09.00INDEX สัญญาณอันตรายยุบสภา สัญญาณพรรคร่วมรัฐบาล
เหมือนกับว่าปรปักษ์ทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทย จะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แห่งพรรคก้าวไกล
แต่คำประกาศที่จะเป็น “นายกรัฐมนตรี คนที่ 30” จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งพรรคพลังประชารัฐก็ชัดเจน
ความชัดเจนชัดยิ่งขึ้นจาก “พฤติการณ์” การเคลื่อนไหว
เช่นเดียวกับคำประกาศจากปาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล แห่ง พรรคภูมิใจไทย ในเบื้องต้นคล้ายกับดำเนินไปราวกับเป็น “พิธีกรรม” ทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กระนั้น หากจับเอาแต่ละ “การเคลื่อนไหว” ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทย ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะเริ่มประจักษ์
เป็นความประจักษ์จากที่สำนวนสื่อใช้คำว่า “ปาด” ระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า จะที่ราชบุรี ไม่ว่าจะที่นครสวรรค์
เป็นความประจักษ์เมื่อได้ยินเสียงบ่นของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ถึงรากฐานของ “สภาล่ม” ซ้ำซาก
บังเอิญที่รองประธานสภาคนนี้เป็นคนของ “ภูมิใจไทย”
สถานการณ์สภาล่มซ้ำซากเป็นสถานการณ์ที่ชัดเจนในสายตาของประชาชนว่าเหตุปัจจัย “หลัก” มาจากความเป็นเอกภาพภายในของพรรคร่วมรัฐบาล
องค์ประกอบสำคัญย่อมมาจาก 1 พรรคพลังประชารัฐ 1 พรรคภูมิใจไทย และ 1 พรรคประชาธิปัตย์
จุดอ่อนอย่างยิ่งก็คือ ไม่มีคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ยิ่งวาระแห่งญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญคืบเข้ามามากเพียงใด ยิ่งสร้างความหวั่นไหวให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากเพียงนั้น
ลำพังต้องประสบกับปฏิบัติการ “ด่าฟรี” จากขุนพลนักพูดแห่งพรรคเพื่อไทยประสานเข้ากับพรรคก้าวไกลก็หนักหนาสาหัสอย่างยิ่งอยู่แล้วเพราะนี่คือการทิ้งระเบิดครั้งสุดท้าย
คำรามฮึ่มฮึ่มจากพรรคร่วมรัฐบาลคือฟางเส้นสุดท้าย
สัญญาณจากพรรคภูมิใจไทยโดยมูลฐานอาจมาจากปัจจัยในเรื่องร่างพ.ร.บ.กัญชง กัญชา แต่ก็เริ่มบานปลายแล้วว่าเป็นความไม่พอใจต่อพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน
ไม่ว่าจะต่อพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกันการต่อสู้เพื่อแย่งชิงคะแนนและความนิยมในพื้นที่ก็ไม่เข้าใครออกใครแม้จะร่วมอยู่ใน “รัฐบาล”
ในที่สุดกระสุนก็จะกระหน่ำเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
