โรงพิมพ์-ร้านป้ายโฆษณา คึกรับเลือกตั้ง

โรงพิมพ์-ร้านป้ายโฆษณา คึกรับเลือกตั้ง

ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้แล้ว

ทำให้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.เต็มตัว ส่วนจะรอให้ครบวาระ 23 มีนาคม หรือจะยุบสภาก่อน เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตัดสินใจ เพื่อชิงความได้เปรียบในทางการเมือง
แต่ ณ เวลานี้ แกนนำพรรคการเมืองต่างลงพื้นที่พบปะประชาชน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร เปิดตัวนโยบายกันคึกคักทั่วประเทศ

ส่งผลให้หลายธุรกิจพลิกฟื้นอีกครั้ง โดยเฉพาะ “ร้านทำป้าย” ต่างตระเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำป้ายหาเสียงเข้ามา “ตุน” ในร้านกันจำนวนมาก พร้อมกับประกาศรับสมัครพนักงานกันอย่างคึกคัก

อย่างเช่น “ร้านวรเทิ่ง” ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นร้านทำป้ายโฆษณารายใหญ่ อายุกว่า 30 ปี ของ จ.นครราชสีมา ได้สั่งไม้กรอบป้ายโฆษณามาลงที่โรงงานถึง 10,000 ท่อน โดยเป็นไม้ขนาดความยาว 1.20 เมตร จำนวน 6,000 ท่อน และไม้ขนาดความยาว 2.50 เมตร จำนวน 4,000 ท่อน เพื่อเตรียมไว้รองรับออเดอร์งานป้ายโฆษณาจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่เริ่มทยอยมีสั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้

Advertisement

ซึ่งภายในโรงงานได้มีการตีกรอบป้ายหาเสียงขนาด 1.20×2.40 เมตร ไว้พร้อมแล้วจำนวน 4,000 ป้าย เพื่อเตรียมทำป้ายให้กับ 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่สั่งออเดอร์เข้ามาแล้ว แต่อยู่ระหว่างการออกแบบป้าย ก่อนสั่งพิมพ์และนำไปติดตั้งตามชุมชนต่างๆ ต่อไป

นางอุทุมพร เหลียวสีนาค อายุ 39 ปี ผู้จัดการร้านวรเทิ่ง กล่าวว่า ช่วงวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ร้านทำป้ายโฆษณาได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีการจัดอีเวนต์งานและไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาหลายปี แต่ปีนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น และจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.ในปีนี้ ทำให้ช่วงนี้เริ่มมีพรรคการเมืองต่างๆ ติดต่อเข้ามาให้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังไม่ได้ประกาศวันเลือกตั้ง ส.ส. แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้การแนะนำตัวเอง แนะนำนโยบายของพรรค โดยจะสั่งทำสปอร์ตรถแห่ และป้ายไวนิล ไปติดตั้งข้างทาง และตามชุมชนต่างๆ เพื่อหาเสียงล่วงหน้าไปก่อน

โดยคาดว่าช่วงที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีงานจ้างทำป้ายโฆษณาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ดังนั้น ช่วงนี้ทางร้านวรเทิ่งจึงได้ติดป้ายประกาศรับสมัครช่างทำป้าย และช่างติดตั้งป้ายอีกจำนวนมาก เพื่อที่จะได้ทำงานทันกับ

Advertisement

ออเดอร์ที่ลูกค้ากลุ่มการเมืองจะสั่งเข้ามา พร้อมกันนี้ก็ได้สั่งไม้กรอบป้ายเข้ามาไว้ก่อนล่วงหน้าจำนวนมาก เพราะเกรงว่าเมื่อถึงช่วงเลือกตั้งไม้กรอบป้ายจะขาดแคลน และไม่มีให้ลูกค้าตามออเดอร์ที่จะสั่งมา
ขณะที่ นายอาทิตย์ กิติรัตน์ตระการ อายุ 27 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการร้านคำเดียวดีไซน์ หนึ่งในร้านทำป้ายโฆษณารายใหญ่ของ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้ทางร้านเริ่มมีพรรคการเมืองมาจ้างงานทำป้ายหาเสียงหลายพรรค เช่นล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้สั่งทำป้ายประกอบเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยมีทั้งป้ายแบ๊กดร็อป ป้ายแนะนำตัวหัวหน้าพรรค ป้ายแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ป้ายติดข้างถนน และใบปลิว เป็นต้น ซึ่งทางร้านได้ส่งมอบงานไปเรียบร้อยแล้ว และช่วงนี้ก็มีหลายพรรคการเมืองติดต่อเข้ามา เพื่อทำป้ายหาเสียง

ส่วนใหญ่จะเป็นป้ายแนะนำตัวบุคคล ป้ายแนะนำนโยบายของพรรค ป้ายแนะนำหัวหน้าพรรค และรถแห่ โดยคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีหลายพรรคการเมืองส่งตัวแทนลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนก็จะต้องมีป้ายหาเสียง ไปติดตามริมถนนและในชุมชนต่างๆ ดังนั้น ทางร้านจึงต้องเร่งติดประกาศรับสมัครพนักงานเพิ่มหลายตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรับงานหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะถึงนี้

