โคราชคึกคัก ชิง 16 ที่นั่ง ชพก.ปลื้มติดโพล ‘แรมโบ้’ ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ ให้ ‘ชยุต’ ชนลูกโรงแป้ง

นครราชสีมา – สนามเลือกตั้งเมืองย่าโมคึก “เสี่ยโต” พรรคชาติพัฒนากล้า ชูคนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน มั่นใจกระแสดีต่อเนื่อง ขณะที่ “แรมโบ้อีสาน” ลงระบบปาร์ตี้ลิสต์ หลีกทางให้ ส..ชยุต ลงเขตสู้ลูกชายเสี่ยโรงแป้งมันพันล้าน

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 เดินทางไปกราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือคุณย่าโม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่พี่น้องประชาชนชาวโคราช และชาวไทยเคารพนับถือกราบไหว้

นายวัชรพลกล่าวถึง กกต.มีการจัดแบ่งเขตเลือกตั้ง 16 เขตของ จ.นครราชสีมาว่า จากที่ กกต.ได้แบ่งมาทั้ง 3 แบบ โดย 3 เขต ในนามตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้าก็ได้มีการพูดคุยกับกรรมการบริหารของพรรค ซึ่งทุกคนก็ยอมรับกติกาของ กกต. เพราะเราเชื่อมั่นว่า กกต.จะต้องดูในเรื่องของความถูกต้อง เรื่องระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจำนวนประชากรในการเฉลี่ยการแบ่งเขต ซึ่งผลปรากฏออกมาไม่ได้น่าเกลียดอะไร

ส่วนจะมีปัญหาบ้าง คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อมี ส.ส.เพิ่ม 2 คน จาก 14 คน เป็น 16 คน ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการแบ่งเพิ่ม และก็มีบางส่วนอาจจะถูกตัดไป ส่วนตัวเคยเจอมามากตั้งแต่ปี 2562 แม้กระทั่งครั้งนี้ในรูปแบบ 1, 2, 3 สำหรับตนเองยังไงก็ได้ ขอให้ กกต.ประกาศเขตออกมา เพราะอย่างน้อยเราจะได้ทราบความชัดเจนว่า ในเขตไหนที่เราจะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนเราก็จะได้ออกไปพบปะกับพี่น้องประชาชน

นายวัชรพลกล่าวว่า สำหรับกระแสพรรคชาติพัฒนากล้า ล่าสุดตามโพล เรื่องนี้ก็ดีใจ ที่มีชื่อชั้นติดอยู่เหมือนกัน เพราะอย่างน้อยจากปี 2562 ที่เรามี ส.ส.ที่น้อยที่สุด โคราชเหลือเขต 2 คนเพียงคนเดียว ยอมรับว่าเหนื่อย แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเห็น คือถ้าพรรคการเมืองมีจำนวน ส.ส.มาก ก็จะทำให้เราได้มีโอกาสที่จะต่อยอดในการทำงานที่ประสบความสำเร็จเหมือนสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่เรามี ส.ส.กว่า 10 คน ทำให้ทำอะไรก็แล้วแต่ เกิดประโยชน์กับคนโคราช ถ้าเป็นทีมเดียวกัน ร่วมกันปัญหาต่างๆ ก็จะเป็นพลังในการแก้ไข

Advertisement

ส่วนสโลแกน “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” คำนี้ยังใช้ได้อยู่ และตนเชื่ออยู่ว่าคนเราอย่างน้อยบางครั้งอาจจะมีชีวิตตกต่ำบ้าง แม้กระทั่งพรรคการเมืองธรรมดามันอาจจะมีบ้างบางครั้งที่ตกต่ำลงไป แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นอุดมการณ์ของตนเหมือนกับที่ตนทำทีมกีฬา ตนอยากให้มีทีมกีฬาบ้านเรา อยากให้มีพรรคการเมืองบ้านเรา เพราะเชื่อมั่นว่าพรรคชาติพัฒนากล้าจะรู้ปัญหาของคนโคราชมากที่สุด

“ผมทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งพวก ไม่แตกแยก เราเอาแต่ปัญหาเพื่อจะเข้าไปแก้ไขมากกว่าที่จะสร้างปัญหาให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดเวลาไม่เคยรอใคร ปัญหาของพี่น้องประชาชนสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นด้วยซ้ำไป ผมเชื่อมั่นว่า หลักคิด หลักทำงานตรงนี้ พี่น้องประชาชนคงจะให้โอกาสกับพรรคชาติพัฒนากล้าของเราได้เข้ามาจำนวนมากมาย”

ส่วนกระแสที่จะมีการใช้เงินจำนวนมากมหาศาลนั้น นายวัชรพลกล่าวว่า เชื่อว่า เงินที่ซื้อเสียงไปมันไม่ได้เป็นจำนวนมากมาย ฉะนั้นเงินเหล่านี้ใช้ประโยชน์วันสองวันก็หมด แต่คนที่จะอยู่กับพี่น้องประชาชนตลอดเวลา คนที่จะทำงานกับพี่น้องประชานตลอดเวลากับปัญหาที่เขาจะไปแก้ไขให้พี่น้องประชาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเอง ไม่ว่าจะช่วงไหน จะช่วงเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง จะอยู่กับพี่น้องประชาชนเสมอ

Advertisement

การที่ทุกพรรคปักธงที่โคราชถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะโคราชมี ส.ส. 16 เขต จังหวัดใหญ่รองจาก กทม. แน่นอนที่ทุกพรรคการเมืองต้องโพกัสมาที่ จ.นครราชสีมา การแข่งขันเป็นเรื่องปกติเหมือนกีฬา สุดท้ายก็คือประชาชนจะให้โอกาสกับใคร กับพรรคไหนก็อยู่ที่พี่น้องประชาชน ผมก็อยากจะให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้พิจารณา พรรคการเมืองไม่ว่าจะใหญ่ หรือจะเล็ก ถ้ามีอุดมการณ์ มีความคิดมีแนวคิดที่ดี และทำงานเพื่อประชาชนก็น่าจะเป็นส่วนทางเลือกหนึ่งที่ให้ประชาชนได้ตัดสินใจ

ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ประธานที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แรมโบ้อีสาน แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวคู่แข่งทางการเมืองจะมีการใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อเสียงครั้งนี้ว่า คิดว่ากระแสข่าวมีหลายพรรคการเมืองที่คิดจะใช้เงิน ต้องบอกว่าวันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ เราต้องการที่จะเอานายกรัฐมนตรีที่ใจซื่อมือสะอาด เอาคนที่ทุ่มเททำงาน เอาลูกอีสาน มาทำงานให้คนอีสาน มาทำงานให้คนโคราช ดังนั้น เราไม่มีนโยบายในเรื่องของการใช้เงินซื้อเสียง เราจะขายผลงาน เราจะขายลูกอีสาน เราจะขายคนที่ทำงานติดดิน คนที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าง พล.อ.ประยุทธ์

ฉะนั้นเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ขายได้อย่างแน่นอน และเสียงของพี่น้องประชาชนคือเสียงสวรรค์ ที่จะช่วยให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยเฉพาะ 132 ที่นั่งในภาคอีสาน ที่เราก็หวังให้ได้มากที่สุด

นายเสกสกลกล่าวอีกว่า สำหรับการจัดตัวผู้สมัครใน 16 เขตนั้น เนื่องจากเขต อ.ครบุรี – อ.เสิงสาง ที่ตนเคยเป็น ส.ส. ขณะนี้เรื่องเขตมันยังไม่ชัดเจน กกต.ก็ยังไม่ประกาศให้ชัดเจนว่าเขต 1-16 มีอำเภออะไรอย่างไรบ้าง ขอให้รอความชัดเจนในเรื่องนี้ก่อน แต่ส่วนตัวต้องไปปราศรัยหาเสียงช่วยในหลายพื้นที่ คงไม่มีเวลาที่จะลงปักหลักหาเสียงในเขตพื้นที่ของตัวตนเอง ซึ่งในเขต ครบุรี-เสิงสาง ตนก็มีน้องชายจะลงสมัครก็ได้

แต่ว่าตนเป็นคนไม่ยึดติดกับเรื่องของนามสกุล เรื่องของความเป็นพี่เป็นน้อง ถึงแม้ว่าตนจะเคยเป็น ส.ส.ในเขต ครบุรี-เสิงสาง แต่เมื่อทำโพลแล้วระหว่างน้องตนกับ ส.จ. คนปัจจุบัน คือ ส.จ.ชยุต พงศ์ธนทรัพย์ โพล ส.จ.ดีกว่า ก็ต้องเลือกเอาคนที่ดีที่สุดก็คือ ส.จ.ชยุต เป็นตัวแทนในการลงแทนสมัครแทน น้องของตนอาจจะไปอยู่ในตำแหน่งอื่นๆ ไป ส่วนตนลงในระบบบัญชีรายชื่อพรรค

ส่วนการต่อสู้กับคู่แข่งขันอย่างโรงแป้งเอี่ยมเฮง ที่ส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนลงเขตนี้นั้น ตนจะสู้ด้วยความดี ด้วยผลงานของนายกรัฐมนตรี สู้ด้วยความรู้ความสามารถ เพราะ ส.จ.ในเขตนี้ก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำผลงานมาตลอด และได้รับความชื่นชมจากพี่น้องประชาชน ถ้าพรรคการเมืองไหนจะใช้เงินเพื่อการซื้อเสียง ตนไม่ไปกล่าวหาว่า ใครจะใช้หรือไม่ใช้ แต่ถ้าใครใช้ก็เป็นหน้าที่ของ กกต.จะดำเนินการตามกฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการทันที่ ถูกตัดสิทธิ ถูกใบเหลือง ใบแดงก็ว่ากันหลังการเลือกตั้ง

“แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็อยากบอกพี่น้องประชาชนว่า การจะเลือก ส.ส.มาเป็นผู้แทน ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนก็ต้องเลือกผู้แทนที่ติดดิน ผู้แทนที่ขยัน มีคุณภาพ และสามารถที่จะเชื่อมงานต่อกับนายกรัฐมนตรี กับรัฐบาลได้ในอนาคต นั่นก็คือเราก็ต้องเลือกผู้แทนที่สังกัดพรรคเดียวกับนายกฯลุงตู่ ก็คือพรรครวมไทยสร้างชาติ” นายเสกสกลกล่าว

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image