กกต.ซุ่มทำ ‘แพลนบี’ แบ่ง ‘8 จว.’ สู้คดีพลิก
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ได้วางไทม์ไลน์ไว้ในเบื้องต้นคือภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 จะพิจารณาครบทั้ง 400 เขต
โดยสัปดาห์นี้ กกต.จะยังพิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งต่อไป ส่วนเรื่องระบบการรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งขอยืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.มิได้ยกเลิกการรายงานผลการนับคะแนน แต่กำลังปรับปรุงให้มีความแม่นยำและรวดเร็ว บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องกว่าครั้งที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้จะมีระบบรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ หรือที่เรียกว่า ECT Report ซึ่งเป็นระบบรายงานผลคะแนนในทันทีเมื่อนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเสร็จสิ้น โดยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จะส่งรายงานผลการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งและแบบขีดคะแนนให้ศูนย์รวมคะแนนในแต่ละอำเภอเป็นผู้กรอกผลคะแนนให้แทน จึงช่วยผ่อนคลายภาระของ กปน.ที่ปฏิบัติงานมาตลอดทั้งวัน และช่วยลดข้อผิดพลาดจากระบบเดิม จึงเชื่อมั่นว่าการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้จะมีความถูกต้อง แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาวันที่ 15 มีนาคม กกต.ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน มีความพร้อมหรือไม่ และวันเลือกตั้งจะเป็นวันที่ 7 พฤษภาคมหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีครบอายุของสภาผู้แทนราษฎรหรือกรณียุบสภา ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งนั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 12 กำหนดให้ภายใน 5 วันนับแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งให้ กกต.ประชุมกันเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว ดังนั้น การกำหนดวันเลือกตั้งจึงต้องรอการประชุม กกต.อีกครั้งหลังมีพระราชกฤษฎีกา แต่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 103 กำหนดไว้ว่า หากมีการยุบสภาจะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน จึงมีกรอบของเวลาที่แน่นอน กกต.ขอยืนยันว่าจะจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ขณะนี้พิจารณาเสร็จเกือบครบทุกจังหวัดแล้ว พิจารณาไปกว่า 300 เขต จากทั้งหมด 400 เขต โดย กทม.ซึ่งมีจำนวน 33 เขตนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กกต.เป็นจังหวัดลำดับสุดท้าย แต่ทั้ง 400 เขตจะต้องดำเนินการเลือกรูปแบบที่เหมาะสมตามหลักเกณฑ์กฎหมายภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ แต่ยังไม่ดำเนินการส่งไปประกาศราชกิจจานุเบกษา เนื่องจากต้องรอผลคำวินิจฉัยการคำนวณจำนวน ส.ส.เขต ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีในวันที่ 3 มีนาคมนี้ก่อน
เบื้องต้นหากศาลเห็นว่าการคำนวณ ส.ส.ต้องนับเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยการแบ่งเขตจะกระทบกับ 8 จังหวัดเท่านั้น ซึ่ง กกต.ได้เตรียมแผนสำรองไว้รองรับหมดแล้ว ไม่ว่าผลคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นแบบใด
