เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มีการเผยแพร่ แถลงการณ์เรียกร้องให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่อนุมัติพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 โดยมี 19 หน่วยงาน/องค์กร ร่วมลงนามท้ายแถลงการณ์
เนื้อหาดังนี้
ตามที่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ก่อนกฎหมายฉบับนี้จะมีผลวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เพียง 4 วัน
สาระสำคัญของ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 และมาตรา 25 ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบันทึกภาพและเสียงตลอดเวลาที่เข้าตรวจค้น จับกุม ควบคุมตัวและขัง พร้อมกับแจ้งให้ฝ่ายปกครอง (อำเภอ) และอัยการทราบ ทำบันทึกการจับกุม สภาพร่างกายและจิตใจของผู้ถูกจับและควบคุมตัวโดยละเอียดเพื่อให้ญาติและทนายความสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการซ้อมทรมาน การอุ้มหาย อุ้มฆ่า และการกระทำทุจริตประพฤติมิชอบโดยเจ้าหน้าที่ โดย ครม.มีมติให้ชะลอการบังคับใช้ออกไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2566 ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้เหตุผลว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติการตามกฎหมายแจ้งว่า “ยังมีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับความพร้อมด้านงบประมาณการจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์และขั้นตอนการปฏิบัติงานในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนซับซ้อนและมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชนโดยตรง หากมีการใช้บังคับกฎหมายขณะที่หน่วยงานยังไม่มีความพร้อมอาจเกิดผลร้ายต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง” นั้น
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชน ดังรายนามท้ายแถลงการณ์นี้ เห็นว่า การตราพระราชกำหนดดังกล่าวของ ครม.น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เนื่องจากเหตุในการออกพระราชกำหนดตามมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญนั้นต้องเป็น “กรณีฉุกเฉิน มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้” แต่ร่าง พ.ร.ก.ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวมิได้เป็นกรณีฉุกเฉิน มีความจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะ ผบ.ตร.เคยออกคำสั่งที่ 178/2564 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กล้องติดตัว บันทึกภาพและเสียง ขณะทำการตรวจค้นจับกุมและการสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2564 แล้ว ทั้งการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไปก็มิใช่เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 172 แห่งรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นเหตุผลเพียงพอที่ ครม.จะตราพระราชกำหนดเพื่อเลื่อนการบังคับใช้ออกไป
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เป็นกฎหมายที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันประชาชนจากอาชญากรรมที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ การกระทำทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการบังคับให้บุคคลสูญหาย การที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไปแม้เป็นเพียงบางมาตรา แต่เป็นมาตราที่กำหนดมาตรการที่สำคัญในการปกป้องคุ้มครองประชาชนจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ โดยการตราพระราชกำหนดที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในครั้งนี้นั้น แสดงให้เห็นถึงความ “ไม่เต็มใจ” (unwilling) ของรัฐบาลในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศในเวทีนานาชาติอย่างยิ่ง
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชนดังรายนามท้ายแถลงการณ์นี้ จึงขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรค และสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาไม่อนุมัติพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ
ด้วยความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของมนุษย์ สิทธิมนุษยชนและระบอบประชาธิปไตย
แถลง ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566
- สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)
- มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CRCF)
- สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)
- มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)
- กลุ่มนอนไบนารีแห่งประเทศไทย
- ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR)
- กลุ่มด้วยใจ
- คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)
- เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ JASAD
- เครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี HAP
- ศูนย์ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนภาคอีสาน (ศสอ.)
- มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ
- มูลนิธิสายเด็ก 1387
- มูลนิธิสถาบันเพื่อการรวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี
- มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ (FAR)
- คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35
- มูลนิธิส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (pro-rights)
- มูลนิธิรักษ์เด็ก
- มูลนิธิเพื่อยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก