“วิษณุ” ดอดพบ ”บิ๊กตู่” บอกแค่หารือภารกิจช่วงท้ายรัฐบาล ยัน ”นายกฯ” ยังไม่ส่งสัญญาณยุบสภา ย้ำฤกษ์ยุบสภาไม่สำคัญเท่าวันเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที
จากนั้น เวลา 14.00 น. นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้ขอเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือว่าปฏิทินการทำงานหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้หารือถึงวันยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุส่ายหัว พร้อมบอกว่าไม่กล้าถาม เพราะเป็นเรื่องของนายกฯ แต่มีราชการหลายอย่างที่ต้องการให้นายกฯรับทราบ เพราะหากมีการยุบสภาขึ้นมา มันจะมีอะไรที่ทำได้ ทำไม่ได้ เมื่อถามว่ามีอะไรที่จะต้องทำก่อนยุบสภาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี นายกฯเพียงบอกให้ตนไปเตรียมและอธิบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ยุบสภามาก่อน ซึ่งการยุบสภาครั้งสุดท้ายเมื่อ 8 ปีผ่านมาแล้ว และรัฐธรรมนูญได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นายกฯจึงต้องการทราบว่าอะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ ซึ่งในการหารือครั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ก็อยู่ด้วย
“เป็นการอธิบายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ที่กำหนดว่ารัฐบาลรักษาการจะทำอะไรได้หรือไม่ได้ ในกรณีที่จะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ โดยนายกฯสงสัยว่าสามารถตั้งคณะกรรมการต่างๆ ได้หรือไม่ ซึ่งสามารถตั้งเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 169 จะห้ามเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและพนักงาน แต่ไม่ได้พูดถึงคณะกรรมการ ซึ่งถือเป็นการซักซ้อมความเข้าใจกัน โดยเรื่องเหล่านี้จะเริ่มนับหนึ่งเมื่อนายกฯยุบสภา หรืออยู่ครบวาระ ซึ่งในกรณีที่อยู่ครบวาระ ก็จะเริ่มนับตั้งแต่หลังเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นไป” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า ตุ๊กตาที่ตั้งไว้จะยุบเร็วหรือช้า นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งตุ๊กตา เพราะอยู่ที่นายกฯ ไม่ได้สนใจว่าจะยุบเมื่อไหร่ แต่รู้ว่ามีผลกระทบ เพราะถึงอย่างไรอีกเดือนเศษ รัฐสภาก็ต้องยุบสภาอยู่แล้ว จะเตรียมการอย่างไรก็เตรียมการไว้ เมื่อถามว่ากระบวนยุบสภาจะใช้เวลาเท่าไหร่ นายวิษณุกล่าวว่า ในชั้นรัฐบาลวันเดียวเสร็จ ส่วนการทูลเกล้าฯก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะเรื่องยุบสภาไม่ต้องเข้า ครม. ทั้งนี้การยุบสภาจะมีผลโดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ต่อให้นายกฯพูดอย่างไรก็ไม่มีผล ต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น เช่นสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยุบสภาเสร็จไม่มีใครรู้ วันรุ่งขึ้นประชุม ครม.มีการต่อว่าทำไมจะประชุม ครม.อยู่แล้วจึงไม่ปรึกษากันบ้าง ทำให้ พล.อ.เปรมต้องเดินขอโทษ ครม.รอบห้องว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ไม่สามารถปรึกษาใครได้ และตามกฎหมายก็เป็นอำนาจของนายกฯ
ถามว่า นายกฯจะส่งสัญญาณก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะยุบสภา นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่นายกฯ ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการประกาศให้ประชาชนรู้ก่อน ทำไมครั้งนี้ไม่มีการประกาศ นายวิษณุกล่าวว่า อันนั้นมีแรงกดดันมา เหมือนกับยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย ก็อยู่มาจนสภาครบ 4 หนแล้ว ท่านก็มีการยุบแต่ก็มีการบอกล่วงหน้า แต่วันเวลาไม่มีใครบอกใครได้ แต่ขณะนี้คลื่นลมก็มีอยู่แล้วว่าอาจจะยุบสภาแต่จะมาหาวันเวลากัน ก็เป็นเรื่องของนายกฯ
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเนติบริกร จะแนะนำวันยุบสภาให้นายกฯหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “มันไม่ต้องใช้เนติบริกร ต้องใช้โหร” เมื่อถามว่าเดือนมีนาคมฤกษ์ดีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่เคยดู ตนนึกไม่ออกว่ายุบสภาจะไปดูฤกษ์ทำไม เพราะยุบไปแล้ว เลือกตั้งเมื่อไหร่อยู่ที่ กกต.จะดูฤกษ์ควรไปดูวันเลือกตั้งดีกว่า เพราะจะรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย วันยุบสภา ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดขึ้นมาได้ เมื่อถามว่า วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันดีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มันเป็นวันที่จำเป็น เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ และตามกรอบของการครบวาระของรัฐบาลที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่ง กกต.ก็ไม่ได้ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์น้อยกว่านั้นนักการเมืองก็จะมีเวลาหาเสียงน้อยลง ดังนั้นวันเลือกตั้งถูกกำหนดด้วยกรอบเวลา ไม่เกี่ยวกับเรื่องโหร
ถามว่าวันที่ 21 มีนาคม ถือว่าเป็นฤกษ์ดีหรือไม่ เพราะเป็นเลขที่ตรงกับวันคล้ายวันเกิดนายกฯ (21 มีนาคม) และตรงกับวันที่สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (21 มกราคม) นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ตนนึกว่านายกฯชอบเลข 22 เพราะยึดอำนาจวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
