเรายังไม่แก้ไขปัญหาในอดีต จากการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ก็จะกลายเป็นการเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตเดิม ซึ่งปัญหาอดีตที่ว่ามาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช. การเมืองที่ไม่เห็นหัวประชาชน การเมืองวนลูป รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ แพ้เลือกตั้งยุบพรรค วนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทุก 5 ปี ประเทศไทยจะไปไกลได้อย่างไรถ้ายังมีทหารอยู่ในการเมือง และอยู่ในมรดกของลุงแก่ๆ ที่บ้าอำนาจ กลับบ้านไปเลี้ยงหลานได้แล้วลุง

“ประเทศไทยจะไปไกลกว่านี้ได้อย่างไร หากการบริหารจัดการยังถูกรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และแต่ละพื้นที่ไม่สามารถจะกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ทรัพยากรยังอยู่ในกลุ่มมือของคนไม่กี่คน ทั้งนี้ ลุงเขาอยู่กับเรามา 8 ปีแล้ว ตอนแรกบอกจะทำตามสัญญา ตอนนี้บอกขอไปต่อ ตกลงจะไปต่อที่ไหน ไปต่ออย่างไร ไปต่อแบบเดิม การเมืองเดิม ปากท้องเดิม อนาคตเดิม แล้วใครจะไปเดิมๆ แบบลุง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องแก้ไขปัญหาอดีตให้ได้เพื่อที่จะให้เรามีอนาคต”

Advertisement

นายพิธากล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมาถึงภารกิจที่สำคัญที่สุดของการเลือกตั้งครั้งนี้คือ การปิดสวิตช์ 3 ป. ล้างมรดก คสช.ให้สูญพันธุ์ไปจากการเมืองไทยให้ได้ ซึ่งถ้าเห็นด้วยกับการทำแบบนี้จะต้องทำ 2 อย่างคือ 1.การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเอาทหารจำแลง พรรค คสช. พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกจากการเมืองไทยให้ได้

2.เอารัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ออกไปจากสังคมไทยให้หมด ตนเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ 100 วันแรก จะให้มีประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน เพราะถ้าเราไม่สามารถปิดสวิตช์ 3 ป. ได้ เราก็มีอนาคตอย่างที่เราฝันไม่ได้ เราไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ ไม่สามารถคืนความปกติสู่การเมืองไทย เศรษฐกิจไทย และอนาคตของไทยได้

“ผมยืนต่อหน้าทุกท่านตรงนี้ด้วยเกียรติสูงสุดของชีวิตผม ในการประกาศว่า ผมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ปิดสวิตช์ 3 ป. เปิดความหวังให้กับประเทศไทย กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องก้าวออกมา เดินไปกับพรรคก้าวไกลทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” นายพิธากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image