‘ตะวัน-แบม’ จ่อขอขยับปักหลัก ‘ในรั้วศาลฎีกา’ แพทย์ชี้ควรกลับรพ.ทันที เผยโดนขู่ให้ระวังตัว

ภาพจาก อินทรีย์แดง นิวส์

‘ทนายด่าง’ แถลงอาการ ‘ตะวันแบม’ ไม่สามารถรับน้ำเกลือได้ แพทย์ชี้ ควรกลับรพ.ทันที ทีมงานโดนโทรขู่ให้ระวังตัว จ่อยื่นหนังสือขอย้ายที่ปักหลักอดอาหารพรุ่งนี้เข้าในรั้วศาลฎีกา

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนิน เขตพระนคร กรุงเทพฯ สืบเนื่องกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ย้ายออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไปปักหลักอดอาหารและน้ำบริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง เรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักโทษการเมืองอีก 3 คนที่เหลือ หลังจากอดอาหารประท้วงมาเป็นเวลา 39 วัน และปักหลักหน้าศาลฎีกามาเป็นเวลา 3 วัน

เมื่อเวลา 16.00 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงข่าวชี้แจงการตัดสินใจยกระดับของตะวันและแบม ว่า วันนี้ทั้งสองคนไม่สามารถมาแถลงกับสื่อมวลชนได้เอง และแจ้งว่าใครที่อยากมาให้กำลังใจขอให้ทำการลงชื่อหรือมอบดอกไม้ไว้ หัวข้อที่แถลงในวันนี้ประเด็นแรกคืออาการของทั้งสองคน โดยข้อจำกัดของการมาปักหลักที่หน้าศาลฎีกาคือจำเป็นต้องขอยืมเครื่องปรับอากาศชั่วคราวมาใช้และไม่สามารถให้น้ำเกลือได้ เนื่องจากเดิมทั้งสองอดอาหารมาหลายวันแต่อยู่ได้เพราะน้ำเกลือที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯให้ แต่ในสถานที่นี้แพทย์หลายๆที่ให้ความเห็นว่าถ้ามีการให้น้ำเกลืออาจจะมีการติดเชื้อในแผลหรือกระแสเลือดแน่นอน เพราะก่อนที่ทั้งสองจะออกมาจากรพ.แขนทั้งสองข้างที่ให้น้ำเกลือมีอาการอักเสบที่ปลายหลอดเลือดดำ

วันนี้อาการของทั้งสองยังมีอาการความดันต่ำเล็กน้อย มีอาการหน้ามืด อ่อนเพลีย นอนหลับได้ไม่มากเพราะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและค่าเลือดยังไม่ดีเท่าที่ควร ทางแพทย์ให้ความเห็นว่าควรจะส่งตัวกลับรพ.ทันที และแพทย์ยังไม่อยากให้รับประทานทานอาหารเนื่องจากร่างกายอยู่ในสภาวะพักฟื้นที่ไม่สามารถรับอาหารได้ ค่าเลือดมีแนวโน้มสูงที่จะเปลี่ยนเป็นกรดเกิดจากการที่ร่างกายย่อยสลายไขมันตัวเองออกมาใช้

Advertisement

“น้องทั้งสองคนยืนยันว่าจะอดอาหารต่อไป เขารับรู้เรื่องที่เมื่อเช้าศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องทั้งการเมือง 2 คนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจที่เขาจะยังอดอาหารที่นี่ต่อไป โดยคุณพ่อคุณแม่และผมไม่มีใครอยากให้เขามาอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครอยากสูญเสียเพื่อน ไม่มีใครอยากสูญเสียลูกความ ไม่มีใครอยากสูญเสียน้อง แต่ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของเขาที่ยังมีสติสัมปชัญญะที่ตอบเราได้ว่าเขาไม่เลือกที่จะกลับไป เขาขออยู่ตรงนี้ มีคนพูดกันเยอะว่าศาลก็ให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทางการเมืองออกมาพอสมควร เท่าที่ฟังข้อสรุปของน้องก็คือ สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ให้ปล่อยคน ถึงแม้จะปล่อยคนทั้งหมดก็ดี แต่สิ่งที่เขาต้องการคือหลักการที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาคดีอาญายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด เขาต้องการพิสูจน์หลักการนี้เพื่อที่จะให้ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมยอมรับ เพื่อจะได้ไม่มีลูกหลานใครต้องโดนแบบนี้” นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งสองบอกว่าพรุ่งนี้เช้า (27 ก.พ.) จะทำหนังสือขออนุญาตประธานศาลฎีกาเข้าไปปักหลักอดอาหารที่หน้าอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่ว่างและไม่รบกวนการทำงานของใคร เหตุผลแรกคือโดยปกติการทำงานตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปผู้คนจะเข้าศาลฎีกาจะต้องใช้ประตูด้านหน้า การที่เรามาปักหลักแม้จะไม่กีดขวางการจราจรแต่ก็มีผู้คนที่มาใช้สถานที่ศาลฎีกาไม่ได้รับความสะดวก เหตุผลที่สองคือ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาตนได้รับโทรศัพท์มาบอกให้ทั้งสองคนระวังตัวเพราะอยู่ตรงนี้อันตราย ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคำเตือนหรือคำขู่ เมื่อคืนมีคนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาและขว้างสิ่งของใส่เต๊นท์

เหตุผลสุดท้ายคือทั้งสองบอกว่าที่ตัดสินใจจะไปปักหลักอยู่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เพราะตรงนั้นเป็นอนุสรณ์แห่งการต่อสู้ของเยาวชนที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยกระบวนการยุติธรรมจากอำนาจเผด็จการเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2515

Advertisement

“พรุ่งนี้ตัวเขาเองถ้าไปไหวเขาจะไปยื่นหนังสือต่อประธานศาลฎีกา เพื่อขออนุญาตเข้าไปปักหลักหน้าอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ด้วยเหตุผล 3 ข้อที่บอก” นายกฤษฎางค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เดินทางไปมอบช่อดอกไม้และให้กำลังใจนางกาหลง ตัวตุลานนท์ แม่ของน.ส.ทานตะวันด้วย

ภาพจาก อินทรีย์แดง นิวส์
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image