“ชวน” เชื่อ “มาร์ค” มีสำนึก ปชป.ให้เป็น หน.-รมต. นายกฯ ช่วยหาเสียง ในยามพรรคความนิยมลด คนออกกันมาก ยิ่งต้องมาชดเชย เป็นหน้าที่ ไม่ต้องมาขอร้องอะไรกัน
เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์รายการ ”คนในข่าว” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 ถึงสถานการณ์ในพรรค ปชป.ที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค เรียกร้องให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค มาลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และช่วยหาเสียงเพื่อกอบกู้พรรคว่า หน้าที่เหล่านี้เป็นหน้าที่ ไม่ต้องมาขอร้องอะไรกัน สำหรับคนที่อยู่ในพรรคมาตลอด ได้อะไรจากพรรค ได้เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายกฯเป็นรัฐมนตรีมาตลอด เป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ปัญหามันอยู่แต่เพียงว่า ยามนี้พรรคอยู่ในฐานะที่ความนิยมลดน้อยลงไป หลายคนอาจจะหวั่นไหวไปกับสถานการณ์ ก็อาจจะสู้ไม่ได้ ไม่สู้ มีอันเป็นไป แต่สำหรับพวกตนไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่ต้องมาขอ ไม่ต้องมาชวน
“สำหรับผมไม่ต้องมาขอ ผมทำหน้าที่อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ด้วยซ้ำไป ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะต้องมาขอ แต่เป็นหน้าที่ที่คนของพรรคแท้ๆ ได้ประโยชน์จากพรรค ในฐานะปุถุชนคนธรรมดา มันต้องมีสำนึกรับผิดชอบบ้าง เพราะฉะนั้นคนอย่างผม หรือคนอย่างท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหน้าพรรค หรือคุณอภิสิทธิ์ ผมเชื่อว่ามีสำนึกอย่างนี้ ยกเว้นบางคนที่เขาอาจจะเพื่อความอยู่รอด เมื่อหัวหน้าพรรคความนิยมไม่โดดเด่นเท่าที่ควรก็หนีออกไปก็มี แต่ก็เข้าใจไม่ไปวิพากษ์วิจาณ์อะไรเขา แต่สำหรับคนประเภทหนึ่ง คือประเภทแบบบ้านนอก แบบเฉยๆ แบบพวกผม มีลักษณะแบบตายก็ตายด้วยกัน เป็นก็เป็นด้วยกัน ไม่ใช่อยู่ด้วยกันตอนสบายๆ ยามยากก็หนี ไม่ใช่คนประเภทนั้น ทั้งที่มีคนประเภทนั้นอยู่ สำหรับพวกผมแล้วผมเรียนตรงๆ ไม่ว่าผม คุณอภิสิทธิ์ หรือท่านบัญญัติ และอีกหลายคนก็เป็นประเภทที่ต้องทำหน้าที่ตัวเอง ยิ่งในยามที่คนออกกันมากก็ยิ่งชดเชย ยิ่งต้องทำหน้าที่ให้เขา เพียงแต่เราทำได้แค่ไหนก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างผมทำได้แค่ช่วยหาเสียงตามแบบของผม ไปช่วยปราศรัย เพราะเราไม่ใช่นักการเมืองแบบใช้ทุนใช้เงิน เรามาในระบบการเมืองสุจิรต เราก็ทำในแบบของเรา ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง” นายชวนกล่าว
นายชวนกล่าวต่อว่า ต้องบอกประชาชนว่าให้เลือก ปชป.ถ้าเขตเลือกตั้งเขาไปเลือกคนอื่น แต่อย่างน้อยก็ต้องเลือกพรรค เพื่อพรรคจะได้ทำหน้าที่ เพราะพรรคอยู่มาเป็นสิบๆ ปี อยู่ด้วยความซื่อตรง ด้วยความสุจริตและมีผลงาน เพียงแต่ไม่หวือหวาเท่านั้น ทุกเรื่องขณะนี้ต้องยอมรับว่าที่พรรคต่างๆ เขาเกทับกันอยู่ว่าให้เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 หรือ 5,000 บาทก็ดี ถือเป็นงานของ ปชป.ทำมา และต้องยอมรับว่ารัฐบาลทุกชุดเขาดีตรงที่ว่าเขาไม่กล้าเลิก แม้เขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เขาไม่เห็นด้วยกับเบี้ยผู้สูงอายุ แต่ก็ไม่กล้ายกเลิก แต่เขาไม่ให้เพิ่มเลย 5 ปี แต่วันนี้พรรคเขาก็เห็นความสำคัญแล้ว จึงจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ แสดงว่าสิ่งที่ ปชป.ทำไว้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง รวมถึงเงินกองทุนกู้ยืม (กยศ.) ที่บางพรรคก็มีวิธีการหาเสียงที่ต่างกันด้วย
