บทนำ : ทางออกประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดเลือกตั้งทั่วไป ชัดเจนขึ้นอีกระดับ โดยระบุว่า ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไทม์ไลน์การเลือกตั้ง และการเป็นรัฐบาลรักษาการ ทำอะไรได้บ้าง อะไรไม่ได้บ้าง และนายกฯได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ากำหนดการการยุบสภาจะมีภายในเดือนมีนาคม 2566 ส่วนกรอบเวลาเลือกตั้งเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศไว้ คือ 7 พฤษภาคม 2566 เพื่อให้เวลาภาคส่วนต่างๆ ได้ดำเนินการให้การเลือกตั้งเกิดความเรียบร้อยที่สุด
นายกรัฐมนตรียังตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า จะระบุได้เลยหรือไม่ว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นวันที่ 7 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบว่า เป็นไปตามที่ กกต.กำหนดมาแล้ว วันนี้ต้องให้เวลา กกต.ทำกฎหมาย ทำกรอบกติกาให้เรียบร้อย เขาขอเวลามาถึงเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับวันยุบสภาที่แน่นอนนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบทำนองว่า ประมาณต้นเดือนมีนาคม เพื่อให้เวลาสอดคล้องกับเดือนพฤษภาคม ให้ ส.ส.มีเวลาหายอกหายใจ ซึ่งคงหมายถึงเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในสนามเลือกตั้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเหน็ดเหนื่อยของนักการเมือง และการย้ายพรรค เพื่อให้มีคุณสมบัติผู้สมัครครบ
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันเรื่องยุบสภา และวันจัดเลือกตั้งทั่วไป ชัดเจนขึ้นอีกระดับ แม้ไม่ถึงขั้นกำหนดล็อกวันแน่นอนแล้วก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องดี ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าจะสามารถคาดการณ์ปฏิทินการเมืองได้ เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ 4 ปี วันที่ 23 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเท่ากับว่า อย่างไรเสียก็ย่อมต้องจัดเลือกตั้งทั่วไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในระยะเวลาอันใกล้นี้อยู่แล้ว อีกประการ เมื่อล่วงเลยเส้นตายการย้ายพรรค กรณีสภาครบเทอม ในขณะที่พรรคการเมืองบางพรรคยังรอ ส.ส.ย้ายเข้าร่วมสังกัด เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง วันเวลาที่เหลืออยู่คือมีทางเดียว กล่าวคือต้องยุบสภา แต่ก็ไม่รู้เป็นวันใด อำนาจตัดสินใจเป็นของนายกฯ เมื่อส่งสัญญาณ ทำให้ลดความคลุมเครือแทบหมดสิ้น
การเลือกตั้ง เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย ในอันที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ จะแสดงเจตจำนงเลือกนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลเข้ามาใช้อำนาจแทนในการทำหน้าที่ บริหารพัฒนาบ้านเมือง เป็นกระบวนการแก้ไขความขัดแย้ง ที่ได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศในแนวทางของสันติวิธี ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาและทางออกในระบบที่มีการออกแบบไว้ เป็นหลักประกันมิให้เกิดทางตัน บ้านเมืองตกอยู่ในวังวนแตกแยก แบ่งฝักฝ่ายรุนแรงมาร่วม 20 ปี มีการใช้วิธีพิเศษเข้าแก้ปัญหา นับจาก 2548 ถึงปัจจุบัน 2 ครั้ง แต่ก็แก้ไม่ได้ ปัจจุบันยังดำรงคงอยู่ การใช้กระบวนการเลือกตั้งเป็นทางออกแก้ปัญหาขัดแย้ง จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องยืนยันหลักการ ความถูกต้องนี้ ไม่มีทางลัดพิเศษ วิธีอื่นใดที่จะแก้ไขปัญหาขัดแย้ง เห็นต่าง ได้ดีที่สุด นอกจากเลือกตั้ง ยอมรับเสียงสวรรค์ การตัดสินของประชาชน เจ้าของอำนาจแท้จริง
