‘อาคม’ ชี้ ศก.ไทยเติบโตแบบช้าๆ ส่วน “บัตรคนจน” ส่อขยับได้ใช้เงินหลัง 1 มี.ค. เหตุเช็กข้อมูลอื้อ
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ ฝ่าคลื่นเศรษฐกิจปี 2566 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง กำลังฟื้นตัวจะเป็นตัวขับช่วยเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยเกินความคาดหมาย เศรษฐกิจไทยจะไม่ฟื้นตัวแบบตัวยู (U-Shaped) หรือตัววี (V-Shaped) แต่จะเป็นลักษณะตัวเค (K-Shaped) เติบโตแบบช้าๆ แต่มั่นคงและยั่งยืน
“พลังขับเคลื่อนปีนี้คงหนีไม่พ้นภาคการท่องเที่ยว ยืนยันว่านักท่องเที่ยวทุกคนมีความหมายต่อเศรษฐกิจไทย ปัจจุบันมาตรการของรัฐ คือ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ปัจจุบันยังมีอยู่ ขณะที่มาตรการด้านการบริโภคภาครัฐได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย จึงออกมาตรการช้อปดีมีคืนสูงสุด คนละ 4 หมื่นบาท อยากให้มากกว่า แต่ต้องดูขีดความสามารถในการจัดเก็บรายได้” นายอาคมกล่าว
นายอาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 หรือบัตรคนจนว่า กระทรวงการคลังกำลังเร่งรัดในการตรวจสอบข้อมูลให้มีความถูกต้อง และชัดเจนมากที่สุด คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรายงาน และขอความเห็นชอบ เกี่ยวกับจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการต่อไป ในส่วนวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะได้เริ่มใช้บัตรคนจนหรือไม่ในส่วนนี้เป็นกำหนดการเดิมที่วางไว้ แต่ด้วยมีความล่าช้าในเรื่องของข้อมูล มีการตรวจสอบและใช้ข้อมูลของหน่วยงานจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น เมื่อมีส่วนที่ถูกกระทบเลื่อนเวลา ก็เลยไปกระทบกับกำหนดการเดิม ที่เริ่มใช้สิทธิ วันที่ 1 มีนาคม แต่คลังจะพยายามทำให้ได้ทันตามกำหนดเดิม
“เรื่องกำหนดการนั้นต้องขอไปดูนิดนึง จะทำได้เร็วแค่ไหน ต้องดูต่อไปว่ากำหนดการจะต้องปรับไหม ยืนยันว่าจะทำให้ได้เร็วที่สุด” นายอาคมกล่าว และว่า จำนวนผู้ผ่านการคัดกรองเข้าร่วมโครงการบัตรคนจนนั้น คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับจำนวนคนในโครงการปัจจุบันที่มีประมาณ 13 ล้านคน เนื่องจากคนเดิมเคยได้สิทธิ ไม่ผ่านเกณฑ์รอบใหม่ที่มีการกรองหลายชั้น อาทิ รายได้ หรือทรัพย์สินเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ดังนั้น อาจจะหลุดออกไป ขณะที่คนใหม่จะเข้ามาเติม ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนโครงการบัตรคนจน ปี 2565 ประมาณ 20 ล้านคน” นายอาคมกล่าว