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ นางธนพันธ์ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้บริหารบริษัท นันทพันธ์ พริ้นติ้ง จำกัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ภาคเหนือ เผยถึงสถานการณ์โรงพิมพ์ช่วงใกล้เลือกตั้ง ส.ส.ว่า มีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวและดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังประเมินตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ ต้องรอ กกต.ประกาศการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน ส่งผลให้พรรคการเมืองเริ่มขยับใช้งบหาเสียงอย่างเต็มที่ ช่วงโควิด 2 ปี ที่ผ่านมา ธุรกิจสิ่งพิมพ์ค่อนข้างแย่ ทำให้โรงพิมพ์บางแห่งหยุดกิจการ หรือปิดปรับปรุงชั่วคราว ช่วงปลายปี 2565 เริ่มกระเตื้องขึ้น 20-30% เท่านั้น

ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่ประกอบกิจการที่เชียงใหม่กว่า 20 แห่งนอกนั้นกระจายในภาคเหนือ ช่วงใกล้เลือกตั้งมีพรรคการเมืองและว่าที่ผู้สมัครติดต่อใช้บริการบ้าง ส่วนใหญ่เป็นป้ายไวนิล โปสเตอร์ ใบปลิว แผ่นผับ นามบัตรแนะนำตัว ซึ่งบางพรรคส่งมาจากส่วนกลาง ไม่ได้ใช้บริการโรงพิมพ์ท้องถิ่น และยังมีโรงพิมพ์จากส่วนกลางมาเจาะตลาดและลูกค้าเอง เพราะเพิ่งเริ่มหาเสียง เพื่อเป็นทางเลือกใช้บริการดังกล่าว ช่วงเลือกตั้ง หลัง กกต.ประกาศรับสมัคร และรับรองเป็นผู้สมัคร ส.ส.แล้ว

เบื้องต้นประเมินว่ามีพรรคการเมืองและผู้สมัครใช้บริการสื่อสิ่งพิมพ์เพียง 20% นอกนั้นเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์และโซเชียลมีเดีย 80% เนื่องจากราคาค่าบริการทั้ง 2 รูปแบบ ใกล้เคียงกัน แต่สื่อโซเชียลมีเดีย สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ครอบคลุม ทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ช่วงเลือกตั้ง คาดธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์มีเงินหมุนเวียน 40-50 ล้านบาทเท่านั้น อาจไม่สูงเท่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 หรือ 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาท

ในปี 2566 ภาพรวมธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ แม้มีสัญญาณดีขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในภาวะทรงตัว หลังซบเซามานาน ต้องรอดูทิศทางเศรษฐกิจก่อน อาจใช้เวลาอีก 2 ปี น่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติได้

ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพึ่งตนเอง ปรับตัว มีกลยุทธ์การตลาด และสร้างพันธมิตรทางการค้า เพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากค่าพลังงาน วัตถุดิบการผลิต ค่าแรงเพิ่มสูงขึ้น 10-20% ที่สำคัญต้องลดการแข่งขันหรือตัดราคากันเอง เพื่อความอยู่รอดของกิจการ พร้อมรักษาคุณภาพมาตรฐานการผลิต และสร้างความมั่นใจลูกค้า หรือผู้ใช้บริการด้วย

ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้ประกอบการงานป้ายและโฆษณาแห่งหนึ่ง เปิดเผยถึงการทำป้ายโฆษณาหาเสียงของผู้สมัครหาเสียง 2566 ว่า การหาเสียงปี 2566 นี้ อัตราค่าทำป้ายโฆษณาของผู้สมัครมีราคาค่อนข้างสูง กว่าการเลือกตั้งปี 2562 ประมาณ 20-30% เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น ไม้ พลาสติก ป้ายไวนิล ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องจึงมีราคาที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งนี้ป้ายผู้สมัครที่ร้านของตนในปีนี้จะรับเพียง 9 เขต 9 ราย เท่านั้น จะไม่รับงานป้ายเขตละหลายๆ ราย คิดในอัตราป้ายละ 500 บาท พร้อมติดตั้ง

หากราคาทั่วไปคิดป้ายละ 700-800 บาท เอากำไรป้ายละ 30-50 บาท ทำสัญญาผูกขาดกัน จึงไม่มีผู้สมัครรายใดมาต่อรองลงในราคาที่ต่ำกว่านี้

ถามว่าอยู่ได้หรือ อยู่ได้เพราะไม้ตัดเอาจากในสวน มีต้นไม้ในสวนมาก ไม่ต้องซื้อมันคือทุนที่มีสะสม ส่วนคนงานก็มีลูกน้องที่ว่างงานและออกจากเรือนจำ คือวางแผนไว้แล้ว และคนเหล่านี้จะมีความอดทนได้ช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่งด้วย

ขณะนี้มีผู้สมัครติดต่อมาแล้ว 4-5 ราย กำลังรอผู้สมัครจากเขตพื้นที่อื่นๆ อีกด้วย ที่สำคัญมองว่าร้านทำป้ายราคาถูกกว่าที่อื่น เนื่องจากมีเครื่องพรินต์ขนาดใหญ่ ไม่ต้องลงทุนอะไรอีกแล้ว พร้อมลงมือทำงานทันทีที่มีการว่าจ้าง

ดังนั้น การเลือกตั้งเที่ยวนี้จะมีโรงงานทำป้ายที่เงินสะพัด แต่ก็ไม่ร่ำรวยอะไร หากเป็นร้านเปิดใหม่ก็ยังต้องลงทุนอีกมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image