‘พีระพันธุ์’ เปรย อาจย้ายที่ทำการพรรคหาก รทสช.โตขึ้น โต้ ‘รังสิมันต์’ ปม ส.ว.ทรงเอ ลั่น หากยังพาดพิงเล็งฝ่าย กม.จัดการ
เมื่อเวลา 14.24 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์รับเรื่องราวเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นางอันน์เกตุ ลีลาไพบูลย์ นายกสมาคมประมงจังหวัดปัตตานี ยื่นหนังสือให้กำลังใจนายกฯ โดยนายพีระพันธุ์กล่าวว่า สมาคมประมงมาให้กำลังใจ เนื่องจากเข้าร่วมโครงการรับซื้อเรือประมง ที่อยู่ในความดูแลของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตั้งแต่ปี 2562 แต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย จึงมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อตน จึงตรวจสอบและนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้รับการอนุมัติงบประมาณในที่สุด
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดมอตโตใหม่ว่า ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ 3 คำนี้ รทสช.จะนำไปใช้สำหรับการหาเสียงหรือไม่ นายพีระพันธ์กล่าวว่า อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ผลงานพรรค เพราะหลายเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำมานานแล้ว จะทำต่อเนื่องและต่อไปอีกให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อถามว่า รทสช.จะเปิดนโยบายเมื่อไหร่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า คาดว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงเปิดตัวผู้สมัครทั้งหมดด้วย ทุกอย่างจะ 100 เปอร์เซ็นต์ปลายเดือนนี้แน่นอน เมื่อถามต่อว่า การปราศรัยเวทีใหญ่ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้เป็นคนจัด จึงไม่ทราบรายละเอียดของงาน และขณะนี้ก็ปฏิบัติหน้าที่ในราชการ ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองเยอะ
เมื่อถามว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยังคงออกมาโจมตีประเด็นที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่เป็นไร พรรคไม่เกี่ยว ไม่มีใครเกี่ยว ตามที่พรรคได้ชี้แจงไป เมื่อถามต่อว่า หากยังมีการพาดพิงเช่นนี้อยู่ จะมีการดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ให้ฝ่ายกฎหมายดูแลอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับพรรค เชื่อว่าประชาชนทั่วไปรับรู้
“เราจะไปเช่าทรัพย์สินใคร จะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาทำอะไร ถึงเขาจะทำผิดหรือถูกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา มันจะเกี่ยวอะไรกับเรา ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปร่วมกระทำความผิดสิ มันถึงผิดด้วย”
เมื่อถามต่อว่า นายรังสิมันต์พยายามเชื่อมโยงว่ารู้จักกับผู้ให้เช่า นายพีระพันธุ์กล่าวว่า การเมืองเขาก็ทำอย่างนั้นเป็นธรรมดา ก็เห็นอยู่ การเมืองเขาก็ทำได้แค่นี้ มันจะมีเหตุผลหรือไม่มี ตนเชื่อว่าประชาชนทั่วไปมีวิจารณญาณ เพราะเรื่องการเช่าทรัพย์สินนั้น ตนเชื่อว่าประชาชนทั่วไปก็เช่าทรัพย์สินอยู่แล้ว แล้วเมื่อไปเช่าทรัพย์สินใคร แต่เจ้าของมีความผิด แล้วต้องผิดไปด้วย มันคงไม่เกิดการเช่าทรัพย์สินขึ้นในประเทศ ซึ่งมันไม่ใช่ข้อเท็จจริงตรงนี้ เขาก็รู้กันทั่วไป
เมื่อถามว่า ได้ระบุในสัญญาว่า จะเช่าตึกดังกล่าวเป็นระยะเวลากี่ปี นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เช่าเป็นแบบปีต่อปี
เมื่อถามต่อว่า หากครบสัญญา มีโอกาสที่จะย้ายที่ทำการพรรคหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า “ก็แล้วแต่ หากพรรคใหญ่ขึ้นกว่านี้ ก็มีโอกาสย้ายที่ทำการพรรคที่ใหญ่กว่า”
