ผบ.ทร.งง! ขอ’เรือดำน้ำ’ถูกโวย แต่อย่างอื่นนิ่งกริบ ย้ำดำอ่าวไทยได้ชัวร์ ผ่อน 7-10 ปี

A Chinese Navy submarine attends an international fleet review to celebrate the 60th anniversary of the founding of the People's Liberation Army Navy on April 23, 2009 off Qingdao in Shandong Province. Fifty-six Chinese subs, destroyers, frigates, missile boats and planes were displayed off the eastern port city of Qingdao just weeks after tensions flared following a naval stand-off with the United States in the South China Sea. AFP PHOTO / POOL / Guang Niu

วันที่ 7 มีนาคม พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีที่มีการคัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า ขณะนี้ขั้นตอนของกองทัพเรือเสร็จแล้ว โดยเป็นเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีน รุ่น เอส26 ที จำนวน 3 ลำ ซึ่ง ครม.ได้ให้กองทัพเรือไปศึกษา ก็ศึกษาอย่างดีที่สุด ส่วนอย่างอื่นเป็นนโยบาย ตนยังไม่อยากให้สังคมวิจารณ์ในช่วงนี้ ต้องคิดว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ทหารเป็นรั้วของชาติ ตนเป็นทหารเรือก็รับผิดชอบในส่วนของทหารเรือ หน้าที่ของใครของมัน ไม่ควรก้าวก่าย ควรฟังกันบ้าง ไม่ใช่มาตำหนิอย่างเดียว เพราะโอกาสที่จะมีและจัดหาแต่ละครั้งไม่ง่าย กว่าจะได้เรือดำน้ำอย่างน้อยก็ 7 ปี จากนั้นส่งกำลังพลไปฝึก


ทั้งนี้ เรือดำน้ำเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องปรามและศักยภาพดีที่สุด ส่วนงบประมาณขึ้นอยู่กับ ครม.อนุมัติว่าจะเป็น 7 หรือ 10 ปี และถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำก็ต้องมียุทโธปกรณ์อื่นทดแทน สรุปแล้วก็ไม่ได้อะไร งบกลางที่เป็นชิ้นเป็นอัน ต้องเข้าใจ หากเราไม่ได้เรือดำน้ำ ก็อาจจะไปได้เรือผิวน้ำ หรือเพิ่มเรือตรวจการณ์ลาดตระเวนมาทดแทน แต่ภารกิจบางอย่างทดแทนไม่ได้

พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์การป้องปรามในอนาคตหากเกิดสงคราม เรือผิวน้ำแทบจะไม่เหลือ สิ่งที่อยู่รอดคือเรือดำน้ำ ทั้งนี้ กองทัพเรือไม่ได้มีแผนสำรองหากไม่ได้เรือดำน้ำ ตนคงหยุด แต่ขณะนี้เราดำเนินการตาม ครม.อนุมัติให้ไปศึกษารายละเอียด ส่วนจะได้หรือไม่แล้วแต่นโยบาย ถ้า ครม.เห็นชอบกองทัพเรือก็จะจัดหาตามงบประมาณที่ได้รับในทุกปีอยู่แล้ว และเป็นงบผูกพันที่กองทัพเรือมีอยู่ ซึ่งไม่ได้จ่ายครั้งเดียว 3 หมื่นล้าน แต่จะจ่าย 200 ล้าน และ 3,000 ล้าน ตามงบประมาณผูกพันตามลำดับ แต่ถ้าไม่ให้ซื้อเรือดำน้ำ ในปีต่อไปก็จะเอางบนี้ไปซื้อเครื่องบินแอมแบร์ หรือเครื่องบินลาดตระเวนตรวจการณ์ ขึ้นมาทดแทน กองทัพเรือรบ 3 มิติ ทั้งใต้น้ำ ผิวน้ำ และบนอากาศยาน

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพอเราจะจัดหาเรือดำน้ำแล้วไม่ได้  แต่ทำไมพอซื้ออย่างอื่นแล้วเฉย พอพูดถึงเรือดำน้ำ ก็ไปคิดกันอย่างโน้นอย่างนี้ อ่าวไทยไม่ได้ตื้นถึงขนาดใช้เรือดำน้ำไม่ได้ เพราะไปศึกษาในรายละเอียดมาแล้ว” พล.ร.อ.ไกรสรกล่าว

เมื่อถามว่า เรือดำน้ำจีนแบบเอส 26 ที ตอบโจทย์หรือไม่ พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าเงินที่ตั้งไว้ไม่ได้เยอะ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด เรือดำน้ำของจีนแบบเอส 26 ที ตอบโจทย์มากสุด เพราะของยุโรปเสนอขายแค่เรือ ไม่มีอาวุธและการดูแลรักษา ตลอดจนถึงการซ่อมบำรุง มาแต่เรือเราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอาวุธ ส่วนของจีนมีพร้อม รวมทั้งอะไหล่อีก 8 ปี

พล.ร.อ.ไกรสรกล่าวอีกว่า การจัดซื้อเป็นแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ไม่เหมือนเรือดำน้ำมือสองของเยอรมัน ที่ไม่มีการรับรองจากรัฐบาลเพราะไม่ส่งออก ถือเป็นเทคนิคของแต่ละประเทศ กองทัพเรือมีหน้าที่เสนอรายละเอียดและเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาความเหมาะสมเท่านั้น

Advertisement

“ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดว่าอะไรดีไม่ดี แต่ทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ต้องเชื่อใจกันถ้าให้กองทัพเรือรับผิดชอบในทะเลทั้งหมด ควรเชื่อใจทหารเรือ แต่ถ้ามานั่งคิดว่า ตรงนั้น หรือตรงนี้ไม่ได้ ท่านก็มาเป็นทหารเรือก็แล้วกัน จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร การเป็นทหารเรือไม่ง่าย ถ้าคนที่อยู่ในเรือและต้องดำน้ำ 21 วัน โดยไม่โผล่มาเห็นเดือนเห็นตะวัน เขาเสียสละกันแค่ไหน พวกท่านมาบอกว่าซื้อแล้วจะใช้เงินมากมาย ก็เป็นเงินของผมเหมือนกัน ภาษีของทุกคนเหมือนกัน ผมก็เสียดายตังค์ ถ้าไม่ดี ผมก็ไม่อยากซื้อ ต้องเข้าใจคนอื่นบ้าง อย่าคิดคนเดียว” พล.ร.อ.ไกรสรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image