นิกร ห่วงแก้กฎยุบพรรคทำผิดหลักการ ชินวรณ์ ห่วงคนมอง กกต.แง่ร้าย
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาตั้งข้อสังเกตกรณี กกต.ปรับแก้ระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 เพื่อให้การยุบพรรครวดเร็วขึ้น ว่า เรื่องนี้ต้องทวนไปถึงหลักการก่อน การยุบพรรคไม่ควรให้มีด้วยซ้ำ เพราะพรรคไม่ได้เป็นของใคร ก่อนหน้านี้ พรรคชาติไทยเคยถูกยุบ ภายหลังตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด แต่ออกใบแดงแล้ว ซึ่งสมาชิกจำนวนมากของพรรคที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรก็โดนกระทบไปด้วย
ดังนั้น การยุบพรรค จริงๆ แล้วไม่ควรมี แต่เมื่อมีบัญญัติในรัฐธรรมนูญก็ต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ ประเด็นการเร่งรัดตรงนี้ ในฐานะนายทะเบียนเป็นผู้ดูแลพรรคการเมือง มาเร่งออกกฎหมายให้ง่ายในการยุบมันผิดหลักการ อาจจะมองเป็นการบริหารจัดการพรรคให้รวดเร็วขึ้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมควรออกจากระเบียบให้ทำได้ยากขึ้น เพื่อป้องกันพรรคการเมือง ซึ่งเป็นของคนหมู่มากถูกยุบ แม้ว่าจะรุนแรง แต่ควรมีกระบวนการหลายชั้นกลั่นกรอง
“พรรคชาติไทยถูกยุบ เราต่อสู้หลายชั้น รอไปยื่นต่อศาล ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ เมื่อตัดสินออกมาแล้วต้องยืนตามนั้น เพราะฉะนั้นในชั้นต้น เราจะคิดว่าแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ ในการทำเรื่องขั้นต้น ต้องมีเจตนาที่จะช่วยประคองพรรคการเมืองเอาไว้ ไม่ใช่เป็นเจตนาอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะทำให้พรรคถูกยุบ เจตนารมณ์ในการออกระเบียบ เพื่อทำให้พรรคถูกยุบเร็วขึ้น มันไม่ถูก” นายนิกรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเทียบกับกฎหมายเก่าแบบใดดีกว่ากัน จะทำให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นหรือไม่นั้น นายนิกรกล่าวว่า เจตนารมณ์การยุบพรรคให้ยากขึ้น แต่รัฐธรรมนูญที่ออกมา จริงๆ ไม่ควรจะให้ยุบพรรคเลย เพราะถือว่าพรรคเป็นของคนทั่วไป และสมาชิก ไม่ใช่เป็นของกรรมการที่ไปทำผิดพลาด เจตนารมณ์ของการยุบพรรคไม่ควรมีเลย หากมีต้องทำให้ยาก อย่างที่บอกว่า กกต.เป็นผู้ดูแลพรรคการเมือง เป็นนายทะเบียน ควรจะอยู่ข้างพรรคการเมือง ไม่ใช่เป็นหน่วยที่ติดตาม ตรวจสอบ เป้าหมายตรงนี้เห็นว่า อาจจะมีการอ้างว่าเพื่อให้เกิดความรวดเร็วขึ้น เป็นระบบการบริหาร ซึ่งเป็นคนละประเด็น นี่ไม่ใช่การบริหารจัดการ แต่เป็นการดูแลพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสถาบันของประชาชนโดยทั่วไป การที่คณะกรรมการบริหารทำผิดพลาด เวลากระทบมันกระทบต่อสมาชิกพรรคทั้งหมด ฉะนั้น พรรคการเมืองไม่ได้เป็นสิทธิ์ของคณะกรรมการ เป็นการทำผิดพลาดของกรรมการเอง
ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระ การจะออกระเบียบอะไร เป็นอำนาจของ กกต.ที่จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมายเหมือนกัน เพราะ กกต.เป็นผู้รักษาการกฎหมาย ไม่อยากให้ใครมองในแง่ร้ายว่า กกต.ออกระเบียบมาแล้วจะมีผลต่อใครอย่างไร ซึ่งคิดว่า ไม่ว่าในกรณีการสรรหาสมาชิก กรณีแบ่งเขต หรือแม้แต่กรณีใหม่อย่างการยุบพรรคการเมือง ที่ไม่ดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย คิดว่า กกต.ผ่านประสบการณ์ ที่จะจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมอยู่เเล้ว ที่ผ่านมาตนเห็นด้วยกับ กกต. ยืนยันอยู่เสมอว่า ตนสนับสนุนการจัดบริหารจัดการเลือกตั้งของ กกต. ที่ผ่านมายังไม่เห็นอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่เป็นห่วงมีอย่างเดียว คือ กกต.จะควบคุมการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมอย่างไร
เมื่อถามว่า หากเทียบกับกฎหมายเก่าแบบใดดีกว่ากัน จะทำให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นหรือไม่นั้น นายชินวรณ์กล่าวว่า ขณะนี้ประกาศ และระเบียบของ กกต.ออกมาตามกฎหมาย พ.ร.ป.การเลือกตั้ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่าทาง กกต.ก็รับฟังความคิดเห็น และเจตนารมณ์ที่มีการอภิปรายกันในคณะกรรมาธิการ
อย่างในกรณีการยุบพรรค ก็เข้าใจได้ชัดเจนว่า กกต.จะต้องออกระเบียบขึ้นมาให้สอดรับกับ พ.ร.ป.ที่ออกมา และสถานการณ์ทางการเมืองด้วย คราวที่แล้วที่เป็นสัดส่วนผสม มีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครจำนวนมาก บางเขตมีอยู่หลายสิบพรรค แต่คราวต่อไป เข้าใจว่าพรรคการเมืองที่จะส่งเข้าแข่งขันในแต่ละเขต ไม่น่าจะเกิน 12 พรรค ฉะนั้นพรรคอื่นๆ ที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือตาม พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ตนคิดว่าถ้ามีเหตุผล และหลักฐานที่ชัดเจน การที่ กกต.ยุบพรรคเร็วขึ้นก็ดีเหมือนกัน จะทำให้ประชาชนไม่สับสน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นิกร โอด ส.ว.งดประชุม ยืดตั้ง กมธ.ร่วม หวั่นทำประชามติไม่ตรงกับวันเลือกตั้ง อบจ.
- จุรินทร์ เห็นด้วย พรรคร่วม ถอยจริยธรรม ชี้เดินหน้าต่อ เหมือนกอดระเบิดไว้กับตัว
- นิกร หวัง 2 สภาได้ข้อยุติ แก้กม.ประชามติ เห็นด้วยภท. มองแก้รธน.ไม่ด่วน แต่ก็ไม่มีเหตุต้องดึง
- ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศกกต. ให้ พรรคสามัญชน สิ้นสภาพเป็นพรรคการเมือง