กกต.ผวาพิษเหมาเข่งต่างด้าว รื้อวุ่นสูตรคิด ส.ส. ‘7 เสือ’ ถกเคลียร์ส่งศาล รธน.วันนี้ ‘พท.’ งัดแพลนบีสู้ล้มซักฟอก
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการหารือกรณีความเห็นต่างในการที่ กกต.นำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมี และแบ่งเขตเลือกตั้งตามที่สำนักงานเสนอเรื่อง ว่าสังคมมีความไม่สบายใจ และมีความเห็นที่แตกต่างทั้งจากประชาชน พรรคการเมือง นักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกต. ทำให้การทำงานของ กกต.เกิดความเคลือบแคลงใจว่าควรจะมีแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.ได้มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งถ้าเดินหน้าต่อไปปัญหาที่จะเกิดในอนาคตมีอะไรบ้าง หรือถ้าจะมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยในขณะนี้จะทำได้หรือไม่ เพราะ กกต.อยากเห็นการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ซึ่งที่ประชุมยังไม่มีข้อสรุป โดยนัดที่จะมีการหารือในประเด็นดังกล่าวต่อในการประชุม กกต.ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ร่วมแถลงถึงการอภิปรายแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ โดย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่มีข่าวว่ามีการปิดกั้นไม่ให้อภิปราย โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมนั้นไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้น เพราะทุกคนมีหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงมีมาตรการรองรับโดยจะอภิปรายนอกสภา หลังจากสิ้นสมัยประชุมสภาวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะกำหนดวันอภิปรายนอกสภา จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาลที่ไม่ได้ชี้แจง หรือแก้ข้อกล่าวหามากกว่า
“การปิดกั้นถือเป็นการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พรรคไหน หัวหน้าพรรคใดที่อาสาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แล้วมีส่วนร่วมทำให้องค์ประชุมล่ม จะถูกบอกกล่าวกับประชาชนว่าควรอยู่ในระบอบประชาธิปไตยต่อไปหรือไม่” นพ.ชลน่านกล่าว
